จากกรณีของนางสาวกิ๊ฟ อายุ 18 ปี ที่ถูกนายปัญญา กมลศรี หรือ เล็ก อายุ 38 ปี แฟนเก่าที่เคยอยู่กินกันมา 6 ปี อุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ลักพาตัวหนีไป อีกทั้งยังส่งรูปภาพจับแก้ผ้าขึงโซ่ และคลิปเสียงข่มขู่มาให้ครอบครัว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 63
ล่าสุด วันที่ 3 ต.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับแจ้งว่า พบตัวนางสาวกิ๊ฟแล้ว กลับมาที่หน้าบ้านของ นางสงวน ถานทองดี อายุ 71 ปี ยายของนางสาวกิ๊ฟ พื้นที่หมู่ 9 หมู่บ้านหนองปลาดุก ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ในเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา
นางสาวกรรณิกา ดวงคุณ หรือ หนุงหนิง อายุ 19 ปี ลูกพี่ลูกน้อง ได้ได้โพสต์แจ้งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมลงรูปภาพ ระบุว่า "เจอตัวน้องแล้วนะคะ แต่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้"
นางสงวน เล่าว่า นางสาวกิ๊ฟเดินเข้ามาหาตนในบ้านแล้วเข้ามาสวมกอดตนด้วยสภาพบอบช้ำ ผมถูกกล้อน มีแผลช้ำขนาดใหญ่และรอยถากเป็นเส้น ๆ บริเวณหน้าท้องและข้างเอว โดยมีท่าทีเก็บอาการไม่อยากร้องไห้ให้ตนเห็น เพราะกลัวตนจะเป็นลม บอกกับตนว่าถูกนายเล็กใช้ท่อนไม้ไผ่ตีหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้ที่ตนเห็นรูปถูกจับแก้ผ้าล่ามโซ่ ตนถึงกับวูบสลบไป หลานไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟังเกี่ยวกับนายเล็ก แต่จากการสังเกตเวลาที่กลับมาบ้าน ก็มักจะถูกทำร้ายร่างกายมาเล็ก ๆ น้อย ๆ ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้หนักที่สุด ตนเคยเห็นนายเล็กแค่ 2-3 ครั้ง ตั้งแต่ครั้งช่วงแรก ๆ ที่นายเล็กมาสู่ขอ เมื่อครั้นหลานอายุ 12 ปี จากนั้นทั้ง 2 คนก็ย้ายออกไปอยู่ด้วยกันตามบ้านเช่าไม่เป็นหลักแหล่ง นาน ๆ จึงจะกลับมาเยี่ยมตนสักครั้งหนึ่ง
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตนก็อยากให้หลานเลิกกับนายเล็กให้เด็ดขาด ส่วนเรื่องการเอาผิดทางคดีนั้น คงขึ้นอยู่กับหลาน สาวนตนก็ดีใจมากแล้วที่หลานกลับมาอย่างปลอดภัย
นางสาวกรรณิกา ดวงคุณ หรือ หนุงหนิง อายุ 19 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับนางสาวกิ๊ฟ บอกว่า ขณะนี้ตนรู้สึกสบายใจที่ได้ตัวน้องสาวกลับคืนมา โดยวินาทีแรกที่ตนเห็นหน้าน้อง ตนได้โผลเข้ากอดด้วยความดีใจ สภาพน้องสาวลำตัวมีรอยถูกมีดจี้ ท้ายทอยถูกตีด้วยขวดเบียร์จนศีรษะแตก ต้นขามีรอยถูกน้ำร้อนลวก และนายเล็กซื้อยามาให้ล้างแผลเอง
ขณะนี้ น้องสาวของตนยังคงมีอาการหวาดกลัว จึงไม่กล้าที่จะเล่ารายละเอียดว่าถูกทำร้ายอย่างไรบ้าง รวมถึงยังไม่ปริปากพูดเรื่องประเด็นยาเสพติด อีกทั้งตนก็ยังไม่กล้าถาม เพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจ โดยขณะที่นางสาวกิ๊ฟให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ มีไข้และมีเลือดไหลออกมาจากรูจมูก จนเจ้าหน้าที่ต้องพาตัวไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย
นอกจากนี้ นายเล็กบอกกับน้องสาวของตนว่า "การปล่อยตัวในครั้งนี้ เพื่อให้กลับมารักษาตัว หายดีเมื่อไร จะกลับมารับไปอยู่ด้วยกัน 2 คน แต่จะมารับตัวแบบดี ๆ ไม่ดักฉุดแบบนี้อีกแล้ว" หลังจากนี้ อยากให้นายเล็กเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.โพนสวรรค์ เพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน ส่วนตนจะย้ายไปอยู่ที่อื่นจนกว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดี เพราะตนเกรงว่านายเล็กอาจจะแค้นตนแล้วย้อนกลับมาทำร้าย
นางสาวทราย ลูกสาวของนายเล็ก เปิดเผยว่า เมื่อนายเล็ก ผู้เป็นพ่อก่อเหตุเช่นนี้แล้ว ผู้เสียหายพาดพิงมาถึงตนว่าร่วมก่อเหตุลักพาตัวด้วย ตนก็รู้สึกเสียใจจนถึงขั้นอยากตาย เพราะตนไม่ได้เป็นคนทำ ตนมีพยานสามารถตรวจสอบได้ เช่น ครอบครัว คุณครู และเพื่อน
โดยไล่ลำดับเวลาของตัวเองในวันที่ 28-29 ก.ย. 63 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ วันจันทร์ที่ 28 ก.ย. ตนได้ตื่นเช้าไปโรงเรียนแล้วกลับมาบ้านในตอนเย็น ทำข้าวยำสมุนไพรเพื่อนำไปส่งคุณครูในวันรุ่งขึ้น จากนั้น วันอังคารที่ 29 ก.ย. ตนไปถึงโรงเรียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. และเข้าแถวถึงเวลา 08.00 น. จากนั้นก็ได้เข้าห้องเรียน เรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 11.00 น. แล้วก็ได้ออกไปกินข้าวกับเพื่อน กลับมาเรียนวิชาประกอบอาหารจนถึงเวลา 16.00 น. แล้วเข้าไปคุยกับคุณครูก่อนจะเดินทางกลับบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อตนกลับมาถึงบ้าน ตนก็ได้ไปหาคุณย่าแล้วไปหาเพื่อน แล้วกลับมาบ้าน ไม่ได้ไปก่อเหตุ ตอนนี้ตนเดือดร้อนที่อีกฝ่ายพาดพิงถึงตน เพราะตนไม่ได้ได้รู้เห็นด้วย ขณะนี้ตนกลายเป็นจำเลยสังคม แต่โชคดีที่เพื่อน ๆ คนรอบตัวนั้นเข้าใจ ส่วนคนที่ร่วมก่อเหตุน่าจะเป็นแฟนเก่าของพ่อ
ตนคิดว่าพ่อไม่น่าทำแบบนี้ เพราะนางสาวกิ๊ฟก็อายุพอ ๆ กับตน ตนรู้สึกว่าพ่อทำให้ตนเดือดร้อน ตนคงไม่มีอะไรจะบอกกับพ่อ เพราะไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว แต่ก็อยากให้พ่อมอบตัว อยากบอกนางสาวกิ๊ฟว่า "อย่ากลับไปยุ่งกับพ่อของตนอีก"
นางสกุณา โกมลศรี อายุ 41 ปี พี่สาวของนายเล็ก ซึ่งเป็นผู้ติดต่อกับนายเล็กได้เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 63 หลังนายเล็กก่อเหตุ บอกว่า หลังจากที่นายเล็กจับตัวนางสาวกิ๊ฟไป ตนก็ได้พยายามหาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อนายเล็กทุกเบอร์เท่าที่จะหาได้ แต่ติดต่อไม่ได้ จนสักพักนายเล็กก็ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่า "สบาย ๆ แค่ทะเลาะกัน แค่สั่งสอน" ตนรู้สึกโกธรมากจึงได้ด่าสั่งสอน เพราะขณะนี้นายเล็กกลายเป็นโจรที่ทุกคนรู้จักในเฟซบุ๊กไปแล้ว
ตนถามต่อว่า "มึงจะเอายังไงกับมัน" นายเล็กบอกว่า "ไม่ได้ทำอะไร มันอยู่กับกู กูแค่สร้างภาพเฉย ๆ ประจานผู้หญิงกะล่อน" จากนั้น ตนทนคำพูดของนายเล็กไม่ไหวจึงตัดสายไป แล้วติดต่อไม่ได้อีกเลย หลังจากที่คุยกับนายเล็กไปแล้ว ตนก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "จะหนีหรือจะไปไหน ก็ขอให้นำตัวนางสาวสุมลทิพย์ไปคืน จะได้จบ"
ทั้งนี้ หลังจากที่ตนทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายเล็กปล่อยตัวนางสาวกิ๊ฟออกมาแล้วพามาส่งที่หน้าบ้านญาติ ตนในฐานะพี่สาวของนายเล็กก็รู้สึกโล่งใจ ที่น้องชายไม่ลงมือทำอะไรไม่ดีไปมากกว่านี้ ซึ่งก็เหมือนที่ตนคาดการณ์ไว้ เนื่องจากทั้งสองคนรักกันมาก คบหากันมา 6 ปี ตนคิดว่านายเล็กน่าจะเห็นโพสต์ของตน ซึ่งโพสต์ของตนน่าจะมีส่วนที่ทำให้นายเล็กคิดได้ เชื่อว่าที่นายเล็กกระทำลงไป แค่อยากแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น
ตนอยากบอกนายเล็กว่า "พี่ดีใจเด้อ ที่เอาน้องกิ๊ฟมาคืน แต่ถ้าอยากให้พี่ดีใจกว่านี้ ก็ขอให้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือนักข่าว อยากระบาย อยากคุยกับใคร อยากคุยกับนักข่าวก็ขอให้บอก อย่าเอาคนอื่นไปยุ่งเกี่ยวอีก" จากนี้ หากเป็นไปได้ตนก็อยากให้เลิกกันไป
