หัวใจคนเป็นแม่แทบสลาย! ปล่อยลูกสาววัย 2 ขวบอยู่กับตาเพียงลำพัง ตาเข้าไปอาบน้ำออกมาหาหลานไม่เจอรีบตามหา ไปเจอห่วงยางลอยอยู่ในแม่น้ำบางปะกง ประสานชุดประดาน้ำค้นหาแต่ยังไร้วี่แวว
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 63 ตำรวจ สภ.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุเด็กหญิงวัย 2 ขวบเศษ หายตัวไปจากบ้านพัก ซึ่งคาดว่าน่าจะลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำบางปะกง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ชุดปฏิบัติการใต้น้ำ และอาสาสมัครกู้ภัย เข้าค้นหา
บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง น.ส.ศิริรัตน์ ศรีสมวงศ์ อายุ 39 ปีผู้เป็นแม่ เผยว่า ลูกสาวคือ ด.ญ.บุญญิสา คล้ายมงคล หรือน้องกะทิ วัย 2 ขวบกว่า หายตัวไปขณะเธอไม่อยู่บ้านออกไปทำงาน ลูกสาวอยู่กับนายถาวร ศรีสมวงศ์ อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นตาโดยลำพัง ก่อนเกิดเหตุคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่บ้านได้ไปทำบุญที่วัดกันหมดเพราะเป็นวันออกพรรษา มีเพียงตากับหลานอยู่ที่บ้าน แต่ในช่วงที่เกิดเหตุ ตาได้เข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้หลานนั่งเล่นอยู่ที่กลางบ้าน โดยที่ตาเองก็ได้ปิดประตูรั้วบ้านทุกบานไว้แล้ว เพราะเกรงว่าน้องกะทิจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปเล่นนอกบ้าน
ทว่าเมื่อตาอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำก็ไม่พบหลานสาว ไปดูที่ประตูบ้านก็ยังปิดอยู่ทุกประตู มีเพียงประตูภายในบ้านที่เชื่อมต่อไปยังสะพานท่าน้ำของแม่น้ำบางปะกง ตาจึงรีบลงไปหาหลาน เพราะคิดว่าอาจจมน้ำอยู่แถวนั้นก็ไม่พบ จนญาติ ๆ กลับมาจากทำบุญที่วัดทราบเรื่องก็ช่วยกันออกตามหาปรากฏว่าไปพบห่วงยางลอยอยู่ในน้ำ ห่างจากสะพานท่าน้ำไปประมาณ 20 เมตร จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และชุดปฏิบัติการใต้น้ำ ได้ระดมกำลังกันค้นหาใต้น้ำเป็นวงกว้างทั่วบริเวณที่คาดว่าน้องกะทิจะหลุดออกจากห่วงยางแล้วจมหายไป แต่ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงก็ยังไม่พบ เนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำบางปะกงช่วงเวลานั้นกำลังแรง และเป็นช่วงน้ำลง ที่น้ำในแม่น้ำบางปะกงจะไหลออกปากอ่าว
จากการสอบถามญาติพี่น้องทราบว่า น้องกะทิว่ายน้ำไม่เป็น และไม่เคยเล่นน้ำมาก่อน แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีลูกพี่ลูกน้องอายุประมาณ 10 ปี มาเล่นน้ำที่สะพานท่าน้ำ ซึ่งน้องกะทิก็ยืนดูพี่ ๆ เล่นน้ำกัน จึงเชื่อว่าน้องกะทิน่าจะพยายามทำตามที่พี่ ๆ ส่วนประตูเชื่อมท่าน้ำนั้น ตาบอกว่าไม่ได้ปิดเพราะไม่คิดว่าหลานจะออกไปเล่นน้ำ เพราะไม่เคยเล่นมาก่อนและไม่เคยเดินออกมาบริเวณนี้
