หนุ่มเก็บบัตร ATM ได้แล้วโพสต์ตามหาเจ้าของ แต่ถูกมิจฉาชีพสวมรอยนำข้อมูลไปซื้อของ

2 ต.ค. 63

หนุ่มพลเมืองดีเก็บบัตร ATM ที่เจ้าของลืมไว้คาตู้ แล้วนำไปโพสต์ตามหาเจ้าของในโซเชียลแต่กลับถูกมิจฉาชีพแอบนำหมายเลขบนบัตรไปซื้อสินค้าออนไลน์สูญเงินไปกว่า 20,000 บาท เจ้าของบัตรตัวจริงแจ้งความให้ตำรวจติดตามมิจฉาชีพรายนี้แล้ว

สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อว่า Apple Ponkvs ได้โพสต์รูปภาพ และเรื่องราวลงในกลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง มีใจความว่า #ช่วยแชร์ด้วยครับมิจฉาชีพได้กดเงินไป เจ้าของบัตรอนุญาตให้โพสต์ครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้เจอบัตร ATM อยู่ในเครื่องตอน 19.35 น. แล้วรีบวิ่งเอามาให้เจ้าหน้าที่ที่ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช ประกาศหาเจ้าของบัตรประมาณ 19.40 น. แล้วผมได้โพสต์ลงกลุ่มประมาณ 19.50 น. แล้วไม่ได้เซ็นเซอร์บัตรแล้วโพสต์ลงกลุ่ม แล้วมีมิจฉาชีพได้กดเงินไปประมาณ 20.00 น. ได้เงินไปประมาณนึงเยอะพอสมควร #ใครกดเงินไปเอมาคืนเจ้าของบัตรด้วยนะครับ ทางเจ้าของบัตรเดือดร้อน ถ้าไม่เอามาคืนทางเจ้าของบัตรจะดำเนินคดีนะครับ

1601611332476

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ติดตามหาเจ้าของโพสต์ดังกล่าว และได้พบกับ นายภณกฤศ พลจันทึก อายุ 34 ปี พนักงานขายเครื่องดนตรี บริเวณชั้น 2 ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ ผ่านบริเวณด้านหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ สาขาเทอร์มินอล 21 โคราช ตนได้ยินเสียงตู้เอทีเอ็มร้อง และเมื่อตนมองดูก็พบว่า มีบัตรเอทีเอ็มใบหนึ่งเสียบคาอยู่ตรงช่องเสียบบัตร ตนจึงรีบนำบัตรเอทีเอ็มไปแจ้งที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของศูนย์การค้า และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปบัตรเอทีเอ็มไว้ก่อนนำรูปภาพไปโพสต์ตามหาเจ้าของในโซเชียล แต่ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้โพสต์รูปภาพบัตรเอทีเอ็มไปโดยไม่ได้ปิดบังหมายเลขบัตรเอทีเอ็ม และหมายเลข 3 ตัวด้านหลังบัตร ทำให้มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสนำหมายเลขบัตรเอทีเอ็มไปซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้เจ้าของบัตรตัวจริงสูญเสียเงินในบัญชีไปจำนวนกว่า 20,000 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้ขอโทษเจ้าของบัตรตัวจริงแล้ว โดยเจ้าของบัตรไม่ได้ติดใจ และยังได้ขอบคุณตนที่ได้เก็บบัตรเอทีเอ็มมาคืนให้

1601611265940

ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าของบัตรเอทีเอ็มได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ติดตามหามิจฉาชีพรายดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้หากมิจฉาชีพทราบข่าวก็อยากให้ติดต่อนำเงินมาคืนเจ้าของบัตรเอทีเอ็มโดยเร็ว โดยหากนำมาคืนทางเจ้าของบัตรก็จะไม่เอาเรื่องแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ