จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "เจ้ม๊อยv+" โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับชายรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ และพยายามคุกคามข่มขู่หญิงสาวรายหนึ่งที่เป็นพนักงานขาย ล่าสุดได้แจ้งความแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ ชายคนดังกล่าวแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาที่ สภ.เมืองพัทยา โดยมีการโชว์บัตรถือวิทยุสื่อสาร แล้วโพสต์ท้าตำรวจพัทยา
ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าวชื่อนายพลพรรค เป็นอาสาตำรวจงานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรนาจอมเทียน และได้ถูกทางสถานีตำรวจภูธรนาจอมเทียนมีหนังสือคำสั่งปลดออกจากอาสาตำรวจงานป้องกันปราบปรามไปแล่ว เมื่อวันที่ 23 ก.ย.63
ล่าสุดวันที่ 28 ก.ย.63 ทีมข่าวลงพื้นที่พัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายสินค้าผ่านแคตตาล็อก จึงต้องเดินแจกแคตตาล็อกและเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 63 ตนได้ไปเดินแจกแคตตาล็อกสินค้า และบอกกับคนที่ตนแจกว่าบ้านตนอยู่แถวไหน เพื่อให้เขามารับสินค้า
ซึ่งระหว่างที่เดินแจกแค็ตตาล็อก ตนก็พูดคุยเกี่ยวกับการขายของ ไม่ได้พูดเรื่องชู้สาว แต่คาดว่าก็คงได้เบอร์โทรของตนจากแคตตาล็อก ซึ่งในวันนั้นช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ชายคนดังกล่าวโทรมาแต่ตนไม่ได้รับสาย หลังจากนั้นตนโทรกลับไปเพราะคิดว่าเขาเป็นลูกค้า แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าชอบตนและขอมาหา กระทั่งเวลา 19.00 น. ของวันเดียวกัน ก็มีคนมาเคาะห้องพักของตน ซึ่งตอนนั้นตนคิดว่าจะเป็นเจ้าของหอพัก
แต่เมื่อเปิดประตูก็พบนายพลพรรคยืนอยู่หน้าห้อง และผลักประตูเข้ามา บอกกับตนว่าอย่าร้องส่งเสียงดัง ตนก็พยายามรวบรวมสติและพูดกับเขาดี ๆ แต่นายพลพรรคก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง พยายามลวนลามตนโดยดึงตนไปโอบกอด ตนก็เกลี้ยกล่อมและยกมือไหว้กว่า 10 นาที ให้เขาออกนอกห้อง กระทั่งเขาใจอ่อนและเดินออกไป หลังจากนั้นเขาก็ขาดการติดต่อไปเลย
ต่อมาวันที่ 5 ส.ค. 63 เขายังส่งข้อความมาทางโทรศัพท์ว่าจะมาหาตนที่ห้องพัก และมีค่าขนมให้ 2,000 บาท แต่ตนก็ส่งข้อความกลับไปว่า มีสามีนอนอยู่ที่ห้อง เพื่อหลอกให้เขาไม่กล้ามา แต่ตอนนั้นตนก็ไม่ได้แจ้งความ เพราะกล้องวงจรปิดห้องพักดูไม่ได้
กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 63 นายพลพรรคได้ย้อนกลับมาที่หน้าห้องพักตนอีกครั้ง แต่ตนไม่อยู่ห้อง เขาจึงหาเบอร์โทรเจ้าของหอและแอดไลน์ไปพูดคุยกับเจ้าของหอในลักษณะที่อ้างตัวเป็นผู้กองพีท ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และอ้างกับเจ้าของหอว่าตนทำผิดกฎหมาย มียาเสพติดในครอบครอง และหลอกขายสินค้าแต่ไม่ยอมส่งสินค้า โดยขอความร่วมมือเจ้าของหอว่าให้เฝ้าดู ถ้าตนเข้าห้องพักเมื่อไรให้รีบแจ้งเขา ซึ่งตนคาดว่านายพลพรรคคงอยากเฝ้าดูพฤติกรรมตน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารู้สึกกลัวมาก จิตตกเพราะตนก็พักอยู่ห้องเพียงคนเดียว เพราะเขามักจะส่งรูปตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาข่มขู่ว่าไม่กลัว ซึ่งตนอยากให้ตำรวจช่วยติดตามคนผิดมาลงโทษ เพราะเขาเป็นภัยสังคม และตนทั้งกลัวและทั้งอับอาย ล่าสุด ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองปรือ ได้ข้อมูลว่า นายพลพรรคไม่ใช่ตำรวจจริง น่าจะเป็นแค่การ์ดสถานบันเทิงในพัทยา
ทีมข่าวโทรศัพท์ไปหานายพลพรรค ที่อ้างว่าเป็นผู้กองพีท ปลายสายมีชายอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้านายของผู้กองพีท ชื่อสารวัตรบอย เป็นชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และปลายสายมีเสียงบรรยากาศเพลงเสียงดังคล้ายอยู่ในสถานบันเทิง
ปลายสายบอกว่า ตอนนี้ผู้กองพีทไม่อยู่ ออกไปซื้อ ตนจึงมารับสายแทน และยืนยันว่านายพลพรรคเป็นตำรวจ และมียศเป็นผู้กองในชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ก่อนหน้านี้ตนได้สั่งให้เขาไปสืบราชการลับ หากผู้กองพีทไปทำเรื่องราวอะไรไว้ ตนก็ต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วย และจะให้สอบสวนลูกน้อง จะเอาออกจากการเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
ทีมข่าวสอบถามถึงตำแหน่งจริงของผู้กองพีทว่า "เป็นผู้ช่วยหรือเป็นผู้กอง" ด้านปลายสายอ้างต่อว่า นายพลพรรคช่วยราชการมานาน จึงมีการแต่งตั้งให้เป็นผู้กอง โดยแต่งตั้งในนาม เพราะเขาช่วยราชการจับยาเสพติดมาหลายครั้งแล้ว ผู้กองพีทไม่ใช่สุนัขตำรวจอย่างที่หลายคนคิด ซึ่งตอนนี้ก็ปฏิบัติภารกิจสืบหายาเสพติดอยู่ในพัทยา
