พี่เลี้ยง “น้องออมสิน” โต้บังคับกลืนตะปู เผยสุดช็อกเด็กชอบหัวโขก จิกตัวเอง - ลุงรู้ใครทำ (คลิป)

หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.พ.) ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้นำเสนอเรื่องราวของน้องออมสิน เด็กวัย 2 ขวบ ที่มีร่องรอยฟกช้ำ และมีรอยเล็บ บริเวณคอ แก้ม ผมหลุดร่วงไปจำนวนมาก ประกอบกับผลเอ็กซเรย์ ยังพบวัตถุคล้ายตะปู หรือน็อตอยู่ในกระเพาะอาหาร ขณะนี้เด็กยังมีอาการหวาดกลัวคนแปลกหน้า เด็กคนดังกล่าวได้อาศัยอยู่กับนายกมล อุ่นละม้าย มีศักดิ์เป็นลุงของเด็ก ส่วนพ่อ แม่เด็ก ได้ไปทำงานอยู่ที่จ.ชลบุรี ลุงเด็กได้นำเด็กไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านรับเลี้ยงเด็ก

ล่าสุด วันนี้ (17 ก.พ.) น.ส.รัตติกาล สุขประเสริฐ หรือ "แตง" พี่เลี้ยงเด็ก ที่จ.สิงห์บุรี แต่กลับไม่พบเจ้าตัว เจอเพียง นางต้อย (นามสมมติ) น้องสาวของอยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่ขอให้สัมภาษณ์ บอกเพียงว่า ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ตนและพี่สาวจะสลับกันทำหน้าที่เลี้ยงน้อง ก่อนที่ นายกมล จะมารับกลับบ้านที่ จ.อ่างทอง และจะมาส่ง น้องออมสิน อีกครั้งในช่วงสายของวันถัดมา จะมีบ้างครั้งที่เด็กจะนอนค้างคืนกับนายกมล นางต้อย บอกว่า น้องออมสิน มักมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองเวลาผู้ใหญ่เผลอ ทั้งข่วน จิกผมตัวเอง หนักสุดคือเอาหัวตัวเองโขกกับพื้น ตนจึงสงสัยว่าทำไมข่าวที่ออกมาพี่สาวจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งที่พี่สาวรัก น้องออมสินเหมือนลูก และเคยเลี้ยงดูเด็กคนอื่น จนได้ดิบได้ดีมาแล้วหลายคน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ได้นำของเล่นเด็กมาตรวจสอบดูว่า มีของเล่นชิ้นใดมีส่วนประกอบเป็นน็อตหรือประตู ซึ่งพบว่า ของเล่นยังมีสกรูยึดอยู่ครบ ประกอบกับของเล่นที่แตกหักนั้น นางต้อย บอกว่า ของเล่นชิ้นนี้ตนเก็บเอาไว้ ไม่ได้ให้เด็กเล่นแล้ว

นางอุบล กล่อมสุนทร อายุ 61 ปี ชาวบ้านที่ทำนาใกล้เคียงกับบ้านของนางแตง เล่าว่า ตนพักอยู่ที่หมู่บ้านอื่น แต่จะมาทำนาที่หมู่บ้านนี้เป็นประจำ และตนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด โดยครอบครัวนางแตง ย้ายมาเช่าบ้านที่นี้เกือบ 2 ปีแล้ว แต่ตนไม่ได้สนิทสนมด้วย แต่จะเห็นว่า นางต้อย จะเป็นคนเฝ้าบ้าน และคอยเลี้ยงดูเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 3 ขวบ ตนไม่เคยได้ยินเสียงอะไรผิดปกติมาก่อน โดยเวลาตนผ่านบ้านหลังนี้แล้วมองผ่านประตู จะเห็นเครื่องรางของขลังอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้

ส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.ท.เดโช กันหะ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ค่ายบางระจัน เจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า ล่าสุดได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปในเบื้องต้นแล้ว แต่นายกมล และนางแตง ยังไม่มีพิรุธใดๆ ซึ่งคำให้การของทั้งคู่ยังคงขัดแย้งกันอยู่ในบางเรื่อง หลังจากนี้ จะต้องไปสอบถามพยานแวดล้อมอีกครั้ง เบื้องต้น แม้เด็กจะมีอายุแค่ 2 ปี 4 เดือน แต่ก็พอจะคุยรู้เรื่องแล้ว แต่ยังไม่พูดอะไรมาก และยังไม่ได้บอกด้วยว่าใครเป็นคนทำ

ส่วนผลการตรวจบาดแผลตามร่างกาย แพทย์ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเกิดจากการที่เด็กทำตัวเอง หรือมีคนทำร้าย ขณะที่ผลจากการเอ็กซเรย์พบว่า ในลำไส้ใหญ่ของเด็ก มีสกรูเหล็ก ขนาด 1 เซนติเมตร จำนวน 1 ตัว ไม่ได้มีตะปูตามที่เป็นข่าว แต่สิ่งที่ยังตั้งข้อสังเกตอยู่คือ การพบว่า ซี่โครงซี่ที่ 6-8 หัก แต่เป็นรอยเก่า เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเคยหักมาแล้วประมาณ 3 เดือน แต่ทางพี่เลี้ยงบอกว่า ได้เด็กมาเลี้ยงตอนปลายเดือนพฤศจิกายน จึงต้องไปตามดูต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กในช่วงก่อนหน้านั้น แต่จากข้อมูลทราบว่า ก่อนหน้าที่เด็กจะมาอยู่กับลุงที่ จ.สิงห์บุรี เด็กเคยอยู่กับพ่อแม่มาก่อน แต่ทางพ่อเด็กต้องการให้ลูกเข้าเรียนที่นี่ จึงเอามาฝากกับลุง เพื่อหวังให้เด็กคุ้นเคยกับญาติ

ต่อมา ทีมข่าวได้พบกับ น.ส.รัตติกาล หรือ แตง ที่ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนทรงเจ้าแน่นอน และไม่เคยทำอะไรแบบนั้น ส่วนวัตถุมงคลต่างๆในบ้านที่เห็น ส่วนมากจะมีคนนำมาให้ ซึ่งจำเป็นด้วยหรือที่คนชอบบูชา จะต้องนำวัตถุเข้าท้องเด็ก ซึ่งการที่ตนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งที่ไม่ได้ทำผิด ก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่การที่ตนสงสัยว่าจะเป็นใครนั้น ตนไม่ขอพูด

ส่วน นายกมล ลุงของน้องออมสิน บอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้ติดต่อกับพ่อของน้องออมสิน และยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมหลาน เพราะเห็นว่า พ่อแม่ของเด็กได้เข้าไปดูแลอยู่ ตนยืนยันว่า ไม่ได้ผิดใจกันแต่อย่างใด ความรู้สึกตอนนี้ ตนรู้สึกเสียใจ ที่พ่อของน้องออมสินมองว่าตนเป็นคนทำร้ายเด็ก นอกจากนี้ นายกมล เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย.60 พ่อของน้องออมสินได้นำลูกมาฝากเลี้ยงไว้กับแม่สูงวัยที่ขาไม่ดี ตอนนั้นตนออกไปทำงานดูดวงที่วัด ซึ่งน้องชายไม่อยู่รอให้ตนกลับมาก่อน ก่อนหน้านั้น บอกแค่ว่าฝากเลี้ยงหน่อย เพราะตนเป็นคนโสดไม่มีลูก จึงตั้งใจว่าจะเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมอยากบอกกับ พ่อของน้องออมสินด้วยว่า "ถ้าใครทำก็รับมา ทำผิดก็ต้องกล้ารับ"

ขณะที่ นายวิโรจน์ อบกลิ่น หรือนายลี สามีของนางแตง ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ตนรักน้องออมสินเหมือนลูก เหมือนหลาน แต่เท่าที่ตนสังเกตพฤติกรรมของน้องออมสิน จะเห็นว่า น้องออมสินชอบดึงผม หรือเอาเล็บจิกขาตัวเอง บางครั้งก็มองซ้ายมองขวาเหมือนมีอะไร แต่พอถามก็ไม่ตอบ หลังจาก สังเกตพฤติกรรมของเด็กมาสักระยะ ตนและนางแตง จึงเริ่มคิดหาทางออก จนมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (15 ก.พ.) ได้ไปปรึกษาสถานพินิจ จ.สิงห์บุรี ถึงวิธีแก้พฤติกรรมนี้ ตนก็ลองให้เด็กชูสองนิ้ว แล้วกางเข้ากางออก เพื่อฝึกสมอง แต่เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายกลับพบว่ามีวัตถุบางอย่างภายในร่างกาย นายวิโรจน์ จึงอยากให้สังคมคิดว่า จะมีเหตุผลอะไร หากคนทำร้ายเด็กจะไปขอคำปรึกษาจากที่อื่น เพื่อให้ตำรวจมาจับตัวเอง ส่วนเรื่องซี่โครงหัก เรื่องนี้ตนกับนางแตงไม่ทราบ แต่ตอนอาบน้ำให้เด็กวันแรกๆ ก็เห็นรอยช้ำบริเวณข้างลำตัวแล้ว และที่โคนต้นขาทั้งสองข้างก็มีลักษณะเป็นไตแข็ง