ความหวังแช่แข็ง: ขอเกิดอีกครั้ง สัมผัสการสูญเสีย ความรัก ความหวัง

24 ก.ย. 63

ภาพยนตร์สารคดีไทยระดับรางวัลจากเวทีนานาชาติ Hope Frozen: A Quest To Live Twice หรือในชื่อภาษาไทยว่า 'ความหวังแช่แข็ง: ขอเกิดอีกครั้ง' ฉายใน Netflix แล้ว

1-hope_frozen__a_quest_to_liv

ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของครอบครัวชาวไทย ที่ตัดสินใจพาลูกสาววัยสองขวบที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งสมอง เข้าสู่กระบวนการไครออนิกส์ หรือการเก็บรักษาด้วยการแช่แข็ง เพราะหวังว่าสักวันหนึ่งลูกสาวของพวกเขาจะมีโอกาสได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทำให้หลายคนต่างรอคอยที่จะได้สัมผัสเรื่องราวของครอบครัวนี้ ก่อนที่จะเข้าฉายใน Netflix อย่างเป็นทางการ คนทำหนังและผู้อยู่เบื้องหลังวงการภาพยนตร์ ที่ได้รับชม Hope Frozen ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจและอยากแนะนำให้ชมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Netflix เปิดลิสท์ 2021 "กงยู-แบดูนา" รับบทนำใน The Silent Sea
- Netflix ประกาศสร้างซีรีส์ไลฟ์แอ็กชันเรื่องใหม่อย่าง Resident Evil
- ชุบชีวิต "แนนโน๊ะ" Netflix ประกาศสร้าง เด็กใหม่ เดอะ ซีรีส์ ซีซั่น 2

บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ (ผู้กำกับภาพยนตร์ เคาท์ดาวน์, ฉลาดเกมส์โกง)
“จากมุมมองของคนที่ยังไม่มีลูก แต่เข้าใจว่าการรักสิ่งใดในชีวิตมากๆ จะสามารถสร้างพลังให้เราโอบกอดและยึดมั่นในสิ่งเหล่านั้นมากแค่ไหน Hope Frozen คือสารคดีที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าชีวิตหลังความตายอาจจะมีอยู่จริง แต่เป็นสิ่งที่มาในรูปแบบของซอฟต์แวร์แห่งความรักและความทรงจำที่มีต่อผู้คนเหล่านั้นที่จากไป และบางครั้งสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการพาพวกเขากลับมาใหม่ คือการพาคนที่ยังอยู่ข้างๆ เราเดินหน้าต่อไป”

1-hope_frozen__a_quest_to_liv_1

กอล์ฟ ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ผู้กำกับภาพยนตร์ บอดี้ ศพ19, สี่แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย, ห้าแพร่ง ตอน หลาวชะโอน, รัก 7 ปี ดี 7 หน ตอน 14)
“เมื่อวิทยาศาสตร์และความเชื่อมาบรรจบกัน เป็นการดูสารคดีที่หัวใจเต้นถี่ทุกนาที เราได้เห็นความสูญเสีย ความรัก ความหวัง ตลอดการเดินทางแม้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จะริบหรี่ แต่ครอบครัวนี้แสดงให้เห็นถึงหัวใจอันแข็งแกร่งด้วยพลังใจเต็มร้อยจริงๆ”

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ (Documentary Club)
“ตื่นเต้น กระหายใคร่รู้ และชวนขบคิดตลอดเวลาที่ดู ดีใจมากที่มีสารคดีไทยซึ่งเล่าเรื่องวิทยาศาสตร์ ศาสนา และชีวิตมนุษย์เชื่อมโยงกันได้อย่างละเอียดลออแบบนี้”

ไพลิน วีเด็ล ผู้กำกับภาพยนตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่คาดหวังว่า “เราไม่ได้คาดหวังว่าผู้ชมต้องรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เพราะความรู้สึกของแต่ละคนน่าจะแตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญคืออยากให้เปิดใจและเรียนรู้ไปกับเรื่องราวของครอบครัวนี้ เพราะสารคดีคือการตั้งคำถามและพาไปสำรวจ ไม่ใช่การตัดสิน ส่วนใครที่กลัวว่าสารคดีจะน่าเบื่อรึเปล่า สำหรับเรื่องนี้เราเลือกเล่าเรื่องด้วยแนวทางของฟิคชั่น และประเด็นในเรื่อง คือการสูญเสียคนที่เรารักมากๆ เป็นประเด็นที่ใกล้ตัวทุกคนและมีความสากล คิดว่าคนดูจะเข้าถึงและสัมผัสถึงสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้ค่ะ”

1-hope_frozen__a_quest_to_liv_2

ลี ชาตะเมธีกุล ผู้ตัดต่อภาพยนตร์ เล่าถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า “มีโอกาสได้ชม Hope Frozen ในเวอร์ชั่นที่ฉายในเทศกาลมาก่อน ตอนได้ดูรู้สึกชอบมาก พอได้มีโอกาสมาตัดใหม่ในเวอร์ชั่นของ Netflix ก็รู้สึกดีใจ และอยากทำให้ของที่ดีอยู่แล้ว ดีขึ้นไปอีก เวอร์ชั่นใน Netflix เป็นเวอร์ชั่นที่ผู้ชมมีโอกาสได้ชมในวงกว้าง ดังนั้นเราเลยเลือกเล่าเรื่องให้กระชับ แต่ผู้ชมสามารถสัมผัสถึงความรู้สึกในหนังได้ ส่วนใครที่กลัวว่าหนังจะทำให้หดหู่หรือเปล่า จริงๆหนังไม่ได้ทำให้เราเศร้าเกินไป อาจจะมีน้ำตา มีสะเทือนใจไปกับครอบครัว แต่สุดท้ายเราก็จะเห็นความรัก ความหวัง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของทุกคน รวมถึงหนังเรื่องนี้ด้วย”

Hope Frozen กำกับโดย ไพลิน วีเด็ล ได้รับรางวัลระดับสากลมาแล้วจากหลายเวที ภาพยนตร์สารคดีของไพลินได้รับรางวัลชนะเลิศภาพยนตร์สารคดีนานาชาติยอดเยี่ยมจากเทศกาล Hot Docs Canadian International Documentary Festival ในปี 2019 และในปี 2020

1-hope-frozen_key-art_02

ไพลินก็ยังคว้ารางวัลชนะเลิศภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม จากภาพยนตร์สารคดีที่เข้าชิงรางวัลกว่า 900 เรื่อง ในเทศกาล San Antonio Independent Film Festival อีกด้วย

Hope Frozen เวอร์ชั่นที่ฉายให้ชมบน Netflix จะมีความแตกต่างจากที่ได้เคยฉายมาแล้วในเทศกาลต่างๆ เพราะได้เพิ่มเติมภาพความทรงจำที่ถ่ายโดยครอบครัวของน้องไอนส์และไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้จะเปิดให้รับชมได้ทั่วโลก ใน 31 ภาษาด้วยกัน โดยจะมีการพากย์เสียงเป็นภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, สเปน (ละติน), โปแลนด์, สเปน (คาสตีล), ไทย และตุรกี.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส