จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 63 เกิดเหตุสาวเบนซ์ป้ายแดงเมาขับชนดะเจ็บหลายราย ตำรวจใช้รถจักรยานยนต์ขวางก็ไม่สน ชนทั้งรถทั้งคน ชาวบ้านแห่ตามช่วยตามรวบตัวได้จนมุม ตั้งแต่เริ่มชนตั้งแต่แยกแคราย เมืองนนทบุรี เข้าถนนวิภาวดี เลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าถนนกำแพงเพชร สิ้นสุดถูดสกัดที่อาคารเตาปูนแมนชั่น
ส่วนผู้ก่อเหตุเครียด อ้างว่าถูกโกงธุรกิจ โดนอายัดเงินล้านเบิกใช้ไม่ได้ ขณะที่ตำรวจตรวจวัดแอลกอฮอล์พบสูง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้เสียหายเริ่มทยอยแจ้งความ และมีการไกล่เกลี่ยกันเรื่อยมาเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย
กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 63 เหยื่อสาวเบนซ์โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ผมเป็นผู้เสียหาย 1 ในนั้น คดีนี้ก็เงียบไปตามสูตร 11 สิงหาคม ถึงวันนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะส่งศาล ขอแรงคับแชร์หน่อยคับ เอาให้ถึงที่สุดคับ ผู้เสียหายมีหลายคน แล้วอีกอย่างทำไมคดีถึงเงียบขนาดนี้คับ รอผลตรวจจากโรงบาลตำรวจนานขนาดนี้เลยหรอ หรือเงินซื้อได้ทุกอย่าง !!! ทีพวกจับยานี่ส่งขึ้นศาลอย่างไว คนรวยทำไรก็ไม่ผิดหรอ หรือเห็นเงินมากกว่าความถูกต้อง #เจ๊GTA #เบนซ์เมาแล้วขับ"
ล่าสุด วันที่ 18 ก.ย. 63 นายกษิดิศ เพ็ชร์นิล อายุ 24 ปี เจ้าของโพสต์ เปิดเปยว่า ตนเองเป็นผู้เสียหาย 8 คน คดีตนเองตอนนี้ ล่าช้ามาก และตำรวจบอกกับตนแค่ว่ากำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ตนมองว่ามานมาก และผลตรวจร่างกายของสาวคนขับรถเบนซ์ก็ยังไม่ออกมา
ส่วนที่ตนเองตัดสินใจโพสต์ออกไปเพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม คดีไม่คืบ กลัวคล้ายคดีอื่น ๆ ในข่าวที่คนก่อเหตุเป็นคนมีเงิน และตีเนียนเงียบหายไป
ส่วนการเยียวยาตอนนี้ ประกันรถยนต์ออกมาให้ก่อน จากคนขับเบนซ์ 2,000 กว่าบาท ประกันให้อีก 10,000 กว่าบาท ยังเหลืออีกก้อนหนึ่ง ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จำนวน 30,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ ต่อจะมีการให้ตนเซ็นเอกสารยอมความอีก ซึ่งตนมองว่ายืดเวลารับผิดชอบตน ยังจะให้ตนยอมความ ตนไม่ยอมแน่นอนจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ที่สำคัญสุด ตอนนี้ตนกังวลกลัวคนมีเงิน มีเงินประกันตัวและหนีหายไป รถที่เกิดเหตุก็ราคาหลายล้านบาท กับแค่เงินชดใช้คนที่ถูกชน ทำไมเลื่อนแล้วเลื่อนอีก นอกจากตนก็มีผู้เสียหายอีกคนที่ตนทราบว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน ตนอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินคดี ให้จบเร็ว ๆ รวบรวมเอกสารหลักฐานและผลตรวจฝ่ายเบนซ์ ให้เร็วกว่านี้
ด้านนายจรัสพงศ์ อนุชาติบุตร อายุ 38 ปี เจ้าของรถ ยามาฮ่า n max และเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครวชิระพยาบาล ได้รับความเสียหาย มีร่องรอยถูกชน อุปกรณ์ไฟไซเลนแคชบาร์ที่มาคู่ตัวรถ ลำโพง ไซเลน กระเป๋ายาฉีกขาด ไมค์สำหรับส่งสัญญาณขอทาง และลำโพงเสียหาย
นายจรัสพงศ์ บอกว่า ตนเองเห็นใจเห็นคู่กรณีที่เป็นผู้หญิง เห็นเครียดสะสมจากการถูกโกง และตนเป็นอาสาช่วยคน อะไรช่วยได้ก็ช่วย จึงคิดค่าเสียหายไม่มาก จำนวน 54,000 บาท แต่ตนเองเพิ่งได้มาแค่ 20,000 บาท ยังเหลืออีก 34,000 บาท ส่วนคดีตนเองยังไม่คืบหน้ามาก ค่าเสียหายซ่อมรถที่เหลือตนก็ยังติดต่อฝ่ายคู่กรณีไม่ได้ และยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้ที่เหลือตอนไหน เงียบและเบี่ยงเบนมาตลอด
จากที่ตอนแรกตกลงกันว่าจะขอแบ่งจ่ายตนเป็น 2 งวด ให้จบภายใน 30 ส.ค. 63 จนถึงตอนนี้ก็เงียบไปเหมือนไม่สนใจตน ทำให้ตนเสียหายเยอะขึ้น จึงมาคิดว่าคนแบบนี้ตนไม่น่าเห็นใจและไม่น่าให้อภัยตั้งแต่แรก และอยากถามว่าตนจะเรียกร้องจากใครได้ ดูแล้ว น่าจะมีเหยื่ออีกหลายคนถูกละเลยเพิกเฉย บางคันจบไปแล้วก็มี ยังไม่จบก็มี
สุดท้าย ที่ตนอยากบอกอีกว่า "คุณทำผิดผมไม่ว่า แต่คุณควรออกมารับผิดชอบ ออกมาแสดงเจตนาว่าคุณสำนึกผิดจริง ตนก็ไม่ได้โกรธอะไร ที่ตนลดค่าใช้จ่ายให้ขนาดนี้เพราะเข้าใจ แต่นี่ไม่มีสำนึกเลย ผมช่วยคุณ แต่คุณไม่ช่วยผมเลย ถ้าคุณจ่ายตั้งแต่แรกคดีคงไม่ยาวนานขนาดนี้ มันน่าจะจบ"