นักธุรกิจร่วมลงขันรางวัลนำจับคดีชมพู่ครึ่งล้าน ลุงพลยังรอลุงอัจฯ ขอขมา (คลิป)

จากกรณีทีมทนายความจะช่วยลุงพล ฟ้องนายอัจฉริยะ จึงตัดสินใจให้ "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" เป็นผู้ดูแลคดีนี้ ขณะนี้มีการร่างฟ้องเรียบร้อยแล้ว เตรียมไปที่ศาลอาญาในวันจันทร์ที่ 14 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. โดยเตรียมฟ้องคดีอาญา และหมิ่นประมาท ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่  

ล่าสุดวันที่ 15 ก.ย.63 เวลา 22.00 น. ลุงพลจะขึ้นร้องเพลงแสดงบนเวทีพร้อมกับหญิงลี ที่ ตลาดนัด บขส.กบินทร์บุรี ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตอนนี้คุณอัจฉริยะก็ยังไม่ติดต่อมาขอโทษ ซึ่งตนก็ยังมีความหวังและรอคุณอัจฉะริยะมาขอโทษ

ส่วนกรณีที่ไล่ตนกลับไปทำไร่ทำนานั้น ตนอยากบอกว่าตนทำการเกษตรอยู่แล้ว ไม่ต้องไล่ตนก็ต้องกลับไปทำ เพราะเป็นอาชีพของตน แต่สำหรับเรื่องฟ้องนั้นตนก็ยื่นไปแล้วที่เหลือก็เป็นเรื่องของกระบวนการ

นายไชย์พล กล่าวต่อว่า ตนไม่กังวลว่าจะเป็นเครื่องมือใคร เพราะตนก็เชื่อว่าทนายนั้นเขาก็มีจรรยาบรรณในการทำงาน เขาว่าความให้ใครก็ต้องมุ่งไปประเด็นที่โจทก์ยื่นฟ้อง คงจะไม่นำคดีอื่น ๆ มาเกี่ยวข้องกัน ไม่มีเหตุผลต้องทำอย่างนั้น ส่วนเรื่องที่จะให้ทนายษิทรามาช่วยคดีน้องชมพู่นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องของพ่อแม่ของน้องชมพู่ ที่เขาต้องไปขอความช่วยเหลือจากทนายเอง

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ป้าของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนไม่คิดมากที่คุณอัจฉริยะจะไล่กลับไปทำไร่ทำสวน เพราะพื้นฐานอาชีพของตนคือต้องทำไร่ทำสวนอยู่แล้ว แต่ปีนี้ตนทำการเกษตรไม่ทันคนอื่นแล้ว กรีดยางก็ขายไม่ทันคนอื่น ทำให้ตนว่างงาน ในเมื่อมีงานด้านงานเพลง ตนก็ทำไปก่อน ส่วนปีหน้าค่อยมาเริ่มทำการเกษตรตามฤดูกาลใหม่

นางสมพร กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการฟ้องคุณอัจฉริยะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว ตนก็อยากให้เขามาขอโทษ เพราะถ้าสงสารตนอยากให้กลับไปทำไร่ทำนา ก็ควรมาขอโทษพวกตน พวกตนจะได้ไม่ต้องไปฟ้องขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งตนทราบว่าคุณอัจฉริยะขอโทษผ่านพี่ฟ้า ภรรยาหมอปลา แต่ก็เป็นคำที่ไม่สวยสำหรับความเป็นผู้ใหญ่ แต่ตนไม่ขอพูดในตรงนี้ เพราะคำบางไม่น่าพูดออกมา เมื่อก่อนตนดูเขาผ่านโทรทัศน์น่านับถือ ช่วยเหลือคน แต่เมื่อมาเจอกับตัวเองก็รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน

อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ได้กังวลว่าจะตกเป็นเครื่องมือของใคร เพราะตนได้ลุกขึ้นสู้และฟ้องไปแล้ว และไม่กลัว เพราะเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคม ก็น่าจะรู้ว่าควรพูดหรือไม่พูดเรื่องแบบนี้ ส่วนกรณีที่จะให้ทนายษิทราเข้ามาช่วยคดีชมพู่หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่น้องชมพู่ 

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่งานตลาด บขส.กบินทร์บุรี พบว่ามีการตั้งเวทีจัดแสดง แต่คนไม่ค่อยคึกคักมากนัก โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจินตนา ชาวบ้านที่มารอดูลุงพล เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาดูลุงพลโดยเฉพาะ เขาดูเป็นคนซื่อ พูดอะไรตรง ๆ ซึ่งตนติดตามข่าวเขามาตลอด ตนก็ไม่กังวลว่าเขาจะเป็นคนร้าย เพราะตนมั่นใจในตัวของเขา

สำหรับกระแสแบนลุงพล ตนก็ไม่รู้ว่าความคิดของคนที่แบนคิดอะไรอยู่ ใครจะว่าลุงพลอย่างไรก็ไม่เป็นไร เพราะตนยังเชื่อในตัวลุงพล และการที่ลุงพลโด่งดังเพราะอาจจะทำบุญมาเยอะ ทำให้มีบริวารมาก

พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล เปิดเผยว่า ตนมีความต้องการให้พลเมืองดีจากทั่วประเทศ ที่รักความเป็นธรรม รักความยุติธรรม ให้ออกมาบริจาคเงินเพื่อสมทบรางวัลนำจับคดีน้องชมพู่

หลังจากที่ตนออกมามอบเงินช่วยเหลือ 2 หมื่นบาท ก็มีหลายคนสนใจ และอยากเข้าร่วมสมทบทุน หลังจากลุงพล 1 แสนบาท หมอปลา 5 หมื่นบาท เพจอย่าหาทำ 3 หมื่นบาท พี่อุ๊บ วิริยะ 1 แสนบาท นายชัยวัฒน์ เจ้าของธุรกิจ แบรนด์ซิลเวอร์โกล 5 หมื่นบาท

ล่าสุดนายชัยวัฒน์ เจ้าของธุรกิจ แบรนด์เอสวีจี ซิลเวอร์โกล มอบเงินเพิ่มเป็น 1 แสนบนา จากเดิม 5 หมื่นบาท และนายอำนวย บริษัทอำนวยดับเพลิง มอบเงินเพิ่มให้อีก 2 หมื่นบาท รวมเป็น เงิน 4 แสน 2 หมื่นบาท

เงินรางวัลนำจับ ทั้ง 2 ราย จะมอบให้หลังจากมีคนแจ้งเบาะแส และออกมาให้ข้อมูลกับทางตำรวจ ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นการเสียชีวิตของน้องชมพู่อย่างแท้จริง คาดว่า หากได้ยอดเงินสูง ๆ จะช่วยให้จับคนร้ายได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน