จากเหตุการณ์ วันที่ 30 ส.ค.63 นายธวัชชัย บุตรวงษ์ หรือ ฟิวส์ อายุ 21 ปี ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ คาวาซากิ Z 800 สำน้ำเงิน-ดำ ลงจากเนินมาอย่างเร็ว แล้วหลุดโค้งเข้าปะทะกับรถเก๋งที่ขับมาช่องทางตรงข้ามบริเวณโค้งภูตาลี่ ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก หรือ เขาค้อ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นเหตุให้เสียชีวิ
ส่วนคนขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า BR-V สีขาว คือนายรณชัย อภิรมรัตน์ หรือ เอ็ม อายุ 33 ปี และครอบครัวซึ่งนั่งมาในรถเก๋ง หลังเกิดเหตุมีการตรวจร่างกายจนแล้วเสร็จ จึงเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ กระทั่งต่อมาอู่ซ่อมรถประเมินซ่อมรถเก๋งกว่า 300,000 บาท จากนั้นมีการไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีครอบครัวหนุ่มขับบิ๊กไบก์ ปรากฎว่าคู่กรณีเสนอเงินช่วยซ่อมเพียง 30,000 บาทเท่านั้น หากต้องการมากกว่านี้ให้ไปฟ้องร้องดำเนินคดี
ล่าสุด วันที่ 15 ก.ย. 63 นายรณชัย อภิรมรัตน์ หรือ เอ็ม คนขับรถเก๋ง ฮอนด้า BR-V สีขาว ที่ถูกบิ๊กไบก์ชนจนเสียหาย เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ มีการจอดรถไว้ที่อู่ เพื่อให้ประเมินค่าซ่อม กระทั่งทราบรายละเอียดการซ่อมและความเสียหาย ตัวเครื่องยนต์ด้านล่าง เกียร์ ช่วงล่างทั้งหมดเสียหาย ค่าซ่อมเบื้องต้นประมาณ 380,000 บาท ซึ่งยังไม่ใช่ค่าซ่อมที่ชัดเจน เพราะต้องตรวจสอบรายละเอียดความเสียหายอื่น ๆ ด้วย ซึ่งค่าซ่อมอาจจะเกินจากที่ประเมินไว้เบื้องต้น ตนจะได้รับจากประกันภัยรถยนต์ซ่อม 100,000 บาท เนื่องจากเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ วงเงินคลุ้มครองเพียง 100,000 บาทเท่านั้น
ส่วนความรับผิดชอบจากคู่กรณีครอบครัวหนุ่มขับบิ๊กไบก์ ที่ผ่านมาไม่เคยโทรศัพท์ติดต่อตนมา ไม่เคยสนใจถามไถ่ มีแต่ฝ่ายตนที่โทรศัพท์ติดต่อไปตลอด ซึ่งล่าสุดมีการไกล่เกลี่ย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 63 ที่ผ่านมาที่ สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ สาเหตุที่รอเวลาเนื่องจากตนให้เวลาคู่กรณีจัดงานศพแล้วเสร็จก่อน ส่วนตนส่งพวงหรีดไปที่งานศพและโทรศัพท์ไปแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ คู่กรณีมีการเตรียมที่ปรึกษา ทนายความมาเจรจาด้วย บอกว่าครอบครัวคนเสียชีวิตได้เงินจาก พ.ร.บ.รถบิ๊กไบก์จำนวน 150,000 บาท ซึ่งเงินที่เหลือจากการจัดการงานศพและใส่ซองมีเงินเหลือ 30,000 บาทเท่านั้น จึงเป็นเงินที่จะนำมาช่วยซ่อมรถ เพียง 30,000 บาท บอกว่าหากต้องการมากกว่านี้ ก็ให้ไปฟ้องเอา ยอมรับว่าตกใจ พูดไม่ออก จากที่เครียดอยู่แล้วก็เครียดกว่าเดิม เป็นความรู้สึกว่างเปล่า เขาบอกว่า "ฝ่ายเขาสูญเสียลูกชาย ตนรถยนต์เสียหาย ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากกว่านี้ ซวยเองที่ลูกชายตาย" ซึ่งตนก็ต้องดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อ นายณัฐพงษ์ บุตรวงษ์ พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เรื่องคดีให้สอบถามไปทางทนายความ เนื่องจากทางครอบครัวก็สูญเสียมากเช่นเดียวกัน เบื้องต้น หลังเผาศพน้องชาย ทางครอบครัวได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายคู่กรณีบอกว่ายังไม่รู้ยอดจำนวนเงินว่าต้องซ่อมรถเท่าไหร่ มีแต่จะให้ทางเรารับผิดชอบทั้งหมดซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทางเราก็สูญเสียเหมือนกัน ซึ่งหากคู่กรณีอยากได้อะไรก็ให้ไปคุยกับทนาย เพราะตนก็ไม่มีอะไรจะพูด
เท่าที่ตนทราบ คือ ประกันของคู่กรณีรับผิดชอบ 1 แสนบาท แต่ตอนนั้นเขายังไม่ได้บวกยอดว่ารถซ่อมเท่าไหร่ ทางทนายของตนก็บอกว่าจะช่วยซ่อมรถให้ในวงเงิน 3 หมื่นบาท แต่คู่กรณีบอกว่าไม่รับ ทนายจึงบอกว่าถ้าคุณไม่รับ คุณก็ไปฟ้องเอา จากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ ลงบันทึกประจำวันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ
