จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรม นางสายันต์ จันทา อายุ 65 ปี หรือ "เจ๊สายันต์" เจ้าของตลาดโรงเกลือ และนายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง อายุ 71 ปี สามี ภายในบ้านหรู ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ 10 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.คลองหาด ร่วมกับ สภ.เมืองสระแก้ว สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย ภายหลังเจ้าหน้าที่แกะรอย จากกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุ โดยจับกุม นายวิชัย พุ่มเรือง หรือ "ต่อ" อายุ 45 ปี ที่มีส่วนเกี่ยวกับการฆาตกรรมครั้งนี้
วันนี้ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อจำลองเส้นทางที่คนร้ายอาจจะใช้เดินทางในวันเกิดเหตุ จากบ้านนางสายันต์ จันทา ผู้ตาย และบ้านของนายวิชัย พุ่มเรือง ผู้ต้องหา ที่ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 2004 ซึ่งเป็นทางลัด ออกสู่ถนนสายหลัก หมายเลข 33 โดยเป็นเส้นทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร
เมื่อเปรียบเทียบ ด้วยการขับรถตามเส้นทางบนถนนสายหลักของ ต.คลองหาด โดยทั้ง 2 จุดนี้ มีระยะทางห่างกัน 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนลาดยาง แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นชุมชน ทำให้มีชอยค่อนข้างเยอะ และมีอยู่หลายซอยที่สามารถขับรถทะลุกันได้
ทีมข่าวทดลองขับรถเข้าไป ตามเส้นทางสวนหลังบ้านของผู้ต้องหา พบว่ามีถนนลูกรัง ที่สามารถขับรถไปถึงบ้านของผู้ตายได้ ซึ่งสามารถเข้าทางไร่อ้อย และสวนลำใยได้ 2 เส้นทาง คือ ซอยถัดจากบ้านผู้ต้องหา 1 ซอย มีระยะทาง 1.7 กิโลเมตร และเส้นทางที่ 2 ถัดไปอีกหนึ่งซอย ซึ่งเส้นทางนี้มีระยะทาง ประมาณ 2 กิโลเมตร
โดยถนน 2 สายนี้ ในช่วงกลางคืนจะไม่มีแสงสว่าง รวมถึงไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่ เนื่องจากเป็นถนนภายในไร่อ้อย และยังมีต้นไม่จากสวนที่ชาวบ้านปลูกไว้เต็มพื้นที่ ทำให้คนร้ายที่ก่อเหตุในคืนนั้น สามารถจอดรถไว้ แล้วเดินเท้าเข้าไปก่อเหตุได้
ทีมข่าวได้พูดคุย นายคืน และ กับนางเมา สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นคนเฝ้าสวนที่อาศัยอยู่ติดกับกำแพงบ้านของผู้ตาย และเป็นเจ้าของสวนลำใยที่อยู่ด้านหลังบ้านผู้ตาย ได้เล่าว่า เส้นทางหลังสวนลำใย สามารถเดินผ่านทะลุไปได้ 2 เส้นทาง
นายคืน เปิดเผยว่า เส้นทางที่ 1 สามารถวิ่งข้างคลองน้ำ แล้วตัดผ่านสวนออกไปได้อย่างสะดวก เนื่องจากไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่ และสามารถเดินทะลุไปที่ถนนรัชตะวิถี และถนนหมายเลข 2004 ได้
ส่วนเส้นทางที่ 2 ต้องเดินผ่านบ้านพักของตน ระยะทางประมาณ 200 เมตร โดยจะต้องเดินผ่านสวนลำใย จึงจะเจอถนนลูกรัง แล้วออกสู่ถนน 2004 ได้เช่นกัน นายคืน ยังบอกอีกว่า ในคืนที่เกิดเหตุ ตนไม่กล้าออกไปดู ได้ยินเพียงเสียงสุนัขเห่า โดยมีเพียงนางเมา ภรรยาเท่านั้นที่ออกไปดู
ด้านนางเมา เล่าว่า คืนวันเกิดเหตุตนได้ยินเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว เห่าไม่หยุด ลักษณะเหมือนกำลังจะวิ่งไล่กัดอะไรบางอย่าง ตนจึงลุกออกไปแอบดูตรงประตู แต่ด้วยความมืดจึงไม่ไม่เห็นอะไร ตนจึงวิ่งตามเสียงสุนัขที่เห่าอยู่ จนไปหยุดอยู่ตรงใต้ต้นลำใย บริเวณกลางสวน และนั่งลงกับพื้น เพื่อแอบดูว่าสุนัขกำลังเห่าอะไร แต่ก็ไม่เห็นอะไรเช่นกัน เพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด อีกทั้งตนเองเป็นผู้หญิง ไม่มีอาวุธติดตัว จึงไม่กล้าเข้าไปใกล้จุดที่สุนัขเห่าอยู่
ขณะเดียวกัน นางน้ำผึ้ง พุ่มเรือง ภรรยานายวิชัย ผู้ต้องหา ได้กล่าวว่า ขณะนี้นายวิชัย มีความกังวล และค่อนข้างเครียด และจากสภาพที่เห็น ยอมรับว่ารู้สึกท้อแท้ ไม่มีแรงสู้ต่อ
โดยนายวิชัย ยืนยันว่าตนเองไม่ผิด และอยากออกมาอยู่ข้างนอก ส่วนเรื่องการประกันตัวตอนนี้ตนและญาติ เตรียมเงินไว้ 6 แสนบาท ส่วนทางเทศบาลฯ ในฐานะหัวหน้างาน ได้ช่วยจัดการในเรื่องเอกสารให้ เนื่องจากมั่นใจว่า นายวิชัยไม่ได้กระทำผิด
เมื่อถามเรื่องหนี้สินในครอบครัว นางน้ำผึ้ง ยืนยันว่า ครอบครัวไม่มีหนี้สินใดๆ เพราะปกติจะกินอยู่แบบพอประมาณและไม่เคยกู้ยืมเงินใคร
นางสายันต์ ยืนยันอีกว่า ไม่เคยไปยืมเงินใคร พร้อมทั้งยังเคยบอกนายวิชัย อยู่เสมอว่า มีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น เพราะไม่อยากเป็นหนี้
ส่วนความสนิทสนมระหว่างตน กับครอบครัวผู้ตายนั้น ตนรู้จักเพียงนางสายันต์ และลูกสาว เท่านั้น แต่ไม่รู้จักกับสามีของนายสายันต์ สาเหตุที่สนิทกันเพราะตนกับลูกสาวผู้ตาย เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถม ดังนั้นตนจึงเป็นเพื่อนกับลูกสาวผู้ตาย
เมื่อถามถึงความสนิทสนมระหว่าง นายวิชัย กับ นางสายันต์ นางน้ำผึ้ง บอกว่า ทั้งคู่เคยทำงานด้วยกัน เวลาเจอกันก็ยกมือไหว้ทักทายกัน ไม่เคยก้าวร้าว หรือมีปัญหากันแต่อย่างใด