รวบ "บุษราคัม" หลอกหนุ่มดาวน์รถแล้วเชิดหนี ลั่นให้การชั้นศาลเท่านั้น

ตำรจรวบ "บุษราคัม" หลอกหนุ่มดาวน์รถก่อนเชิดหนีมีผู้เสียหายมากกว่าสิบราย เจ้าตัวให้การภาคเสธ พร้อมเผยจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น

จากกรณีชายหนุ่มหลายสิบคนใน จ.ชลบุรี ได้เข้าแจ้งความในช่วงปลายปี 62 ว่าถูกหญิงสาวสวยชื่อว่า "น้องหมวย" หรือ น.ส.บุษราคัม หลอกให้ดาวน์รถยนต์ให้แล้วหลบหนีไป ล่าสุดตำรวจแกะรอยจากเฟซบุ๊กจนสามารถจับกุมได้แล้ว

วานนี้(11 ก.ย.) พ.ต.ท.จิรวัฒน์ จันทร์ศรีเพชร รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี  ได้นำตัว น.ส.บุษราคัม หรือหมวย อายุ 23 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดชลบุรี ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์มาสอบสวนเพิ่มเติมก่อนส่งตัวฟ้องศาล หลังร่วมกับตำรวจ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมได้บริเวณร้านแห่งหนึ่ง ใน ต.หัวหิน อ.หัวหิน โดยตำรวจได้สืบสวนแกะรอยจากเฟซบุ๊กที่ น.ส.บุษราคัม ได้โพสต์ว่ามาเปิดร้านสปานวดเพื่อสุขภาพที่หัวหิน จึงได้นำหมายศาลไปแสดงและควบคุมตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ พร้อมเผยว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “บุษราคัม” หลอกเชิดรถผู้ชาย ลั่นไม่หนี ขอสู้ในชั้นศาล - เหยื่อท้อ รอเจอซึ่งหน้ากลับวืด
- "บุษราคัม" หลอกเชิดรถโผล่แล้ว พบ ตร. ปิดหน้าหนีสื่อ สับขาหลอกเหยื่อ แต่ไม่มีรถมาคืน
- “บุษราคัม” เปิดปากร่วมแก๊งหลอกเชิดรถส่งขายต่อ - เหยื่อแฉแชตจี้คืนรถ ถูกด่ากลับ

ด้าน พ.ต.ท.จิรวัฒน์ กล่าวว่า ได้จับกุมตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดชลบุรี 3 หมายจับด้วยกัน ที่ออกโดย สภ.ดอนหัวฬ่อ เนื่องด้วยมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ว่า น.ส.บุษราคัม ได้เข้ามาตีสนิทและรู้จักกันทางโลกโซเชียลก่อนติดต่อกันมาตลอด โดยน.ส.บุษราคัม ได้ให้เงินกับผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ชายเพื่อให้ไปดาวน์รถยนต์และได้ไปรับรถยนต์ที่บริษัทแต่เพียงผู้เดียว 

ต่อมาทางศูนย์จำหน่ายรถยนต์ที่ฝ่ายผู้เสียหายไปออกรถให้น.ส.บุษราคัมนั้น ได้ติดตามทวงให้ไปชำระค่างวด ทำให้ทราบว่าได้ถูก น.ส.บุษราคัม หลอกเอารถไปแล้ว ทั้งนี้ไม่ได้มีคดีแค่ สภ.ดอนหัวฬ่อที่เดียว ยังมีคดีอีกที่ สภ.แสนสุข, สภ.เสม็ด, สภ.เมืองชลบุรี และ สภ.พานทองอีกด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คัดค้านประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าจะไปต่อรองกับทางผู้เสียหาย อีกทั้งอาจจะมีการหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะเป็นคดีต่างกรรมต่างวาระ คดีโทษจำคุก 3 ปี ต่อ 1 คดี จึงอยากฝากถึงผู้เสียหายที่โดน น.ส.บุษราคัม ฉ้อโกงไปนั้นให้มาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะได้ดำเนินตั้งข้อหาเพิ่มแยกเป็นคดี ๆ ต่อไป