สหายลุงพลร่วมใจมอบเงินนำจับ 3 แสน พยานโผล่เพิ่มอีก 2 แจงเห็นไปวัดจริง (คลิป)

10 ก.ย. 63

กรณีนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยการตั้งรางวัลนำจับว่า ส่วนตัวได้คุยกับป้าแต๋นแล้วจะแบ่งเงินที่เพิ่งได้รับจากพรีเซนเตอร์สินค้า 150,000 บาท

757711

โดยจะนำเงิน 100,000 บาท ตั้งเป็นรางวัลนำจับ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คดีมีความคืบหน้า และอยากให้ผู้ที่สนใจเพิ่มเงินรางวัลนำจับ เพื่อให้คดีนี้คลี่คลายไปได้โดยเร็ว

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่  

286104

ล่าสุดวันที่ 10 ก.ย.63 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า ตนมอบเงินส่วนตัว 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นเงินรางวัลนำจับคนร้ายคดีน้องชมพู่ อย่างไรก็ตามได้มีแฟนคลับ และผู้ติดตามคดีนี้ ติดต่อมาหลายคน เพื่อขอร่วมบริจาคเงินด้วย เพื่อเอาไปให้พลเมืองดีที่ให้เบาะแสคนร้ายคดีน้องชมพู่

ส่วนเรื่องกองทุนคดีน้องชมพู่ ไม่คิดว่าจัดตั้ง หากจัดตั้งจะต้องโปร่งใส เช่น เมื่อมีเงินที่คนบริจาคเข้ามาแล้ว ถ้าหากตำรวจยังจับไม่ได้ ก็ต้องนำเงินคืนคนที่บริจาค ทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนคิดเอาไว้เท่านั้น ยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นมา

896434

ขณะนี้ตนมอบ 5 หมื่นบาท ส่วนสารวัตรแรมโบ้ 2 หมื่นบาท เพจอย่าหาทำ 3 หมื่นบาท และพี่อุ๊บ วิริยะ 1 แสนบาท ลุงพล 1 แสนบาท รวมเป็น 3 แสนบาท อยากให้พลเมืองดี ออกมาพูดความจริงว่า ใครทำร้ายน้องชมพู่ คิดว่าการตั้งเงินรางวัลคิดว่าน่าจะได้ผล

627723

คุณอุ๊บ วิริยะ ก็ขอร่วมลงขันด้วย 1 แสนบาท พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนเชื่อมั่นว่าลุงพลเป็นคนดี แล้วก็ไม่ใช่คนร้ายอย่างแน่นอน โดยตอนนี้ได้ส่งข้อความไปบอกป้าแต๋นแล้ว ซึ่งป้าแต๋นก็ดีใจที่ร่วมด้วย นอกจากตนแล้วยังมีหมอปลาเพิ่มมาอีกคน ซึ่งเขาร่วมลงขันอีก 5 หมื่นบาท ส่วนตัวก็อยากให้จับได้เร็ว ๆเพื่อความสบายใจของทุกคน และลุงพลจะได้เป็นผู้บริสุทธิ์เสียที

พี่อุ๊บ บอกอีกว่า การที่จะได้เงินจากตนไป ต้องโปร่งใส ไม่เป็นการจับแพะ ไม่มีการจัดฉาก หรือรู้เห็นเป็นใจกันกับนายตำรวจ เพื่อหวังฮุบเงินรางวัลนำจับของพวกตน ตนก็หวังว่าตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยตอนนี้เงินยังอยู่ที่ตน ไม่ได้มอบให้ใคร จนกว่าจะเจอตัวคนที่สามารถชี้เบาะแสคนร้ายตัวจริงได้เท่านั้น

423231

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ย้อนเส้นทางที่ นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ลุงของน้องชมพู่ พร้อมด้วยญาติ ๆ เดินทางไปส่งพระที่พักสงฆ์ป่าช้าหลวง ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร อีกครั้ง

944339

หลังจากที่มีข่าวเรื่องคดีน้องชมพู่ พระที่ลุงพลไปส่งก็ได้เจอกับตำรวจเพียงครั้งเดียว จากนั้นก็ไม่เจออีกเลย จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันก่อน มีตำรวจขับกะบะมา 2 คน ซึ่งสังเกตว่ามีนายม็อค ตามมาด้วย ซึ่งนายม็อคบอกว่า “ไม่มีอะไร แค่มาส่งตำรวจ” หลังจากที่ทุกคนลงจากรถ ก็ไม่ได้ชี้จุด หรือเดินสำรวจจุดใดเป็นพิเศษ ได้แต่นั่งคุยกันอยู่ภายในศาลา แต่มีช่วงหนี่งที่นายม็อค บอกกับตำรวจว่า “ตอนมาช่วงนั้นหญ้ารก ตอนนี้โล่ง สะอาดมากขึ้น” แต่ก็ไม่ได้ยินหรือการพูดคุยเกี่ยวกับคดี เกี่ยวกับลุงพลแต่อย่างใด

342912

การที่ตำรวจ พานายม็อคมาที่นี่ ก็เป็นเพราะต้องการดูสถานที่จริง แต่ก็อาจมีความเป็นได้ว่า อาจมีการตัดความสงสัยเรื่องเวลา หรือเส้นทางของลุงพลก็ได้ 

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปที่ถนนหน้าตลาดเศรษฐกิจชุมชนช่วยเหลือตนเอง หรือตลาดหนองสูง อ.หนองสูง ซึ่งลุงพลได้แวะชื้อเงาะ 1 ถุง ก่อนเดินทางกลับไปที่กกกอก โดยพบว่าตลาดดังกล่าวภายในมีแผงขายผลไม้ 1 แผง แต่ก่อนหน้านี้ จะมีรถเร่ขายผลไม้จอดอยู่หน้าตลาด 2 คัน เป็นชาวจากอำเภอกุดชุม โดยไม่ต้องเข้าไปชื้อในแผงตลาดก็ได้

982994

นายกันตพิชญ์ เอกชิษณุพงศ์ หรือดอน อายุ 35 ปี พ่อค้าขายเงาะในตลาดหนองสูง เปิดเผยว่า วันที่ลุงพลกลับมาจากส่งพระ แวะผ่านมาชื้อเงาะ ตนไม่ได้เจอด้วยตัวเอง แต่แม่ของตนเป็นคนเจอ ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ลุงพลเคยมาชื้อเงาะที่รถเร่หน้าตลาด ตอนนั้นยังไม่ดัง ไม่มีใครรู้จัก จึงไม่ได้สนใจว่าคือใคร ส่วนใหญ่จะมีลูกค้าผ่านไปมา แวะชื้อของที่ตลาดแห่งนี้ และแม่ยังบอกว่า ตอนที่ลุงพลมาชื้อเงาะ ได้มาพร้อมกับคนในครอบครัวหลายคน

917822

ปัจจุบัน รถขายเงาะ จะไม่มาขายแล้ว เพราะช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กรมทรงหลวง ได้มีการปรับปรุงถนน จึงได้มีการขยายขอบทาง จึงไม่อนุญาตให้รถเร่มาขาย วันนี้จึงไม่เจอกับรถเร่ที่ลุงพล แวะชื้อเงาะวันที่ 11 พ.ค.63

และหลังจากนั้น ช่วงที่เป็นข่าว แล้วลุงพลโด่งดัง มีคนรู้จัก ก็เคยแวะกลับมาชื้อเงาะและผลไม้อื่น ๆ ที่ตลาดหนองสูงอีก แต่เปลี่ยนเป็นนั่งรถตู้มา และมาพร้อมกับคนเยอะขึ้น ประกอบกับมีคนเข้าไปรุม ไปทักทาย ไปขอถ่ายรูป

จากนั้นทีมข่าวพบกับชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ทางเข้า-ออก ที่พักสงฆ์ป่าช้าหลวง ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร โดยอยู่ติดกับถนนดินแดง ทางเข้าที่พักสงฆ์ ซึ่งอยู่ห่างที่พักสงฆ์เพียง 20 เมตร

106196

นายเวียง ปทุม หรือนา อายุ 63 ปี ชาวบ้านบ้านเป้า เปิดเผยว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ลุงพลกำลังออกจากที่พักสงฆ์ เจอกับตนยืนอยู่หน้าบ้าน ลุงพลซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าคือใคร จนกระทั่งปรากฏเป็นข่าวดังตนจึงนึกขึ้นได้ว่า คือคนเดียวกันกับที่ลดกระจกทักทายตน วันนั้นลุงพลกลับออกจากวัด ลดกระจกครึ่งหนึ่ง แล้วตะโกนว่า “มาส่งพระ”

407879

จากนั้นก็กดกระจกขึ้น ขับออกไป แต่ก็ไม่ทันได้สังเกตว่าในรถมีใคร กี่คน แต่เท่าที่จำได้ คือช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. เพราะหลังตนกินข้าว ล้างจานอยู่ในครัวเสร็จ ออกมาก็มาเจอกับรถลุงพล จึงคาดว่าเวลาที่เจอลุงพลออกจากวัด คือ ตอนเวลา 12.30 น.

377619

อย่างไรก็ตาม ส่วนตอนเข้าไปในที่พักสงฆ์ ไม่รู้ว่า เข้าไปตอนกี่โมง เพราะไม่เห็น รวมถึงไม่ได้เข้าไปดู แต่ทักทายเล็กน้อยตอนกลับออกไปเท่านั้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส