เปิดเงื่อนไข "www. คนละครึ่ง .com" ใช้วันละ 100-200 บาท

4 ก.ย. 63

เปิดเงื่อนไข "www.คนละครึ่ง.com" แจก 3 พันบาทใช้จ่ายผ่านแอปฯ ใช้เท่าใดรัฐเติมให้เท่ากัน จำกัดวันละ 100-200 บาท คาดเปิดลงทะเบียน 1 ต.ค.นี้

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงมาตรการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศวงเงิน 45,000 ล้านบาท ให้ประชาชน 15 ล้านคน ว่า นโยบายจะเป็นการแจกเงินให้คนละ 3,000 บาท เพื่อซื้อของกับผู้ค้ารายย่อย โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องควักเงินของตนครึ่งหนึ่งมาใช้ร่วมกับเงินรัฐบาล โดยรัฐบาลจะช่วยจ่าย 50% ของการใช้เงิน เช่น ถ้าจะใช้เงินที่รัฐให้ 3,000 บาท ผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีเงิน 3,000 บาท ใส่เข้าไปในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”เพื่อเป็นช่องทางในการรับและจ่ายเงิน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
เตรียมรับเงิน! ศบศ.เคาะแจก 3,000 บาท 15 ล้านคน กระตุ้นการใช้จ่าย

สำหรับมาตรการดังกล่าวจะเปิดให้ประชาชนและร้านค้าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com คาดว่าจะจำกัดการใช้จ่ายไม่เกินวันละ 100-200 บาท ต้องใช้ให้หมดวันต่อวัน หากใช้ไม่หมดจะไม่สามารถเก็บไว้ใช้ในวันต่อไปได้

เงื่อนไขผู้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการคือ
1. ต้องถือสัญชาติไทย
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ร้านค้าย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ต้องขึ้นทะเบียน “ถุงเงิน” ไว้กับธนาคารกรุงไทย อาทิ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่ง หาบเร่ แผงลอย เป็นต้น

นายลวรณ อธิบายถึงเหตุผลในการจำกัดวงเงินใช้จ่ายต่อวันที่ 100-200 บาทว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดการใช้จ่ายแบบครั้งเดียววันละ 1,000 บาท เหมือนกับมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ที่เคยดำเนินการก่อนหน้านี้ แต่ต้องการให้เงินกระจายไปสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 63

vlcsnap-2020-09-04-10h07m19s6
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

“โครงการนี้มีลักษณะเงินต่อเงิน คือ ประชาชนต้องควักเงินมาต่อเงินที่รัฐบาลจะให้ด้วย เช่น กำหนดให้ใช้วันละ 100 บาท ประชาชนต้องมีเงิน 50 บาทมาร่วมใช้จ่ายในแต่ละวันด้วย โดยตลอดโครงการจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาท และจะพยายามจัดทำรายละเอียดและเสนอคณะรัฐมนตรี ช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ หากเป็นไปตามแผนจะสามารถเปิดให้ทั้งร้านค้าและประชาชนลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ในวันที่ 1 ต.ค. โดยปัจจุบันมีร้านค้ารายย่อยอยู่ในระบบถุงเงินกว่า 50,000 ร้าน และจะเปิดรับสมัครเพิ่มให้ไม่น้อยกว่า 100,000 แห่งก่อนเริ่มโครงการ” นายลวรณกล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ