กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าเสียชีวิตภายในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ใกล้ห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์พลาซ่า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ
พบนางบัญญัติ กัลป์ทอง อายุ 74 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนคว่ำจมกองเลือด ถูกของมีคมปาดบริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ เบื้องต้นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือทองคำหนัก 50 สตางค์ และแหวนทอง 1 วง ของผู้ตายหายไป จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเป็นตึกแถว 2 ชั้นด้านล่างเป็นปูน ด้านบนเป็นไม้ เปิดเป็นร้านเสริมสวย ด้านหน้าร้านถูกกั้นเชือกเอาไว้ ภายในเปิดโล่งมีอุปกรณ์เสริมสวย ทั้งกระจก หวีแปรงต่าง ๆ
นายสรายุทธ กัลป์ทอง อายุ 51 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ขณะที่ตนมาหาแม่ที่ร้าน น้องสะใภ้ก็วิ่งสวนออกมา พร้อมบอกว่าแม่เป็นลมในห้องน้ำ ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปดู พบว่าแม่นอนตะแคงเลือดไหลท่วมตัว จากการจับที่ตัวคิดว่าแม่น่าจะเสียชีวิตแล้ว แต่ก็พยายามโทรเรียกรถพยาบาล เมื่อรถพยาบาลมาถึง เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พบว่าแม่ของตนเสียชีวิตแล้ว โดยแพทย์ระบุว่าแม่มีแผลถูกปาดคอ ไม่ใช่อุบัติเหตุ ซึ่งตนก็สังหรณ์ใจแต่แรกแล้วว่าต้องเป็นฆาตกรรม เพราะข้าวของหน้าห้องน้ำกระจัดกระจายเหมือนถูกรื้อค้น และเลือดออกเยอะเกินไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินของแม่ เช่น สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ และแหวนหายไป ตนจึงมั่นใจว่าเป็นเรื่องการชิงทรัพย์แน่นอน แต่ตั้งไว้ 2 ประเด็นว่า คนร้ายอาจจะเป็นคนที่ไม่รู้จัก แต่เคยมาซุ่มดูจนรู้ว่าแม่ตนอยู่คนเดียว หรือคนร้ายอาจจะเป็นคนรู้จัก เพราะพยานเล่าว่าได้ยินเสียงแม่ตนพูดว่า "มึงจะเอาอะไรกับกูอีก" เหมือนรู้จักกับคนร้าย ซึ่งส่วนตัวยังไม่สงสัยใคร เพราะแม่มีเพื่อนเยอะ ที่ผ่านมาไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง ส่วนผู้ต้องสงสัยลักษณะเป็นทอม วัยกลางคน ตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นเข้ามาที่ร้าน
ทั้งนี้ ปกติแม่ตนจะพักที่ร้านเสริมสวยคนเดียว ส่วนตนจะเข้ามาหาแม่ในเวลา 14.00 น. ทุกวัน และอยู่เป็นเพื่อนแม่ไปถึงเวลาประมาณ 21.00 น. ครั้งสุดท้ายที่คุยกับแม่คือเมื่อวานนี้เวลา 21.00 น. ก่อนกลับบ้าน แม่พูดว่าอยากให้ตนเลิกบุหรี่ ตนบอกว่าของแบบนี้อยู่ที่ใจ ก่อนปิดประตูบ้านให้แม่ และออกมาจากบ้าน "ตนรู้สึกสงสารแม่มาก ที่เหมือนพยายามดิ้นจนตาย ที่ผ่านมาตนเคยบอกแม่ว่าหากมีคนร้ายมาปล้นก็ให้ทรัพย์สินไปเลย ไม่ต้องขัดขืน แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ตนไม่มั่นใจว่าแม่ตนมีโอกาสได้ต่อสู้หรือไม่"
นางประภาวรรณ อายุ 67 ปี เพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า ตนเจอนางบัญญัติครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ช่วงเย็น โดยตนกับนางบัญญัติ เดินออกกำลังกายกันตามปกติ กระทั่งทราบข่าวเมื่อเที่ยงว่าเพื่อนเสียชีวิตตนตกใจมาก ที่ผ่านมาตนเคยเตือนเพื่อนเรื่องใส่ทองว่าให้พยายามปิดเอาไว้บ้าง อย่าเอาออกมาโชว์ เพราะเห็นว่านางบัญญัติเปิดร้านเสริมสวย มีคนเข้าออกประจำ ซึ่งนางบัญญัติเคยพูดกับตนเมื่อเดือนที่แล้วช่วงที่ทองคำราคาทะลุ 30,000 บาทว่าอยากขายทองทิ้ง เพราะกลัวเก็บไว้กับตัวแล้วอันตราย รวมถึงกลัววางทิ้งไว้หลง ๆ ลืม ๆ และจะได้นำเงินก้อนมาใช้จ่าย
ซึ่งตนก็แนะนำให้ถอดเก็บไว้ เพราะขายไปก็เสียดาย แต่อีกฝ่ายยืนยันว่าอยากจะขาย ตนก็บอกว่าตามใจ ซึ่งหลังจากนั้นนางบัญญัติก็ยังไม่ขาย กระทั่ง 3 วันที่ผ่านมา นางบัญญัติยังพูดกับตนว่าอยากไปบวชชี ซึ่งตนก็ยังไม่ได้ถามเหตุผล อีกฝ่ายบอกว่ามีวัดที่แม่เคยไปสร้างกุฏิเอาไว้จึงอยากจะไปอยู่ โดยตนยังบอกให้มาเอาชุดขาวที่บ้านเพราะมีอยู่ 3 ชุด ซึ่งนางบัญญัติยังไม่ทันได้มาเอาก็เกิดเหตุขึ้นก่อน ส่วนตัวตกใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในเมือง ช่วงกลางวันแสก ๆ ดูอุกอาจมาก
