จากกรณีโลกออนไลน์ มีการเเชร์เรื่องราวน่าสลดใจ ที่ถูกเผยเเพร่จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ระบุข้อความว่า "น่าสงสารมาก...คลอดลูกได้ 4 วัน ให้หมอทำหมัน หมอทำเสร็จให้กลับบ้านได้เลย ขณะที่ร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรง เกิดอาการชักแล้วก็เสียชีวิต #ลูกยังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย เป็นเด็กผู้ชายน่ารักน่าชังมาก #สงสารหลานมาก_นมแม่ยังไม่ได้กินเรย #หน้าแม่ก็ยังใม่ทันเห็น ใครมีของใช้เด็กอ่อน บริจาคให้น้องใด้นะ"
ล่าสุด วันที่ 3 ก.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ศาลาชูเกตุ วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นสถานที่จัดพิธีศพผู้เสียชีวิต นางสาวภัสราวดี บรรโสภา หรือ จุ๊บเเจง อายุ 25 ปี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายคิว อายุ 26 ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันที่ 28 ส.ค. 63 เวลา 16.00 น. ได้พาภรรยาไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่ง ซึ่งภรรยาได้คลอดในเวลา 16.45 น. เป็นลูกชายน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม คลอดก่อนกำหนด 1 เดือน ซึ่งเป็นลูกคนที่ 4 ก่อนหน้านั้นภรรยามีลูกกับสามีเก่า 3 คน
ต่อมาวันจันทร์ที่ 31 ส.ค. 63 เวลา 14.00 น. หมอได้ผ่าตัดทำหมัน เนื่องจากเป็นความต้องการของภรรยา เเต่หลังจากที่ทำหมันเสร็จ ปรากฎว่าหมอให้ภรรยากลับบ้านเพียงคนเดียว เเต่ให้ลูกอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งตนเป็นผู้เดินทางไปรับกลับถึงบ้านเวลา 19.00 น. โดยระหว่างอยู่ที่บ้าน ภรรยายังดูปกติ เเละนอนอยู่ข้าง ๆ ตน มีการพูดคุยกันเรื่องชื่อลูก ซึ่งภรรยาตั้งชื่อว่า "น้องพายุ" และภรรยาได้พูดเป็นลางเเปลก ๆ ช่วงเวลา 20.00 น. หันมากอดตนพูดว่า "กูรักมึงนะ ถ้ากูนอนตายข้าง ๆ มึง มึงจะเป็นยังไง" ซึ่งตนก็ตกใจว่าเหตุใดภรรยาจึงพูดเช่นนั้น จึงได้ถามกลับว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า ไปหาหมอไหม" แต่ภรรยาก็ไม่ไป นอนตามปกติ โดยช่วงเวลา 05.00 น. ภรรยายังลุกมาห่มผ้าให้ตนด้วย
จนกระทั่งเวลา 05.40 น. แขนของภรรยาฟาดโดนหน้าอกตน มีอาการชักเกร็ง ลิ้นจุกปาก ตายังหลับ ซึ่งตนก็ได้ตะโกนเรียกพ่อให้ขึ้นมาดู ไปเรียกญาติให้ช่วยโทรเรียกรถพยาบาล เมื่อวิ่งกลับมาพบว่าภรรยาหายใจแรง 4 เฮือก มีเลือดไหลออกมาทางปาก มีกลิ่นเหม็นเน่า กลิ่นน้ำคาวปลา แล้วก็สิ้นใจ
จากนั้นเวลา 06.00 น. รถโรงพยาบาลก็มาถึง พยาบาลได้ทำการปั๊มหัวใจ สัญญาณชีพก็กลับมา 5 วินาที แล้วก็เสียชีวิต ต่อมาได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผลชันสูตรเบื้องต้นระบุว่าเส้นเลือดหัวใจฉีกขาด ทั้งนี้ต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
หลังจากนั้นตนเองได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ทำคลอด เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้แจ้งว่าภรรยาเสียชีวิต หมอก็ตกใจ และแสดงความเสียใจ ให้เหตุผลว่าที่ให้ภรรยากลับบ้านเนื่องจากเห็นว่าภรรยาแข็งแรงดี ซึ่งตนยังติดใจสาเหตุการตายว่าเกิดจากการทำหมันหรือไม่ เเละเหตุใดโรงพยาบาลจึงรีบให้ภรรยากลับบ้าน ไม่ให้นอนดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน ตนยืนยันว่าภรรยาไม่มีโรคประจำตัว และสงสารลูกมากที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด
ด้านนายแพทย์ สุวินัย บุษราคัมวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตร สำหรับการทำหมันของคนไข้รายนี้เป็นการทำมันเปียก หรือการทำหมันภายหลังจากการคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย เทคนิคที่ใช้เรียกว่า "ที.ไอ.วี.เอ." ซึ่งไม่ได้ดมยาสลบ ไม่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ เพียงแค่ฉีดยาให้เคลิ้ม ไม่เจ็บไม่ปวด ใช้เวลาทำหมันประมาณ 30 นาที
หลังจากทำเสร็จคนไข้รู้สึกตัวดี จากการตรวจร่างกายวัดความดัน วัดชีพจร ทุกอย่างปกติ แพทย์จึงให้กลับบ้านในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำหมันทั่วไป ที่สามารถกลับบ้านได้เลยภายในวันเดียว ในกรณีที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
ส่วนอาการชักเกร็งและเสียชีวิตของคนไข้ ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการทำหมัน หรือกระบวนการของโรงพยาบาล เพราะหากตกเลือดหรือเสียเลือดมาก คนไข้จะต้องปวดท้องอย่างหนัก เเละต้องมาหาหมอภายในคืนนั้น แต่ก็กรณีนี้คนไข้ไม่ได้มีอาการผิดปกติ เป็นอาการเฉียบพลัน ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากภาวะบางอย่างที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นและทำให้ผู้ตายเกิดอาการชักเกร็ง และช็อกเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลก็มีมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยา อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงผู้ที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าอย่านำเรื่องราวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาล รวมไปถึงสร้างความเสียหายแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต
