"ปลัดจอมแฉ" แจ้งความดำเนินคดี "ณอน บูรณะหิรัญ" 3 ข้อหา กรณีเปิดรับบริจาคช่วยไฟป่าดอยสุเทพ
จากกรณีที่ไลฟ์โค้ชชื่อดัง "ฌอน บูรณะหิรัญ" ได้ไปร่วมปลูกป่ากับ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี แล้วมีคลิปชมเชย จนชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก เรื่องราวบานปลายขยายไปสู่การตรวจสอบเงินบริจาคดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ และเรื่องราวประวัติส่วนตัวของ ณอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ฌอน"
- "ฌอน" ยันไม่รู้จัก "บิ๊กป้อม" เป็นการส่วนตัว แจงไม่ได้รับจ้างไปปลูกป่า
- "ฌอน" ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แจงคลิปจั๊มพ์คัทเยอะเพราะพูดไทยไม่คล่อง
- เผยยอดบริจาคผ่าน "ฌอน" อาจพุ่งถึง 50 ล้านบาท
- "ฌอน" ชี้แจง เงินบริจาคช่วยไฟป่า เกือบล้าน ใช้ทำอะไร
- "ศรีสุวรรณ" แจ้งความเอาผิด “ฌอน” 3 ข้อหา ฉ้อโกง-ยักยอกทรัพย์-พ.ร.บ.คอมพ์
- "โตโน่" ลั่นบริจาค 1 แสนบาท ผ่าน "ฌอน" ถ้าโกงจริง ก็เสียความรู้สึก แต่ยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม
ควาบคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (2ก.ย.63) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม และประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ "ฌอน บูรณะหิรัญ" เน็ตไอดอลและไลฟ์โค้ชชื่อดัง กรณีเปิดรับบริจาคเงินอ้างจะนำไปช่วยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการดับไฟป่าดอยสุเทพ ซึ่งต่อมามีผู้เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
โดยจากการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและการให้ถ้อยคำของผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้เสียหาย, เจ้าหน้าที่และหน่วยงาน จนได้ข้อสรุปหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์, พระราชบัญญัติการเรี่ยไรและฉ้อโกงประชาชน ถึงจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ นายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีการโอนเงินบริจาคจากประชาชนเข้าบัญชีของฌอนทั้งสิ้นกว่า1.45ล้านบาท ซึ่งมีการโอนต่อไปยังบัญชีส่วนตัวของฌอนและใช้จ่ายต่างๆ ที่ทำให้เกิดความน่าสงสัยว่า อาจจะมีการนำไปใช้ไม่ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค
ขณะเดียวกันก็มีผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล จนได้ข้อสรุปเป็นที่น่าเชื่อถือได้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ เพื่อหวังให้เป็นกรณีตัวอย่าง ไม่อยากให้ใครมีการแอบอ้างความทุกข์ยากของประชาชนและปัญหาภัยพิบัติต่างๆ มาเปิดรับบริจาคแล้วนำไปใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมมากกว่า
หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
