อดีต อบต.แจงคลิปชักปืนตบสาว ท้าสาบานถ้าทำจริง ยันคนเจ็บค้ำหนี้ 2 ล้านแทนเพื่อน (คลิป)

1 ก.ย. 63

วันที่ 1 ก.ย. 63 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.วริดา หรือ แพรวา อายุ 34 ปี  พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ อายุ 34 ปี สามี เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังถูกนักการเมืองท้องถิ่นใช้อาวุธปืนตบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ แต่คดีไม่คืบหน้า และถูกโทรมาข่มขู่ไม่เว้นแต่ละวัน

327909617948

น.ส.วลิดา เปิดเผยว่า ตนเองทำธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรเมื่อปี 2560 มีเพื่อนนักธุรกิจชาวจีนขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงขอให้ตนช่วย จึงแนะนำให้ไปกู้เงินจากนายสุพิศ ทรัพย์ศรี อดีตนายก อบต. จ.สมุทรสาคร เป็นจำนวนเงิน 5.5 ล้านบาท โดยเสียดอกเบี้ยในอัตรา 2.5% ต่อเดือน และเสียดอกเบี้ยเรื่อยมาไม่เคยขาด

883676

ต่อมาเพื่อชาวจีนเดินทางกลับประเทศและยังไม่สามารถกลับเข้ามาได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เพื่อนก็ยังติดต่อทำการค้าพูดคุยกันตลอดเวลา

465473

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 63 เวลา 17.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังทำผมอยู่ที่ร้านเสริมสวย นายสุพิศเข้ามาที่ร้าน พร้อมยื่นเอกสารให้ตนเองเซ็นรับสภาพหนี้ที่เพื่อนกู้ไว้ ตนเองพยายามอธิบายเหตุผล แต่นายสุพิศเอาแต่เอะอะโวยวายไม่ฟังคำอธิบาย ดุด่าต่อว่าตนเองพร้อมชักอาวุธปืนลูกโม่ขึ้นมาตบเข้าที่ใบหน้าตนเอง 2 ครั้ง ชกใส่หน้าอีก 1 ครั้ง จนจมูกที่เสริมมาเบี้ยว หน้าผากเป็นแผลแตก ตาซ้ายบวม ระหว่างนั้นสามีคือนายประสิทธิ์ เข้ามาและพยายามห้ามปราม นายสุพิศจึงออกจากร้านไป

333118

ด้านนายสุพิศ ทรัพย์ศรี อดีตนายก อบต. ใน จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันเป็นเจ้าของค่ายมวย เปิดใจว่า ตนเองยืนยันว่าวันเกิดเหตุ 25 ส.ค. 63 เดินทางไปพบ น.ส.วริดา จริง เพราะต้องการตามให้มาเซ็นสัญญากู้ยืมเงิน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.5 บาท/เดือน แต่เจ้าตัวบ่ายเบี่ยงและโกหก ซึ่งเงินจำนวนนี้ตนอยากได้คืนเพราะตนเดือนร้อนเงินเหมือนกัน บ่ายเบี่ยงและโกหก ผลัดตนตลอดมา

967925

ทั้งนี้ ตนขอสาบานว่าวันเกิดเหตุ ตนไม่ได้ใช้ปืนตบหน้า น.ส.วริดา แต่ยอมรับใช้มือขวาตบหน้าจริง ทำให้แหวนที่นิ้วมือไปถูกหน้าผากผู้เสียหายจนเป็นแผล หากตนโกหก ตนใช้ปืนตบหน้าผู้เสียหายจริง ขอให้ตนและครอบครัวมีอันเป็นไป ไม่ว่าทุกอย่างตนกล้าสาบานได้ จะเป็นหลวงพ่อวัดไร่ขิง หรือหลวงพ่อโสธร หรือต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ได้ ส่วนในคลิปที่เห็นตนนำปืนออกมา ตนไม่ได้เอาออกมาขู่ ตนแค่หนักกระเป๋าจะเอามาใส่กางเกง

จากนี้ขอให้เป็นไปขั้นตอนกฎหมาย ตนรับว่าทำร้ายจริง แต่ผู้เสียหายก็มาเอาเงินตนไปจริง โดยผู้เสียหายไปหาผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่จึงเป็นตัวกลางติดต่อมาหาตนอีกที ก่อนจะเป็นเรื่องเป็นราวดังกล่าว เงินทั้งหมด 6.5 ล้าน แต่ที่มีปัญหาจริง ๆ คือ 2 ล้านบาทเท่านั้น

675608

ต่อมา นายสุพิศ พาทีมข่าวเดินทางไปพบผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับพยายามต่อสายโทรหา น.ส.วริดา เพื่อตามมาเจรา ท้าสาบานต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการสนทนาระบุว่า "แพร ไปจุดธูปวัดไร่ขิงกับผมไหม" ปลายสายตอบว่า "เรื่องนี้มันไม่ต้องสาบานหรอก มีพยาน" นายสุพิศ ตอบกลับว่า "พยานเท็จนะสิ รู้กันนะสิ ไปสาบานด้วยกัน ขอให้มีอันเป็นไป"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส