พิสูจน์โยนเชือกแขวนขื่อคลี่ปมอดีตพยาบาลตายบ้านผัว พี่โต้น้องขาเจ็บเขย่งไม่ได้ (คลิป)

1 ก.ย. 63

กรณีพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสระบุรี รับแจ้งว่ามีคนผูกคอตายภายในบ้าน ถนนพหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จากการตรวจสอบพบร่างของ น.ส.ธิดาเดือน รุ่งแสง อายุ 42 ปี อาชีพพยาบาล มีรอยเชือกรัดที่คอจนช้ำหน้าผากข้างซ้ายโน และแตกเลือดไหล

717372

โดยนายเอกพัฒน์ คันธาวัฒน์ สามีผู้ตาย อ้างว่านอนอยู่ในบ้าน ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกัน จึงรับลูกสาววัย 3 ขวบมาอยู่ที่บ้านตัวเอง จนฝ่ายหญิงตามมาทวงลูกเกิดน้อยใจผูกคอตัวเอง แต่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ปักใจเชื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

619058802086

วันที่ 1 ก.ย. 63 พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายปรีชา รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี ระบุว่า จากการสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทราบว่านายมนตรี พ่อเจ้าของเนอร์สเซอรี่เป็นผู้พบศพคนแรก จากนั้นไปตะโกนบอกข้างบ้าน มีพ่อกับลูกชายออกมา จากนั้นทั้ง 2 คนไปตะโกนหน้าบ้านที่เกิดเหตุ

619529

นางธวัลรัตน์ ภรรยาหลวง อ้างว่าได้ยินเสียงและเปิดประตูทางหลังบ้านออกมาดู ก่อนเข้าไปตามนายเอกพัฒน์ สามี ซึ่งนายเอกพัฒน์ได้ออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่นายอ่ำ ลูกน้องมาทำงานที่บ้านพอดี นางธวัลรัตน์จึงออกมาเปิดประตูบ้านให้นายอ่ำเข้าไปในบ้าน ซึ่งนายอ่ำเป็นคนปลดเชือก ส่วนนายเอกพัฒน์เป็นคนยกร่าง น.ส.ธิดาเดือน ลงมาด้านล่าง

470698

ทั้งนี้ เพื่อตัดประเด็นข้อสงสัยว่าผู้ตายสามารถคล้องเชือกเองได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ได้จำลองคล้องเชือกในจุดเกิดเหตุ โดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจความสูง 162 เซนติเมตร ลองขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ ย่อตัวลงเล็กน้อยให้ขนาดตัวเท่ากับผู้ตายที่สูง 160 เซนติเมตร ก่อนคล้องเชือกห้อยลงมาจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบว่าสามารถทำได้

320656

น.ส.กฤตชญา รุ่งแสง พี่สาวคนโตของผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้ช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญญาติไปดูการจำลองเหตุการณ์การคล้องเชือกบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยพบว่าเจ้าหน้าที่ผู้ชายความสูงใกล้เคียงกับน้องสาวตนเป็นตัวจำลอง ซึ่งชายรายดังกล่าวได้ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้พลาสติกความสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ก่อนเขย่งโยนเชือกขึ้นไปคล้อง ซึ่งก็ต้องทำซ้ำหลายครั้งใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที จึงจะคล้องได้

เจ้าหน้าที่ระบุว่าเพื่อคลายข้อสงสัยให้กับญาติว่าผู้ตายสามารถคล้องเชือกเองได้หรือไม่ ซึ่งตนก็ยังไม่เชื่อว่าน้องสาวจะปีนขึ้นไปคล้องเชือกเองได้ เพราะน้องเป็นผู้หญิงที่ขาเจ็บจากการผ่าตัด ไม่น่าจะเขย่งได้มาก ส่วนตัวยังเชื่อว่าน้องไม่ได้ฆ่าตัวตายแน่นอน โดยอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไขคดีและให้ความเป็นธรรมกับทางญาติด้วย ตนยืนยันไม่ได้ปรักปรำนายเอกพัฒน์ ผู้เป็นสามีว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่อาจจะเป็นฝีมือของบุคคลอื่น ซึ่งไม่มีใครรู้ก็ได้

906350

จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบนางธวัลรัตน์ ภรรยานายเอกพัฒน์อยู่หน้าบ้าน แต่เมื่อเห็นทีมข่าวก็รีบปิดประตูเข้าบ้าน ไม่ตอบคำถามใด ๆ นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านนายอ่ำ ลูกน้องนายเอกพัฒน์ พบว่านายอ่ำอยู่ในบ้านเช่นเดียวกันแ ต่ไม่ออกมาพูดคุยด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส