กรณีที่เพจเฟซบุ๊ก "ข่าวสารปราการ V2" มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอวงจรปิด พร้อมระบุข้อความว่า "สุดในซอย! ใหญ่สุดย่านสำโรงใต้ สมาชิกฯ แจ้งว่ามีกลุ่มชายลงจากรถพร้อมถือสิ่งคล้ายอาวุธปืนลงมาข่มขู่อริที่โต๊ะสนุก ในซอยบางหญ้าแพรกสำโรงใต้ คนถือยิ่งใหญ่แค่ไหนไม่รู้ ผู้แจ้งถึงกับอ้อนวอนว่าอย่าเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเพจฯ ไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน ฝากเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของตนด้วย" โดยภาพคลิปวิดีโอดังกล่าวนี้ บันทึกภาพชายปริศนาเดินลงจากรถเก๋งสีขาว พร้อมถืออาวุธปืนลักษณะคล้ายอาวุธปืนยาวชนิดจู่โจมเดินลงจากรถอย่างอุกอาจ
วันที่ 29 ส.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ด้านหลังตลาดบางหญ้าแพรกภายในซอยบางหญ้าแพรก เป็นลักษณะโต๊ะสนุกเกอร์แบบเปิด ด้านหลังร้านสะดวกซื้อพบว่าวันนี้โต๊ะสนุกยังไม่เปิดให้บริการ และไม่มีคนอยู่เฝ้าภายใน
ทีมข่าวได้รับรายการจากชุดสืบสวน สภ.สำโรงใต้ ว่ากลุ่มชายที่ปรากฎในคลิปวงจรปิด 3 คน ที่ถืออาวุธปืนคือ นายเกรียงศักดิ์ สุขจะ หรือ อู๊ด อายุ 50 ปี คนถืออาวุธปืน, นายณรงค์ชัย เพิ่มธงชัย อายุ 30 ปี คนขับรถเก๋ง และนายสมคิด เกตุแก้ว อายุ 48 ปี คนนั่งข้างคนขับ ทั้งหมดแสดงตนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
นายเกรียงศักดิ์ สุขจะ หรือ อู๊ด อายุ 50 ปี คนถืออาวุธปืน เปิดเผยว่า ตนตั้งใจแสดงตนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 23.00 น. ด้านหน้าโต๊ะสนุกเกอร์ ด้านหลังตลาดบางหญ้าแพรก ในซอยวัดบางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทั้งหมด 3 คน คือ ตน หลานชาย และเพื่อนสนิท เดินทางไปเนื่องจากต้องการไปเคลียร์ปัญหาให้หลานชาย ภายหลังจากที่กลุ่มวัยรุ่นในโต๊ะสนุกฯมีปัญหากับหลานชาย เคยยกพวกทำร้ายหลานมาก่อน จึงตั้งใจไปพูดคุยไกล่เกลี่ยปัญหา เพื่อให้ต่างคนต่างอยู่ จะได้ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกต่อไป
ส่วนสาเหตุที่มีการนำอาวุธปืนเข้าไปเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามอยู่กันจำนวนหลายคน อีกทั้งตนเป็นรุ่นใหญ่ พกปืนไปด้วยเพื่อให้ฝ่ายคู่กรณียำเกรง ไม่มีเจตนานำไปข่มขู่ ไม่มีเหตุปะทะหรือทำร้ายร่างกายกัน ไม่มีคนได้บาดเจ็บ
สำหรับอาวุธปืนที่นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นอาวุธปืนของตนจริงเป็นปืนบีบีกัน ซื้อมา 8,000 บาท นำมาเพื่อใช้ในการยิงปลา ยิงนก และป้องกันตัวเมื่อไปเฝ้าบ่อกุ้ง บ่อปลา หลังจากพ้นตำแหน่งอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 จึงมาใช้ชีวิตเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลา รักสันโดษชอบอยู่คนเดียว หลังจากเข้ามอบตัว พร้อมรับโทษตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้านนายสมคิด เกตุแก้ว อายุ 48 ปี คนนั่งข้างคนขับ เพื่อนของนายเกรียงศักดิ์ เผยว่า วันเกิดเหตุตนเดินทางไปพร้อมเพื่อนเพื่อไปคอยคุ้มกันดูแลหลานชายและเพื่อน หลังจากทราบว่าจะไปไกล่เกลี่ยกับคู่อริในโต๊ะสนุกฯ ยืนยันว่าไม่มีเหตุกระทบกระทั่งหรือรุนแรงแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนเคยติดคุกมา 7 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทั่งถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา หลังออกจากคุกมาได้เพียง 4 วัน ก็มาก่อเหตุกับเพื่อนตามที่ปรากฏในวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมรับโทษความผิดตามกฎหมาย
