จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์ พร้อมระบุข้อความว่า "เหตุการณ์เมื่อวันที่ 18/08/63 เวลาประมาณ 06.45 น. เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนของทุกคน เราต่างก็ต่อคิวกันมายาวเหยียด แต่จู่ ๆ ก็มีรถคันดังกล่าวพยายามจะแทรกขวาเข้ามา เรียกร้องถามหาน้ำใจจากผู้อื่นหลายคัน หากวันนั้นไม่มีพี่แท็กซี่ และเราไม่มีสติหรือหากในรถเรามีคนแก่ เด็กเล็ก หรือคนในครอบครัวเราอยู่ด้วย อะไรจะเกิดขึ้นตามมาอีก"
ล่าสุด วันที่ 22 ส.ค. 63 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ นางสาวส้มหวาน (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 06.45 น. ตนขับรถมาจากถนนเพชรเกษม และกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค โดยปกติช่วงเวลานั้นรถจะค่อนข้างจะเยอะ ทุกคนจึงต้องต่อคิวกันเพื่อเข้าหมู่บ้าน ทำให้จราจรค่อนข้างจะติดขัด จังหวะที่กำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ได้มีรถเก๋งคันสีเขียว มีป้ายสีส้มเป็นบริษัทส่งของพยายามที่จะเข้ามาแทรกหน้ารถคันสีดำ และระหว่างที่จอดรถอยู่ข้างกัน คนขับรถคันสีเขียวได้จ้องหน้าของตนตลอด จนปาดหน้ารถคันสีดำได้สำเร็จ
จากนั้น รถคันสีเขียวได้ขับปาดหน้ารถของตน และกำลังจะปาดไปอีกเลน แต่รถแท็กซี่ที่อยู่ขวามือของตนกำลังจะเบี่ยงซ้ายไปเหมือนกัน จึงเกิดการปะทะกัน ทั้งคู่ได้เปิดประตูลงมาจากรถ และคนขับแท็กซี่ได้กล่าวว่า "ทางที่เหลืออยู่ ทำไมไมไป ปาดหน้าน้องเขาถูกต้องไหม" แต่คนขับรถคันสีเขียวได้ตอบกลับเพียงว่า "นี่มันหน้าที่ใคร"
จากนั้นตนจึงโทรแจ้ง 191 ให้เข้ามาระงับเหตุ ซึ่งบริเวณนั้นมีป้อมตำรวจพอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นตนได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่และลงบันทึกประจำวัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกคนขับรถคันสีเขียวไปอบรบ และกล่าวตักเตือน โดยคนขับรถคันสีเขียวเป็นพนักงานส่งของ เพราะมีป้ายของบริษัทส่งของแปะอยู่ที่ด้านหลัง และหลังจากที่ตนลงในเฟซบุ๊กได้มีคนมาแสดงความคิดเห็นว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ก่อเหตุ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด และตนไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ตนอยากให้ทางสังคมตัดสินว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องไหม สุดท้ายนี้ ตนอยากจะฝากบอกคนขับรถสีเขียวว่า ควรจะใจเย็นมากกว่านี้ หรือถ้ารีบก็ควรจะขับรถให้ถูกต้องตามกฎหมาย
