“ไอ้อ้วน” ปัดขืนใจเด็กหน้าพระ ลั่นรู้อะไรไม่ควรทำ พยานช่วยเหยื่อเจอมีดขู่ฆ่า (คลิป)

20 ส.ค. 63

จากกรณีนายประทาน วังสอน อายุ 50 ปี หรือชื่อที่ชาวบ้านต่างเรียกกันว่า "ไอ้อ้วนหื่นกาม" ก่อเหตุข่มขื่นเด็กหญิงวัย 11 ปี แล้วหลบหนีขึ้นเขาผาแดง ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองปิดล้อมพื้นที่ ปูพรมค้นหา และสามารถจับตัวได้บนเขาผาแดงนั้น

683816

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“อ้วนเดนคุก” จนมุมกลางเขา ปัดมอมเหล้าพ่อขยี้กามลูก ญาติปรี่ชกหน้าลั่นต้องประหาร
ปิดเขาล่า “ไอ้อ้วน” แม่ไม่เชื่อฉุดเด็ก 11 ขยี้กาม พ่อเหยื่อรับผิดเองเพราะไว้ใจเพื่อน

661612

ล่าสุดวันที่ 20 ส.ค.63 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ, พ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ได้นำตัวนายประทาน วังสอน หรือ อ้วน ผู้ต้องหา เดินทางออกจากพื้นที่ สภ.เมืองชัยภูมิ พาตัวไปยังบ้านหนองสังข์ บ้านหนองสะแบง และบ้านหนองหญ้าปล้อง เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งในวันนี้ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ติดตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูการทำแผนฯ ด้วย

456225

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลัง และขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมกว่า 50 นาย เข้ามากันพื้นที่ในการทำแผนฯ เนื่องจากมีชาวบ้านเกือบ 100 ชีวิต มารอดูการทำแผนฯ มีนายสัญ (นามสมมติ) พ่อของเด็กหญิงอยู่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยืนประกบเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินหรือรุมประชาทัณฑ์

218780

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวผู้ต้องหามาถึงสำนักสงฆ์ร้าง ในเวลาประมาณ 11.30 น. ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่นายประทานพาตัวเด็กหญิงมากระทำชำเรา มีการใช้ตุ๊กตาเป็นตัวแทนของเด็กหญิง จุดนี้ นายประทานเล่าว่าเป็นจุดที่พาเด็กหญิงมานั่งเล่นและหยอกล้อพูดคุยเท่านั้น และยืนยันว่าบริเวณตรงนี้ไม่ได้มีการล่วงละเมิดเด็ก เนื่องจากตนเป็นคนเหมือนกัน ตนรู้ว่าไม่ควรทำอะไรต่อหน้าพระประธาน

592270

ประทาน กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการกรอกยาเสพติดให้เด็กหญิง แต่ยอมรับว่าตนเอาสุราให้เด็กกิน ไม่มีการใช้มีดจี้ เพียงแต่ใช้มีดฟาดกับพื้นไม้กระดาน ขู่ให้เด็กกลัว ตนรู้ว่าตนผิด อยากขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ทำผิดไปแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง ถึงหลักฐานจะมีพร้อม แต่ตนยังขอยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ

601211

นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เข้ามาสอบถามผู้ต้องหาว่าได้ทำการขื่นใจเด็กหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานพยานครบแล้ว แต่นายประทานก็ยังคงยืนยันว่าไม่ได้ทำ

880301

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายประทานไปยังจุดที่สอง ซึ่งเป็นเถียงนาที่ตั้งอยู่บริเวณบ่อน้ำด้านหลังสำนักสงฆ์ ห่างจากจุกแรกประมาณ 200 เมตร นายประทาน บอกว่า จุดนี้เป็นจุดที่ตนตั้งใจจะกระทำชำเราเด็กหญิง แต่ทำไม่ได้ ทำได้เพียงถูไถเท่านั้น ตนไม่เคยทำร้ายร่างกายเด็ก ไม่เคยต่อยท้องเด็ก เนื่องจากเพียงแค่พูดขู่ เด็กก็กลัวแล้ว

379179

โดยขณะนั้นเด็กไม่ได้ร้องไห้ อีกทั้งยังบอกตนว่า "พ่อ ถ้าพ่อชอบแบบนี้ หนูจะไปชวนเพื่อนมาให้ หนูมีเพื่อนเยอะ" แต่ตนบอกไปว่า "ไม่เอา" ขอสาบานขอยืนยันว่านี่คือจุดเดียวที่ตนก่อเหตุ ตนไม่ได้ก่อเหตุหน้าพระประธาน ตนรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนก่อเหตุ ตนไม่ได้มอมเหล้าพ่อเด็ก และตนไม่ได้วางแผนมาล่วงหน้า

จากนั้นเมื่อตกค่ำ ตนก็ได้พาเด็กหญิงไปนั่งเล่นที่กระท่อมห่างจากสำนักสงฆ์ประมาณ 600 เมตร ตั้งใจว่าเย็น ๆ จะปล่อยเด็กหญิงกลับบ้าน แต่มีชาวบ้านผ่านมาพบก่อน "สำหรับเห็นการที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกสงสารเด็ก แต่ขณะนั้นตนอยู่ในอาการมึนเมา จึงก่อเหตุ ในเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว ตนจะไปทำอะไรได้"

 

564695

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวนายประทานเดินย้อนขึ้นมาบริเวณพระประธานเพื่อจะนำตัวขึ้นรถตู้ นำตัวไปยังสภ.เมืองชัยภูมิ ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเขียวในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายประทานขึ้นรถตู้ เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เบ้านเกือบ 100 คน ตะโกนสาปแช่งนายประทาน ป้าของเด็กหญิงเดินปรี่เข้ามาแล้วพยายามจะใช้ด้ามร่มฟาดนายประทาน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถห้ามเหตุไว้ได้ทัน

ป้าของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนอยากจะถามนายประทานว่าแม่เป็นเพศหญิงเหมือนกับเด็กหรือไม่ อยากให้เจ้าหน้าที่ประหารนายประทาน ติดคุกถูกปล่อยตัวออกมาก็สร้างความเดือดร้อนความลำบากแก่ชาวบ้านอีก นายประทานทั้งต่อยท้องและกรอกสุราเข้าปากหลานของตน เด็กไม่สามารถสู้ขัดขืนอะไรได้ ขณะนี้เด็กก็ยังคงมีอาการผวา ตนโกธรที่นายประทานให้ข้อมูลปฏิเสธสิ่งที่ทำลงไป ขอให้ประหารชีวิตนายประทานทันที

875803

ด้านนางสาวอภิสรา ศรีนามล อายุ 33 ปี เพื่อนบ้านของเด็กหญิง วิ่งปรี่เข้าไปหานายประทานหวังจะทำร้ายร่างกายด้วยความโกรธแค้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามเหตุไว้ได้ทัน

898374

นางสาวอภิสรา เปิดใจว่า ตั้งแต่ที่นายประทานก่อเหตุแล้วหลบหนี ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดกลัว ไม่กล้าไปไหนคนเดียว ไม่กล้าขึ้นเขา ซึ่งตนเองก็กลัวว่านายประทานจะย้อนกลับมาทำร้ายคนในหมู่บ้านเพื่อปิดปากคนเห็นเหตุการณ์ แต่ขณะนี้ตนและชาวบ้านมีความสบายใจขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับตัวนายประทานได้ วินาทีทำแผนฯ ตนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ทำไมนายประทานถึงกล้าก่อเหตุกับเด็กอายุแค่ 11 ขวบแบบนี้ ตนทนไม่ไหวที่นายประทานให้สัมภาษณ์ขณะทำแผนฯ นายประทานปฎิเสธทุกอย่าง อีกทั้งยังโยนความผิดให้เด็กคล้ายว่าเด็กสมยอม

เจ้าหน้าที่ควรที่จะประหารนายประทาน ไม่ควรลดโทษและปล่อยตัวออกมาอีก "ชาวบ้านไม่ได้ใจดำ แค่เสียคนคนหนึ่งหายไปจากโลก เพื่อคนส่วนร่วมหลายหมู่บ้านหลายชีวิต เสียสละแค่เพียงชีวิตเดียว"

197377

นายศักดิ์ (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุ 16 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 14.00 น. พ่อของเด็กมาบอกตนให้ช่วยตามหาลูกสาว ตนจึงได้พาไปยังหมู่บ้านของนายประทาน เพื่อประสานกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้ช่วยกันออกค้นหา เวลาประมาณ 17.00 น. ตนขับรถกระบะไปยัง สภ.หนองสังข์ เพื่อแจ้งความ ระหว่างทางบริเวณทางเข้าหน้าตรงข้ามสำนักสงฆ์ที่นายประทานลงมือขืนใจเด็ก ตนเห็นรถจักยานสีแดงของเด็กจอดอยู่ข้างต้นอ้อย จึงตัดสินใจเดินเลาะไปตามทางเข้าไปในไร่อ้อย ประมาณ 600 เมตร ก็พบกับกระท่อมตั้งอยู่ในเถียงนา

cg

ภายในกระท่อม ตนเห็นนายประทานนั่งอยู่กับเด็กหญิง กางเกงนายประทานปลดออก มือขวาถือมีดล็อกคอเด็กไว้ มือซ้ายลูบคลำตามตัวเด็ก โดยมีปืนวางอยู่ข้างตัว เมื่อนายประทานเห็นตนก็ตะโกนออกมาว่า "อย่าเข้ามา ไม่อย่างนั้นจะฆ่าเด็ก" ตนได้แต่บอกว่า "อย่าทำอะไรเด็ก" และรีบถอยกลับ แล้วไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายประทานก็พาตัวเด็กวิ่งหายไปกลางทุ่งนา

จากนั้นในเวลา 19.00 น. ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ก็ได้ย้อนกลับไปที่เถียงนา และพบเห็นเงาของนายประทานกับเด็กหลบอยู่กลางนา จากนั้นเด็กก็ถูกปล่อยตัวออกมา จนพ่อของเด็กและตำรวจไปพบบริเวณสำนักสงฆ์ ตนสงสารเด็กหญิงมาก เด็กร้องไห้ไม่เป็นภาษา ตนอยากจะให้เจ้าหน้าที่ประหารชีวิต เพราะนายประทานเคยก่อคดีมามากมาย ไม่น่ากลับตัวได้แล้ว

625584

นายสัญ (นามสมมติ) พ่อของเด็กผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ที่ตนได้ไปดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของนายประทาน ตนยังคงมีความรู้สึกโกธรแค้นมาก เนื่องจากนายประทานปฎิเสธการกระทำทุกอย่าง ทั้งที่มีพยาน มีคนเห็น วินาทีที่นายประทานบอกกับผู้สื่อข่าวคล้ายว่าลูกสาวตนเต็มใจสมยอม โยนความผิดให้เด็ก ตนแทบจะวิ่งเข้าไปหานายประทาน แต่มีเจ้าหน้าที่ประกบตนและล็อกตนไว้

713222

ตนยังคงเชื่อในความยุติธรรม แม้ว่านายประทานจะปฎิเสธ แต่เชื่อในพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีทั้งกล้องวงจรปิดที่นายประทานพาลูกสาวตนไปที่ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ หากเป็นไปได้ก็ขอให้ประหารชีวิตนายประทาน ส่วนอาการของลูกสาวตนดีขึ้น แต่ยังคงมีอาการผวาและร้องไห้อยู่เวลาพูดถึงนายประทาน ตนยอมรับผิดที่ปล่อยปะละเลยลูกสาว ทางครอบครัวที่ยังคงโกธรตนอยู่ และได้ตกลงกันว่าจะให้ลูกสาวของตนไปอาศัยอยู่กับน้าเป็นหลัก เนื่องจากตนดูแลได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องไปทำงานรับจ้าง "จากนี้ตนจะเลิกเหล้าเด็ดขาด ตนยังคงโทษตัวเอง และจะหาโอกาสพาลูกสาวไปทำบุญ"

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส