สุดรันทด! พ่อค้าผวาเหตุบึ้มตลาด รับกลัวอดมากกว่าตาย - เหยื่อช็อกเห็นภาพลูกตายจากข่าว (คลิป)

วันที่ 24 มกราคม 2561 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่มาติดตามคดีที่คนร้ายลอบวางระเบิด หน้าตลาดสดพิมลชัย จ.ยะลา ช่วงเช้าบรรยากาศที่ตลาด ไม่คึกคักยังมีประชาชน มาซื้อของน้อยลง แต่พ่อค้าแม่ค้ายังคง ขายอาหารกันตามปกติ ยกเว้นจุดที่ถูกระเบิดจนเสียหาย

ทีมข่าวพบว่า ที่ตลาดมีเจ้าหน้าที่จากเทศบาล จ.ยะลา กำลังอยู่ระหว่างเก็บสิ่งของที่เสียหายจากแรงระเบิด และมุงหลังคาใหม่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังพบร่องรอยความเสียหายของร้านอาหาร ที่อยู่ตรงข้ามกับจุดที่ระเบิด ห่างกันเพียงไม่ถึง 1 เมตร ทั้งหลังคา กันสาดหน้าบ้าน ประตูไม้บานพับขนาดสูง 3 เมตร ที่ถูกแรงดันของระเบิดปะทะจนล้มลง โดย นางอัมพา เพียรพาษ เจ้าของร้านเปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่อง ตนยังไม่ได้ขายของ เพราะประตูไม่สามารถเปิดได้ จึงต้องทำการซ่อมแซมให้เสร็จเสียก่อน

นางอัมพา บอกอีกว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น ไม่กล้าออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้มีเทศบาลเข้ามาติดต่อเรืองการเยียวยา เรียบร้อยแล้ว ตนคิดว่า คงได้รับเงินช่วยเหลือบางส่วน และต้องสำรองจ่ายออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอประเมินความเสียหาย หลังซ่อมแซมอาคารเสร็จ

ส่วนทางด้าน นางรอมิดะ การัตน์ แม่ค้าในตลาดที่ตั้งแผงขายอาหารทะเล อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 60 เมตร เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่อง ชาวบ้านไม่กล้าเดินทางมาซื้อสิ่งของภายในตลาด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ขายอาหารไม่ดี และทำให้พวกตนเดือดร้อน นางรอมิดะ บอกว่า ตนยังหวาดกลัว แต่ต้องมาขายเพราะตนหาเช้ากินค่ำ หยุดไปก็เสียรายได้ ครอบครัวเป็นห่วง แต่ทำอะไรไม่ได้

ด้าน นายเสด็จ แซ่ลิ่ม พ่อค้าแผงหมู เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุลูกค้าหายไปอย่างเห็นได้ชัด จากปกติขายหมูได้ประมาณ 300-400 กิโลกรัม แต่หลังเกิดเรื่อง ขายได้เพียง 100 กิโลกรัม ส่วนลูกค้าประจำที่จะมารับเนื้อหมูที่อยู่ต่างอำเภอ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังหวาดกลัวช่วงนี้ขอหยุดซื้อ ทำให้ตนเดือดร้อน ของที่เตรียมขายต้องแช่เย็นไว้ ทำให้คนส่วนใหญ่ ยิ่งไม่ซื้อเพราะของไม่สด หลังจากนี้ต้องให้เวลากับทุกคนทำใจเชื่อว่า เมื่อลูกค้าตั้งสติให้ได้ แล้วทุกคนจะกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ เพราะตอนนี้ทุกคนต่างแตกตื่น แต่แม้จะมีชาวบ้านลือเรื่องระเบิดหลายครั้ง แต่ตนก็ต้องมาขาย เพราะถ้ามัวแต่หวาดกลัวไม่ขายของก็ไม่มีกิน รวมถึงก่อนเกิดเหตุไม่มีสัญญาณเตือนอะไรทั้งสิ้น ทุกคนมาขายของตามปกติ อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้า มักจะระมัดระวังรถคนแปลกหน้าที่จอดหน้าร้านอยู่แล้ว หากพบลักษณะผู้ก่อเหตุ จอดรถแล้วเดินหนีเช่นนี้ ชาวบ้านจะรู้ และหนีให้ไกลจากรถคันดังกล่าวทันที ส่วนตอนนี้ เจ้าหน้าที่กำจัดพื้นที่ตลาดให้มีช่องทางเข้าออกทางเดียว ตนอยากให้เจ้าหน้าที่จัดระเบียบให้ชัดเจน และเข้มงวดตลอด เพราะก่อนหน้านี้เคยจัดระเบียบมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ยกเลิกไป จนกระทั่งมาเกิดเหตุซ้ำรอยอีก

ทีมข่าวได้ข้อมูลจากนายสถานี จังหวัดยะลาว่า ที่ดินตลาดบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นของการรถไฟจริง เจ้าหน้าที่รถไฟยะลา เพียงเข้าไปเก็บเงินค่าเช่าเท่านั้น โดยฝ่ายบริหารทรัพย์สินของ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดูแล ขณะนี้ ได้เร่งซ่อมแซมหลังคาตลาด และตรวจสอบอาคาร เพื่อเร่งให้สามารถให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ตามปกติได้เร็วที่สุด

ทีมข่าวได้ไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.บางตาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บ้านของ นายมะยาวี แวนาแว อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว นางฮาซานะ เจ๊ะมีนา มารดาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครอบครัวยังคงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกชาย ที่เสียชีวิตเป็นลูกคนโต คอยช่วยเหลืองานทุกอย่างภายในบ้าน ลูกชายป็นคนเรียนเก่ง ตนเคยคิดว่า จะให้ลูกชายเป็นโต๊ะอิหม่าม ต่อจากพ่อ แต่ก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน นางฮาซานะ บอกว่า วันเกิดเหตุตนและลูกชาย ไปขายของที่ตลาด ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งของให้กับลูกค้าตามปกติ ช่วงกลับจากการส่งของให้ลูกค้า ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น นางฮาซานะ บอกอีกว่า ตอนที่เกิดเหตุระเบิด ตนไม่คิดว่าลูกชายจะได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งลูกชายหายไปนานมาก ตนพยายามโทรศัพท์ตามกว่า 10 สาย แต่ลูกชายไม่รับ จนมาทราบว่าลูกชายประสบเหตุช่วง 08.00 น. ซึ่งเวลาดังกล่าว ตนได้เห็นข่าวออนไลน์ลงเรื่องระเบิดแล้ว โดยตนเห็นรองเท้า และลักษณะของคนเจ็บ ดูคล้ายกับลูกชายตน จึงรีบไปโรงพยาบาล คิดว่าแค่บาดเจ็บ ไม่คิดว่าลูกชายจะเสียชีวิต ตนยอมรับว่าวินาทีนั้น รู้สึกเสียใจจนพูดไม่ออก