จากกรณีคุณครูลืม "น้องกองบิน" เด็กชายวัย 2 ขวบ ไว้ในรถตู้รับส่งนักเรียน ที่จอดกลางแดดร้อนจัด ตั้งแต่เวลา 07.30 น. จนมาพบตัวในเวลา 13.30 น. มีอาการสาหัส รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แพทย์เผยว่าอยู่ในอาการวิกฤต ตับ ไตเริ่มไม่ทำงาน และมีอาการสมองบวม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 63
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พ่อแม่ร้องเอาผิด หน.ศูนย์เด็กเล็กฯ "น้องกองบิน" ถูกลืมบนรถตู้เสียชีวิต
- โรงเรียนรับลืมเด็กคารถตู้ 6 ชม.ทำโคม่า อ้างเช็กแล้วแต่ไม่เห็น จ่าย 1 หมื่นช่วยแม่
ล่าสุด วันที่ 15 ส.ค. 63 เมื่อเวลา 12.30 น. น้องกองบินได้เสียชีวิตลงแล้ว แพทย์แจ้งว่าน้องกองบินมีอาการตับ ไต ไม่ทำงาน และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ซึ่งผู้ปกครองยินยอมให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ
โดยก่อนหน้าที่น้องกองบินจะเสียชีวิต นางสาวสุวภัทร และนายธวัชชัย ยอดมณี แม่และพ่อของน้องกองบินได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พิปูน ให้ดำเนินคดีกับนางสุนิษฐา ผูกพาณิช หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ใน ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช และครูหยุ่น ครูเวรที่มารับน้องกองบินในวันเกิดเหตุด้วย
บรรยากาศที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พบว่า ครอบครัวและญาตอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ โดยรอรับศพของน้องกองบิน เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านต่อไป
พ่อน้องกองบิน เปิดเผยความรู้สึกว่า ตอนนี้เสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ เพราะตนมีลูกคนเดียว ปกติตนทำงานที่เกาะสมุย จ.สุราษฎ์ธาธานี ส่วนน้องกองบิน ภรรยาเป็นคนดูแล แต่ตนจะวิดีโอคอลและโทรคุยกับลูกทุกวัน ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึง และขอจัดงานศพลูกให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
โดยปกติรถรับส่งนักเรียนจะวิ่งออกมารับเด็กนักเรียนเวลา 07.00 น. และกลับเข้าโรงเรียนก่อน 08.00 น. ระยะทางไปกลับรวม 16 กม.
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จำลองเหตุการณ์ขณะที่ครูเวรได้เปิดประตูให้นักเรียนลงจากรถ โดยมีน้องการ์ตูนวัย 3 ขวบ สูง 100 ซม. แทนน้องกองบิน และได้วัดความสูงจากพื้นของรถตู้ ถึงปลายพนักพิง 108 ซม. จากพื้นของรถตู้ถึงเบาะนั่ง มีความสูง 43 ซม. วัดจากเบาะนั่งถึงปลายพนักพิง มีความสูง 72 ซม.
และเมื่อน้องการ์ตูนที่มีความสูง 100 ซม. ได้ไปนั่งเบาะพบว่าขาจะลอย และปลายพนักพิง จะสูงกว่าศีรษะของน้อง ซึ่งหากวัดจากศีรษะของน้องขึ้นไปที่ปลายพนักพิง เหลือ 28 ซม.
จำลองเหตุการณ์แรก เมื่อครูเวรลงจากรถตู้มาแล้วเปิดประตู โดยผลักไปในสุด ครูจะยืนอยู่ตรงบริเวณเลยหน้าเบาะแถวแรก เพื่อให้เด็กนักเรียนเดินลงไป ซึ่งจะหันหน้าเข้าประตู แล้วเอียงตัว 45 องศา มุมดังกล่าวจะไม่สามารถมองเห็นตำแหน่งที่นั่งของน้องกองบินได้ เนื่องจากถูกที่นั่งแถวแรกบัง และเมื่อนักเรียนลงหมดแล้ว ครูเดินมาดึงประตูเพื่อจะปิด จะสามารถมองเห็นน้องกองบินได้ ไม่ว่าน้องจะนั่งหรือนอน
จำลองเหตุการณ์แบบที่ 2 เมื่อครูเวรลงจากรถตู้มาแล้วเปิดประตู โดยหันใช้มือผลักเปิดประตูไปให้สุด แล้วไปยืนอยู่ตรงหลังช่องทางเดินของเบาะแถวสอง ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นข้างในรถได้ แต่สามารถนับเด็กที่ลงมาจากรถตู้ได้ เมื่อเด็กลงหมด ก็ปิดประตู โดยผลักประตูไปข้างหน้า ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นน้องกองบินได้