เปิดใจหนุ่มตายแล้วฟื้น เผยแค่หลับลึก รู้ถูกห่อศพแต่ลืมตาไม่ขึ้น-แม่ดีใจได้ลูกคืน (คลิป)

กรณีนายรเมศ จันทะโก อายุ 20 ปี ถูกพบเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่บนโถส้วม ภายในห้องน้ำของบ้าน เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี

ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบชีพจร และลงความเห็นว่าเสียชีวิตแล้ว โดยเตรียมนำศพส่งผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด จังหวะนั้นในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะห่อร่างของนายรเมศเพื่อนำไปเก็บรักษาในช่องเก็บศพ นายรเมศได้ฟื้ ลืมตาตื่นขึ้นมา ท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าหน้าที่ตำรวจแพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์จึงได้รีบนำตัวนายรเมศส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการตรวจรักษา จนล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ล่าสุด วันที่ 13 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านของนายรเมศ พ่อแม่ พี่สาวของนายราเมศ รวมถึงบรรดาญาติ ๆ ที่มารวมตัวกันอยู่ที่บ้าน

นายรเมศ ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า ตอนนี้ตนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยในวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ตนได้กวาดบ้านชั้นบนเสร็จ เกิดรู้สึกปวดท้อง จึงเดินมาเข้าห้องน้ำตามปกติ

แต่เกิดอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก นั่งอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง จนรู้สึกอ่อนเพลียหมดแรง และหายใจไม่สะดวก จึงตัดสินใจเอาหัวไปพิงกับกำแพงห้องน้ำเพื่อจะพักร่างกายสักครู่

จากนั้นก็หมดสติ จำอะไรไม่ได้ เริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงคนหลายคนตะโกนเอะอะโวยวาย แต่ตนก็ยังไม่สามารถลืมตาหรือพูดอะไรได้ ซึ่งในขณะนั้น ตนเองรับรู้ได้ทุกอย่าง ทั้งช่วงที่มีการพลิกตัวของตนไปมา และยกร่างของตนใส่ผ้าห่อศพ ตนลืมตาได้ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังห่อศพ และเตรียมจะนำร่างของตนไปเข้าโรงเย็นเพื่อเก็บรักษา และรอส่งไปชันสูตร โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหันมาเห็นตนลืมตา จึงแจ้งให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ทำการตรวจร่างกายของตนอีกครั้ง เมื่อพบว่ามีชีพจร จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลจนทำให้ตนรอดชีวิตมาได้

ช่วงที่หมดสติไปนั้นไม่ได้ฝันหรือเห็นสิ่งใด เหมือนคนที่หลับลึกเท่านั้น ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยมีอาการวูบเช่นนี้มาก่อน อาจจะมีอาการเหนื่อยล้าจนลืมตาไม่ขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด และตนรู้สึกโชคดีมากที่ได้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ขณะที่นางนุสรา จันทะโก แม่ของนายรเมศ บอกว่า เมื่อวานนี้ทางป้าของนายรเมศโทรมาแจ้งให้ตนทราบว่าลูกชายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ ตนจึงรีบขับรถจาก อ.สังขละบุรี เพื่อจะมาให้ทันได้กอดลูกเป็นครั้งสุดท้าย ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก ตนได้ตั้งจิตอธิษฐานกับพ่อปู่เขาใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ ให้ช่วยเหลือลูกของตนด้วย จากนั้น ป้าก็โทรกลับมาบอกว่าลูกชายของตนได้ฟื้นคืนชีพกลับมา ทำให้ตนรู้สึกตกใจ และงงเป็นอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

สำหรับลูกชายมีอาการป่วยด้วยโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วตั้งแต่เกิด และได้ทำการผ่าตัดรักษาเมื่อตอนอายุ 5 ขวบ ทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง การได้ลูกชายกลับมาในครั้งนี้คล้ายกับเป็นของขวัญวันแม่ชิ้นใหญ่ที่ตนได้รับในชีวิต

นายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบถามแพทย์ที่เป็นผู้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ทราบว่าแท้จริงแล้วนายรเมศไม่ได้ตายแล้วฟื้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่แพทย์ไม่ได้ทำการตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียด เนื่องจากในวันเกิดเหตุทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งจากทางตำรวจ และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่ามีผู้พบศพชายวัย 20 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ และไปพบกับญาติของนายรเมศ ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ให้ข้อมูลกับแพทย์ที่ลงพื้นที่ว่าได้ตรวจชีพจรแล้วแต่ไม่พบ จึงไม่ได้ทำการตรวจสอบรูม่านตา และตรวจสอบชีพจรอย่างละเอียด มีเพียงการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และตรวจวัดชีพจรเบื้องต้นเท่านั้น

โดยสาเหตุที่นายรเมศมีลักษณะคล้ายกับคนเสียชีวิต นอนหมดสติแน่นิ่งอยู่หลายชั่วโมง น่าจะมาจากอาการหลับลึก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ประกอบกับเคยมีประวัติการผ่าตัดบายพาสหัวใจ ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว