ตำรวจบุกถ้ำน้ำลอดถางหญ้าเจอหลุมลับ 3 จุด คาดโจรพรางตัวซ่อนชมพู่ (คลิป)

12 ส.ค. 63

กรณีทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้จำลองเเบกกระสอบ น้ำหนัก 12 กิโลกรัม จากไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง หลังบ้านน้องชมพู่ไปยังถ้ำน้ำลอด โดยขึ้นทางตรงเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านไม่นิยมขึ้น ซึ่งจุดสตาร์ทอยู่กลางไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง ห่างจากบ้านชมพู่ 100 เมตร ขึ้นภูทางตรง บริเวณเเท๊งน้ำของหมู่บ้าน พร้อมทั้งจับเวลาการเดิน โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติภูผายล คือ นายนภัสสร ตะวันคำ เป็นผู้นำทางให้

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

781733

โดยตั้งเเต่กลางไร่มันจนถึงตีนภู ทางเดินยังราบเรียบ ผู้สื่อข่าวยังเเบกเดินได้สบาย เมื่อเดินต่อระยะทาง 400 เมตร ทางเป็นเนินสูงชัน 30 องศา สลับโขดหิน มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ผู้สื่อข่าวเกิดอาการหอบ เดินได้ช้าลง เนื่องจากสภาพอากาศวันนี้ร้อนอบอ้าว จึงต้องหยุดพัก 5 นาที

171016

จากนั้นเดินต่อขึ้นไปอีก 50 เมตร ทางสูงชัน 40 องศา เมื่อเดินต่อไปอีก 250 เมตร ก็ถึงพักที่ 1 ทางมีความชัน 50 องศา โขดหินมากขึ้น ผู้สื่อข่าวเกิดอาการหอบ ปวดบ่าเเละปวดเอว จึงนั่งพัก 5 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 400 เมตร ก็ถึงถ้ำน้ำลอด สภาพส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ ไม่สูงชัน ผู้สื่อข่าวสามารถเดินได้ต่อเนื่องจากพักที่ 1 จนถึงถ้ำ

สรุปการจำลองเดินขึ้น ระยะทางจากจุดสตาร์ทไปถ้ำน้ำลอด 1,100 เมตร ทีมข่าวใช้เวลาเดิน 15 นาที มีการพัก 2 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 25 นาที

163978

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้จับเวลาขาลง โดยกึ่งเดินสลับวิ่ง เส้นทางด้านหลังโรงเรียนกกกอก สภาพพื้นที่มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ทางค่อนข้างสูงชันกว่า ง่ายสำหรับการลง เเต่ยากสำหรับการขึ้น ระยะทางจากถ้ำน้ำลอดถึงโรงเรียนกกกอก 1 กิโลเมตร ทีมข่าวใช้เวลาเดิน 8 นาที

อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนพฤษภาคม ที่น้องชมพู่หายตัวไป ขณะนั้นเส้นทางหลังโรงเรียนค่อนข้างเตียนโล่ง เนื่องจากเพิ่งเกิดไฟป่า เเต่ปัจจุบันเป็นฤดูฝน หญ้าจะขึ้นรก ไม่สามามารถวิ่งต่อเนื่องได้ เมื่อเจอพื้นที่รกจะต้องเปลี่ยนเป็นการเดิน

134259

ล่าสุดวันที่ 11 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ทดสอบแบกกระสอบ หนัก 12 กก. ซึ่งทีมข่าวชั่งไปตั้งแต่ที่อยู่ด้านล่างภูเหล็กไฟ โดยนำน้ำใส่กระสอบ แบกขึ้นไปทำการทดสอบ ทีมข่าวเริ่มการยกกระสอบออกจากถ้ำ โดยใช้เส้นทางปล่องที่ 1 พร้อมกับจับเวลาไปด้วย การปีนตรงปล่องที่ 1 

25.25.

ทีมข่าวใช้เวลาขึ้นมาจากปล่อง โดยไม่ต้องมีคนช่วย เพียง 1.20 นาที จากนั้นทีมข่าวก็แบกกระสอบเดินต่อมุ่งหน้าไปที่จุดพบศพ โดยเลือกผ่านจุดที่เจอแบ็กโฮ การเดินเส้นทางนี้ทางค่อนข้างปกติ ไม่สูงชันมาก จะมีเพียงบางจุดที่สูงชัน โดยการเดินค่อนข้างเหนื่อย หายใจไม่ทัน ทำให้การเดินไม่เร็วมากนัก ประกอบกับสภาพป่าที่ตอนนี้ค่อนข้างมีหญ้าสูง

857943

โดยทีมข่าวเดินถึงจุดเจอรถแบ็กโฮ ใช้เวลารวม 14.18 วินาที จากนั้นทีมข่าวเดินต่อ ซึ่งเส้นทางที่ค่อนข้างเป็นเส้นทางเดิมที่ชาวบ้านเดินประจำ จากนั้นทีมข่าวเดินมุ่งหน้าไปยังจุดพบศพ โดยการเดินไม่มีการพัก ทั้งนี้มีการพบวัวของชาวบ้าน ประมาณ 5-6 ตัวที่จุดนี้ด้วย รวมเวลา 25.25 นาที

665180941321

จากนั้นมีการเดินลงจากเขา โดยไม่แบกอะไร มีการวิ่งสลับเดิน ซึ่งต้องผ่านถ้ำน้ำลอด ใช้เวลาเพียง 13.53 นาที ทีมข่าวเดินเท้าต่อลงมาจุดที่เรียกว่า หัวโรงเรียน โดยใช้เวลารวม 34.56 นาที

371585678256

รวมเวลาการอุ้มขึ้น-ลงเขา ในวันที่ 12 พ.ค.63 ขาขึ้นขึ้นจากตีนเขาถึงภ้ำน้ำลอด 15 นาที ขึ้นถ้ำน้ำลอดถึงจุดพบศพ 25.25 นาที ส่วนขาลง จุดพบศพถึงตีนเขา 34.56 นาที รวมเวลา 75.21 นาที 

548517

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายพูล ชัยมะโย ชาวบ้านกกกอก ผู้ชำนาญเส้นทางภูเหล็กไฟ กล่าวถึงเส้นทางไปยังถ้ำน้ำลอด ว่าสามารถขึ้นได้ทุกทิศทาง โดยเฉพาะช่วงที่น้องชมพู่หาย ป่าจะโล่งเตียน ส่วนถ้ำน้ำลอดทางลงสามารถลงได้เเค่ทางเดียว ซึ่งตนเคยลงไปจับเขียดในถ้ำ หากลงทางไหนก็จะออกทางนั้น ส่วนปล่องถ้ำอื่น ๆ จะสามารถออกได้หรือไม่ ตนก็ไม่ได้สำรวจละเอียด เเต่คาดว่าคนที่จะออกได้ต้องรูปร่างผอม ส่วนเด็ก 3 ขวบ อย่างน้องชมพู่ ไม่มีทางออกเองได้ ต้องมีคนพาออกเท่านั้น เพราะทุกปล่องจะต้องมีการปีนป่ายหิน

ลุงพูล ยังกล่าวอีกว่า คนร้ายจะนำเด็กมาซ่อนที่ถ้ำน้ำลอดจริงหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เเต่วันที่ 12 พ.ค.63 ตนเดินหาชมพู่ผ่านถ้ำน้ำลอด ระยะห่าง 30 เมตร ไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง เเละไม่พบสิ่งผิดปกติบริเวณดังกล่าวเเต่อย่างใด

262062

ทีมข่าวเดินทางขึ้นภูเหล็กไฟ ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล และนางจำลอง แดนกาไสย นางนลิน เงินนาม ชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อไปที่ถ้ำน้ำลอด และพิสูจน์การได้ยินตามคำบอกเล่าของลุงพูน เมื่อทีมข่าวไปถึง จุดที่ทีมข่าวได้ข้อมูลมาจากลุงพูล ซึ่งระบุว่าเดินค้นหาชมพู่ในวันที่ 12 พ.ค.63 ใกล้จุดถ้ำน้ำลอด 30 เมตร โดยเดินขึ้นทางหลังบ้านชมพู่ และเดินลงไปทางโรงเรียนบ้านกกกอก 

109347

ทีมข่าวเดินทดสอบการได้ยิน ซึ่งจุดที่เดินผ่านและใกล้ปากปล่องถ้ำน้ำลอดที่สุด คือ ระยะ 10 เมตร ซึ่งจุดนี้หากเงียบตั้งใจฟังเสียง จะได้ยินเสียงคนที่อยู่ในถ้ำ หากมีการร้อง ส่วนระยะ 30 เมตรจะได้ยินเสียง แต่ต้องตั้งใจฟัง หากระหว่างเดินผ่านมีการพูดคุย หรือแม้แต่เหยียบต้นหญ้าอาจจะไม่ได้ยินเสียงนั้น ๆ โดยเฉพาะเสียงของเด็ก

447703

ทีมข่าวพิสูจน์ภายในถ้ำน้ำลอด ซึ่งมี 3 ปล่อง คือ ปล่องที่ 1 เป็นทางหลักในการเข้าออกถ้ำ ยาว 8 เมตร กว้าง 70 เซนติเมตร ลึก 5 เมตร ส่วนปล่องที่ 2 ยาว 6 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 5 เมตร และปล่องที่ 3 ยาว 6 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 3 เมตร

131884

โดยทีมข่างลงไปเส้นทางปล่องที่ 1 เนื่องจากลงง่ายที่สุด เมื่อลงไประยะยืนจุดแรกสูงราว 2 เมตร จากยั้นต้องมุด รอดไป ระดับความกว้างของถ้ำสูงตั้งแต่ 1 เมตร ไปจนถึง 60 เซนติเมตร ลักษณะปากทางกว้าง ปลายทางแคบ ทีมข่าวต้องคลานเข้าไป

จากนั้นจะไปโล่ที่ปล่องที่ 2 ซึ่งสามารถปีนขึ้นได้ แต่ทางจะสูงตั้งฉากกับพื้น ซึ่งการจะยกเด็กขึ้นลำบากกว่าทางที่ 1 ต่อไปจะมีช่องน้ำรอด สูงราว 30 เซนติเมตร จากนั้นก็แคบลงเรื่อย ๆ คนไม่สามารถคลานผ่านได้ โดยเฉพาะหากต้องเคลื่อนย้ายน้องชมพู่ โดยทางนี้จะไปโผล่ปล่องที่ 3 เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นช่องสำหรับระบายน้ำ

720299996058

ดังนั้นการจะพาเด็กหนี หากนำมาซ่อนในถ้ำย้ำลอด น่าจะใช้เส้นทางปล่อง 1 เพราะระยะห่างจากปล่องที่ 1 ถึง ปล่องที่ 2 ประมาณ 15 เมตร ปล่องที่ 2 ถึงปล่อง 3 ประมาณ 10 เมตร รวมถ้ำนี้ยาวประมาณ 25 เมตร

นอกจากนี้ถ้ำนี้มีความบังเอิญคือ ยายจำลอง และนางนลิน แจ้งว่าหน้าถ้ำน้ำลอดที่ปล่องที่ 1 มีต้นงิ้วและไม้ป๊อ ตามที่หมอธรรมตาทิพย์เคยบอกไว้ และถ้ำนี้อยู่ฝั่งตะวันตกของภูเหล็กไฟตามที่หมอธรรมบอกไว้ด้วย 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส