เผยพิรุธวิถีกระสุนเจาะหัวสาวตายทั้งกลม ญาติเชื่อผัวจัดฉากฆ่า คาใจได้ประกันตัว (คลิป)

11 ส.ค. 63

จากกรณี พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ชะอำ ได้รับแจ้งกรณี คดีสามียิงภรรยาตัวเอง ที่ท้อง 9 เดือนจนเสียชีวิต ผู้เสียชีวิตคือ นางสาวรุ่งทิพย์ แสงจันทร์ อายุ 29 ปี สามีผู้ตายคือ นายชัยราชวัฒน์ เพ็งสว่าง หรือ ป้อม อายุ 37 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

127239

เบื่องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาสมีผู้ก่อเหตุ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน หลังจากศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว

729828

จากการสอบสวน เชื่อว่าเกิดจากการมีปากเสียงกันระหว่างผู้ตายและผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย ไปกินเหล้ากลับมาที่บ้านตอนดึก แล้วพาเพื่อนมากินเบียร์ต่อที่บ้าน เปิดเพลงเสียงดัง ทำให้เกิดการทะเลาะกับภรรยา แล้วใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวอยู่ยิงภรรยาจนเสียชีวิต ก่อนรีบพาตัวภรรยาไปส่งโรงพยาบาลหัวหิน พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าภรรยายิงตัวเองตาย

cg

ต่อมา ญาติ ๆ ไม่เชื่อ เพราะผู้ตายท้อง 9 เดือนใกล้คลอด และไม่มีเหตุอะไรบ่งชี้ว่าจะต้องฆ่าตัวตาย จึงประสานแพทย์ผ่าพิสูจน์ศพ จนพบว่าวิถีกระสุนเข้าบนศีรษะทะลุท้ายทอย ผิดจากที่ตำรวจชะอำแจ้งว่าผู้ตายอมปากกระบอกปืนแล้วลั่นไกฆ่าตัวตาย ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิง จึงติดตามผลการผ่าพิสูจน์จากนิติเวช

175192

กระทั่งทราบผลว่า วิถีกระสุนแตกต่างไปจากที่ตำรวจชะอำแจ้ง พงส.สภ.ชะอำ จึงได้สอบสวนเพิ่มเติมประกอบกับผลการผ่าพิสูจน์ จึงขอศาลจังหวัดเพชรบุรี ออกหมายจับและเชิญตัวสามีผู้ตาย มาควบคุมพร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมทันที ซึ่งขณะนี้สามีของผู้ตายยังให้การปฏิเสธ

510520

ล่าสุดวันที่ 11 ส.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านจุดเกิดเหตุ ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายณรงค์ฤทธิ์ นาเมือง อายุ 38 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เปิดเผยว่า เหตุเกิดคืนวันที่ 7 ส.ค. 63 เวลา 03.00 น. พ่อของนายป้อมได้โทรศัพท์มาแจ้งเหตุกับตนเองว่านางสาวรุ่งทิพย์ใช้อาวุธปืนยิงกรอกปากตัวเองเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน เมื่อตนเองไปถึงก็พบว่าบ้านจุดเกิดเหตุมีกองเลือดของผู้เสียชีวิตกระจายอยู่ตามพื้นบ้านหลายจุด นายป้อมเล่าว่านางสาวรุ่งทิพย์ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองหวังฆ่าตัวตาย

446632

กระทั่งเวลาผ่านไป 2 วัน ตนเองมาทราบข่าวว่าทางญาติของนางสาวรุ่งทิพย์ยังคงติดใจกับการเสียชีวิต เนื่องจากผลชันสูตรที่ออกมาไม่ตรงกับที่นายป้อมให้การไว้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกสอบอีกครั้ง จนพบหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่านางสาวรุ่งทิพย์ไม่ได้ยิงตัวตาย แต่อาจเป็นการฆาตกรรม

ทั้งนี้ ปกติแล้วนายป้อมถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง ช่วยงานตนเองเกี่ยวกับทางราชการ โดยไม่มีข้อตกบกพร่อง แต่จะมีนิสัยเป็นคนเงียบ ๆ ไม่เคยมาเล่าหรือปรึกษาเรื่องส่วนตัวให้ตนเองฟัง แต่หากนายป้อมเป็นคนก่อเหตุจริง ตนเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหลังเกิดเหตุ จะมีการปลดตำแหน่งของนายป้อมออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหรือไม่ ต้องรอประชุมอีกครั้ง

542829

ลุงของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางครอบครัวก็อยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่ เพราะไม่เคยคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เนื่องจากหลานชายเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร อีกทั้งเรื่องรายละเอียดเชิงลึกญาติ ๆ ก็ยังไม่ทราบว่าความจริงมีปมเหตุเป็นอย่างไร เพราะยังไม่มีได้พูดคุยกับพ่อของหลานชายที่เป็นคนดำเนินเรื่องคดี รู้เพียงแค่ว่าทางญาติของภรรยาหลานชายไม่ยอมความและจะเอาเรื่อง ตนก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

756827

นางทุม อายุ 53 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิต เผยว่า หลังจากเกิดเหตุ นายป้อมเดินทางมารับตนเองและแม่ของหลานสาวที่บ้าน บอกว่า หลานสาวใช้ปืนยิงตัวเองตาย ซึ่งตนเองเห็นข้อพิรุจน์หลายอย่างเกี่ยวกับนายป้อมและคนในครอบครัว นายป้อมบอกว่าได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งเข้าไปดู แต่ทางแม่ของนายป้อมที่นอนอยู่ในบ้านบอกว่าไม่ได้ยินเสียงปืน แต่ได้ยินเสียงรถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูก็พบมีแต่กองเลือด จึงเข้าใจว่าหลานสาวแท้ง ทำให้รู้สึกว่าข้อมูลที่ได้ไม่ตรงกัน

รวมไปถึงในตอนแรก ตำรวจได้ให้ข้อมูลไว้ว่า หลานสาวยิงกรอกปากตัวเอง ทำให้กระสุนเจาะทะลุศีรษะ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่น่าจะเป็นไปได้ เกิดความสงสัย เนื่องจากหลานสาวของตนเองเป็นคนที่รักตัวเองมาก หมาแมวไม่เคยตี จึงคิงว่าการฆ่าตัวตายคงจะเป็นไปไม่ได้ ปกติทั้งคู่ก็ไม่เคยมีปัญหาหรือเคยทะเลาะกันให้คนในครอบครัวเห็น ปมเหตุอาจมาจากความเมาและเกิดอารมณ์ชัววูบก่อเหตุดังกล่าว และไม่รู้ว่ามีปมเกี่ยวกับความหึงหวงกันหรือไม่

ทางครอบครัวไม่ขอยอมความ วอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการเอาผิดนายป้อมให้ถึงที่สุด เนื่องจากสงสารหลานสาวและลูกของหลานที่อยู่ในท้อง ที่ต้องมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทั้งที่จะได้คลอดในวันที่ 27 ส.ค. นี้แล้ว และยังคาใจเรื่องที่ฝ่ายชายได้ประกันตัว

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส