ยายทินหลงเขาเหล็กไฟ ซึ้งพ่อชมพู่ออกค้นหา เชื่อปาฏิหาริย์เจ้าที่คุ้มกันภัย (คลิป)

11 ส.ค. 63

จากกรณีที่มีคนขึ้นไปเก็บเห็ด ทราบชื่อนางทิน ชาวบ้านบ้านเกษตรสมบูรณ์ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านกกตูม ไม่ไกลจากบ้านกกกอก ขึ้นไปเก็บเห็นบนอุทยานแห่งชาติภูผายล แล้วหายตัวไปช่วงเย็นของวันที่ 10 ส.ค.63 ที่ผ่านมา 

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

424225

โดยภายหลังจากทราบข่าวได้มีการประสานเข้ามาที่ นายนิ่ม เงินนาม ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีการประกาศเรียกจิตอาสาช่วงเวลา 21.09 น. เพื่อให้ออกมารวมตัวกันขึ้นค้นหานางทิน โดยคาดว่าอาจอยู่บริเวณด่านเสือ ห่างออกไปจากห้วยวังฮี ประมาณ 350 เมตร

702728

อย่างไรก็ตาม ทีมค้นหานางทิน มีทีมนายนิ่ม ผู้ใหญ่บ้านกกกอก และกำลังชาวบ้าน 15 คน และมีทีมนายลิขิต ผู้ใหญ่บ้านกกตูม และกำลังชาวบ้าน 50 คน และทีมลูกชายนางทินอีก 6 คน รวมคนที่ออกค้นหาทั้งหมด จำนวน 71 คน 

427201436415

สำหรับการเเต่งกายนางทิน ใส่กางเกงวอร์มสีดำ เสื้อเเขนยาวลายสก๊อต สวมถุงมือ 2 ข้าง ใส่หมวกไอ้โม่งลายเทา-เเดง สวมรองเท้าบู้ทสีฟ้า ส่วนสิ่งของที่นำติดตัวไป ประกอบด้วย ย่ามสีดำลายเเดง ภายในย่ามมีน้ำดื่มขวดเล็ก 2 ขวด ตะกร้าสำหรับใส่เห็ด 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

287811

จากนั้นชุดค้นหาจากบ้านกกกอกราว 15 คน พร้อมทีมข่าว เดินทางขึ้นทางภูเหล็กไฟ มุ่งหน้าไปยังห้วยวังฮี เพื่อไปเจอกับชุดค้นหาของบ้านกกตูม ที่เดินขึ้นจากภูกะโล้นไปยังห้วยวังฮี ทีมข่าวเดินขึ้นเส้นทางฝั่งทิศตะวันออกของภูเหล็กไฟ โดยเดินไปตามพักที่ 1 ลัดเลาะไปตามทางเพื่ออ้อมหลังภูเหล็กไฟ ไปยังห้วยวังฮี จุดนี้ทีมข่าวเคยเดินทางมาแล้วครั้งที่เดินทางมาสำรวจกระท่อม 4 หลัง ในพื้นที่ทับควาย เส้นทางที่เดินค่อนข้างลื่น และเปียกแฉะ เนื่องจากกลางวันมีฝนตก รวมทั้งเส้นทางค่อนข้างมืด ต้องใช้ไฟฉายส่องตลอดเพื่อดูเส้นทาง

889780460692

โดยรายงานที่ได้รับแจ้ง นายนิ่ม ผู้ใหญ่บ้าน บ้านกกกอก ระบุว่า ตนได้รับการประสานงานจากบ้านกกตูม ให้นำกำลังไปช่วยค้นหา เนื่องจากมีคนหาย โดยตำแหน่งที่ไปคือด่านเสือ เลยจากห้วยวังฮีไป เนื่องจากจุดนี้มีชาวบ้านที่ไปค้นหาก่อนหน้านี้ ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกน ทีมข่าวเดินไปค้นหา โดยมีผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านหลายคน ซึ่งนายอนามัย วงศ์ศรีชา และนายเสริม สุชพันธ์ พ่อและน้าของชมพู่เดินขึ้นค้นหาด้วย เมื่อใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงก็เดินไปถึงที่ห้วยวังฮี โดยใช้เป็นจุดนั่งพัก โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลกับทีมข่าว ที่บริเวณนี้จะมีถ้ำ ซึ่งใช้บังแดดฝนได้

โดยชุดค้นหามี 1.ไปทับควาย 2.มาห้วยวังฮี ขึ้นจากบ้านกกกอก และ 3.มาห้วยวังฮี ขึ้นจากบ้านกกตูม

ทีมข่าวได้เจอกับ นายสำราญ สุขพันธ์ ชาวบ้านที่บ้านกกตูม และขึ้นมาค้นหาช่วงหัวค่ำ ระบุว่า ตนเดินค้นมากับเพื่อน 5 คน ส่วนตัวจำพิกัดแน่ชัดไม่ได้ ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงร้องขานตอบรับ ซึ่งตนเรียกเพื่อน ๆ มาฟัง ก็พยายามค้นหา แต่สุดท้ายก็ไม่เห็น

จากนั้นเมื่อทีมข่าวเดินทางมาตามคำบอกเล่าของชาวบ้านกกตูมที่มาค้นหา โดยคล้ายมีเสียงผู้หญิงตอบรับ จึงวิ่งรีบเข้าไปดู โดยมีการตะโกนเรียก ปรากฏก็ยังไม่พบ เบื้องต้นไม่มีเสียงใครตอบกลับมา ซึ่งก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าเป็นเสียงใคร

983029

หลังจากนางดอนตาล เชื้อคมตา น้องสาวของยายทิน ทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกติดตามหายายทินจะกลับลงมาเพื่อตั้งหลัก ด้านนางดอนตาล ก็เปลี่ยนชุดและแต่งตัวเตรียมเดินป่าตามหาพี่สาวด้วยตัวเอง ซึ่งได้ขึ้นรถกระบะของตำรวจเดินทางไปยังชายป่า โดยระหว่างทางนางดอนตาลมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด ไม่พูดไม่จาและร้องไห้ออกมา

244002

ในเวลา 01.30 น. ก่อนที่ทีมค้นหาที่ทีมข่าวติดตามไปจะเดินขึ้นค้นหา น.ส.แป๋ว หลานของผู้สูญหาย ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายชิน ลูกชายของคนหาย บอกว่าเจอแม่แล้วและกำลังเดินทางกลับ โดยจะลงจากป่าที่ชายป่าหลังวัดกกตูม

โดยยายทิน ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มารอรับ มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และได้ขึ้นรถของเจ้าหน้าที่กลับมายังหมู่บ้าน ยายทิน บอกเพียงว่า ตอนหลงป่าไม่หิว หลงทิศเพราะป่าที่หลงนั้นไม่เคยขึ้นไปมาก่อน ซึ่งเดินไปนอนที่ริมห้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน รู้สึกหนาวจนคางสั่น

590002

ในเวลา 04.00 น. เมื่อไปถึงบ้าน ชาวบ้านและญาติ ๆ ที่รอต้อนรับก็พากันดีใจ และได้นำอาหารมาเลี้ยงเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ช่วยค้นหา โดยยายทิน เปิดเผยว่า รู้ว่าตัวเองหลงตอนที่ฝนตก ไม่เห็นทิศทาง ไม่รู้อะไรเลย และไม่คิดว่าจะเดินกลับมาได้เพราะรู้ตัวว่าหลงและคิดว่าคงจะตาย ได้ยินเพียงเสียงนกกับไก่

อย่างไรก็ตาม ตนคิดไว้แล้วว่าถ้าหากไม่เจอใครไปช่วย ตนก็จะนอนใกล้ ๆ แหล่งน้ำ เพราะตนก็กลัวว่าจะเจอกับคนแปลกหน้าที่ไม่หวังดี

126222

ล่าสุดวันที่ 11 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปที่บ้านกกตูม เพื่อพูดคุยกับ นางทิน เชื้อคมตา อายุ 60 ปี ผู้ที่ไปหาเห็ดเเล้วหลงป่า ซึ่งนางทินได้เล่าว่า เมื่อวาน ช่วงเวลา 14.00 น. ตนเเละนางดอนตาล ผู้เป็นน้องสาว ได้ออกไปหาเห็ดด้วยกัน โดยการขี่รถจักรยานยนต์คนละคัน ไปจอดบริเวณตีนภูกะโล้น หลังหมู่บ้านกกกอก เเล้วเดินหาเห็ดไปเรื่อย ๆ ตามเเนวตีนภูกะโล้น

จนกระทั่งเวลา 16.00 น. เมฆครึ้ม ลมเเรง เหมือนฝนจะตก ได้ยินเสียงน้องสาวตะโกนบอกว่าจะกลับบ้าน เเต่ตนไม่ได้ตอบกลับเพราะกำลังเพลินอยู่กับการเก็บเห็ด จนได้เห็ดเกือบเต็มตะกร้า เมื่อเงยหน้าขึ้นมาไม่เห็นน้องสาว ตนก็ได้ตะโกนเรียก เเต่ไม่มีเสียงตอบ จึงรู้ว่าน้องคงกลับบ้านเเล้ว

386701

จากนั้นตนพยายามวิ่งไปวิ่งมา เพื่อหาที่หลบฝน เเต่หาที่หลบไม่ได้ วิ่งอยู่ 1 ชั่วโมง ก็พบว่าตนหลงป่าเเล้ว ตอนนั้นฝนก็ตกอย่างเเรง จึงวิ่งหาทางกลับบ้าน กระทั่งเวลา 17.00 น. บังเอิญไปเจอเส้นทาง เเต่ตนไม่ทราบว่าเส้นทางดังกล่าวจะไปโผล่ที่ใด จึงเดินไปเรื่อย ๆ ซึ่งตนเหนื่อยมาก เพราะเหงื่อออกตลอดเวลา เหลือน้ำดื่มอยู่ 1 ขวด ใช้วิธีจิบเรื่อย ๆ ทีละนิด ระหว่างนี้ก็พยายามโทรติดต่อคนข้างล่าง เเต่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ

421911

จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ก็พบกับก้อนหิน 2 ก้อนอยู่ในคลอง อยู่ใต้ต้นไม้ จึงใช้เป็นที่พัก ตนขึ้นไปนั่งสมาธิอยู่บนก้อนหิน 15 นาที เพื่อสงบสติ เเละอฐิษฐานถึงปู่ย่าตายายที่เสียชีวิตไปเเล้ว ขอให้คุ้มครอง เพราะขณะนั้นจิตใจตนกำลังว้าวุ่น หลังจากนั่งสมาธิเสร็จก็ลงไปนอนที่ก้อนหินอีกก้อนที่ต่ำกว่า ซึ่งตอนนั้นหนาว ปากสั่น เพราะร่างกายเปียกทั้งฝนทั้งเหงื่อ เเละก้อนหินมีความเย็น จึงเทเห็ดที่หามาได้ทั้งหมดลงบนโขดหินเพื่อรองนอน ซึ่งตอนนั้นยุงกัดเป็นจำนวนมาก ก็ใช้หมวกไอ้โม่งปัดยุง

เมื่อนอนไปครูหนึ่ง ได้ยินเสียงกิ่งไม้ตกรอบ ๆ ตัว เชื่อว่างคงเป็นเสียงเจ้าที่เจ้าทาง ตนจึงลุกขึ้นประนมมือบอกว่า "เจ้าที่เจ้าทาง ลูกหลงป่า หาทางกลับบ้านไม่ได้ ชี้ทางออกให้ลูกด้วย" ซึ่งสิ่งที่ตนกลัวที่สุดในตอนนั้น คือกลัวพรานป่ามาเห็น แล้วจะเกิดอันตราย

406083

หลังจากนอนไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลา 01.00 น. ได้ยินเสียงคนจำนวนมากตะโกน เเต่ตนจับใจความไม่ได้ คิดว่าเป็นพราน จึงไม่กล้าขานตอบ เเต่ก็ลุกขึ้นมานั่งเพื่อตั้งใจฟังเสียง จึงทราบว่าเสียงเหล่านั้นเป็นชาวบ้านกกตูม กำลังเรียกชื่อตน จึงตะโกนขานตอบว่าอยู่ตรงนี้ ชาวบ้านเเละลูกหลานก็วิ่งมาหา วินาทีนั้นตนดีใจมาก คิดว่ารอดตายเเล้ว

เมื่อลงมาถึงข้างล่าง เห็นชาวบ้านทั้งกกตูม เเละกกกอก รวมถึงเจ้าหน้าที่จำนวนมากมาช่วยตามหา ตนทราบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาพักผ่อนมาช่วยตามหา เมื่อถามว่าหลังจากนี้ จะขึ้นไปหาเห็ดอีกหรือไม่ ตนจะไป เเต่ไม่ไปที่เดิมอีกเเล้ว

898271

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับลูกชายของยายทิน คือ นายชินวัตร เชื้อคมตา เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากทราบข่าวว่าเเม่หายไป ตนเเละชาวบ้านกกตูม รวม 6 คน เป็นชุดเเรกที่ขึ้นไปค้นหา โดยเริ่มค้นหาเวลา 19.00 น. โดยเดินไปคามเเนวตีนภูกะโล้น ไปยังจุดที่ป้าดอนตาลบอกว่าเห็นเเม่เป็นครั้งสุดท้าย ระยะทาง 4 กิโลเมตร ซึ่งทางเดินค่อนข้างรก ส่วนพื้นหินเเละพื้นดินก็ลื่นมาก เนื่องจากฝนเพิ่งหยุดตก ตนใจคอไม่ดี เป็นห่วงเเม่มาก ในใจก็คิดไปต่าง ๆ นานา กลัวว่าเเม่จะลื่นล้มหัวฟาดพื้น 

จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่เเละชาวบ้านกกตูมบางส่วน ที่เดินตามหลังมาพบกันยังห้วยวังฮี เเล้วได้มีการประชุมวางเเผนกันตรงนั้น เเละมติที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า จะเเบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปหายังทับควาย กลุ่มของตน 6 คน จึงอาสาไป ส่วนกำลังที่เหลือ หาต่อที่ห้วยวังฮี

นายชินวัตร ยังกล่าวอีกว่า ตนเห็นชาวบ้านนับร้อยช่วยกันตามหา ตนซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ขอบคุณทุกคนที่ช่วย ส่วนพื้นที่ดังกล่าว เเม่เคยไปหาเห็ดหลายครั้งตอนสมัยเป็นสาว เเต่เมื่อหลายสิบปีผ่านไป สภาพป่าเปลี่ยนไป ทำให้เเม่หลงทาง ซึ่งหลังจากนี้ตนไม่อยากให้เเม่ไปหาเห็ดอีกเเล้ว กลัวจะเกิดอันตราย "เพราะผมมีเเม่เเค่คนเดียว"

480331

นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า ตอนที่ตนลำบาก ชาวบ้านกกตูมมาช่วยตนมากมาย แล้วในวันที่เขาลำบาก ตนก็อยากตอบแทนน้ำใจ เพราะเข้าใจว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นอย่างไร 

215729

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า ตนคิดว่าใจเขาใจเรา คนที่เข้าป่าไม่รู้จะหาเจอตอนไหน คนที่ตามหาก็ต้องมีเสบียง เพราะไม่รู้จะเจอเมื่อไร และอยากให้คนที่หายได้กินน้ำ รวมถึงได้เตรียมพลาสเตอร์และยาดมขึ้นไปด้วยเพื่อเตรียมพร้อมปฐมพยาบาล

500097

นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า กรณียายทินหายนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาไปนอนรีสอร์ตที่อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร เพราะบ้านตนยังสร้างไม่เสร็จ ถ้าตนอยู่ก็คงต้องออกไปตามหาอยู่แล้ว เพราะตนมีจิตอาสาในเรื่องช่วยเหลือคน ซึ่งตนก็ไม่กังวลว่าจะมีใครโกรธที่ไม่ช่วย เพราะถ้าเขารู้ว่าตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ก็คงจะเข้าใจกัน

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส