อุ๊บยุติสร้างหนังชมพู่ จ่อปั้นลุงพลเป็นดารา ซินแซดังชี้โหงวเฮ้งปังตอนแก่ (คลิป)

สืบเนื่องจากประเด็นคดีดัง “น้องชมพู่ ” แห่งบ้านกกกอก ที่หลายฝ่ายยังคงตามหาปริศนา สาเหตุการเสียชีวิตของน้องชมพู่จนยืดเยื้อมาเป็นเดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้เองทางด้านผู้จัดการดาราชื่อดัง "อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ" ได้ชูประเด็น พร้อมประกาศจะสร้างเรื่องราวคดีของน้องชมพู่เป็นภาพยนตร์ “กกกอก” แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ตลอดจนจากดาราที่ได้รับการทาบทาม ต่างปฏิเสธขอไม่ร่วมแสดงด้วย

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

ล่าสุดวันที่ 10 ส.ค.63 "อุ๊บ วิริยะ" นักปั้นมือทอง ได้ประกาศลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอหยุดโปรเจกต์ในส่วนของภาพยนต์เกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ที่ตอนแรกตั้งใจจะทำไว้ก่อน แต่ก็ไม่ทิ้งอีกหนึ่งความฝันที่ได้มอบไว้ให้กับลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ ที่เตรียมจะผลักดันลุงพลเข้าสู่วงการบันเทิง เตรียมพูดคุยเพื่อให้ร่วมเเสดงเป็นพระเอกเอ็มวี

ทั้งนี้ตนยอมรับว่าสาเหตุหลักที่ต้องหยุดโปรเจกต์ภาพยนต์ดังกล่าว เพราะครอบครัวของน้องชมพู่เองไม่อนุญาต อีกทั้งคดียังไม่เป็นที่สิ้นสุด ส่วนตัวต้องเคารพการตัดสินใจของครอบครัวน้องชมพู่ รับเเค่หยุดความคิดที่จะสร้างในช่วงนี้ แต่หากคดีสิ้นสุดแล้วพร้อมจะเดินหน้าต่อ สาเหตุที่พับโปรเจกต์นั้นไม่ได้เกิดจากที่เหล่าศิลปินดารา ที่วางตัวไว้ปฏิเสธที่จะร่วมแสดง และไม่ได้มีปัญหากับนักแสดงที่ทาบทามไว้ เพราะทุกคนล้วนมีเหตุผลและแนวความคิดตรงกันว่าคดีดังกล่าวยังไม่จบสิ้น ทุกคนล้วนรู้จักกันหมดเหมือนพี่น้องในวงการ

เมื่อถามถึงเรื่องที่ทาง "คุณอุ๊บ วิริยะ" เตรียมดันลุงพลเข้าสู่วงการนั้น เจ้าตัวเผยว่า วินาทีแรกที่เห็นลุงพลนั้นส่วนตัวเห็นแววลุงพลที่มีหน้าตาหล่อ ออร่าของความนักแสดงพุ่งมาเลย ตลอดจนอินเนอร์ต่าง ๆ ในตัวลุงพลออกมาให้ตนได้เห็น พูดง่าย ๆ เป็นผู้ชายที่ขึ้นกล้องและหล่อมาก ตลอดจนมีน้ำเสียงและแววตาที่ตนมองว่า สามารถสื่อสารออกมาในเเนวดราม่าได้ อีกทั้งเขาก็ตอบปากตกลงว่าสนใจในงานการแสดง

โดยล่าสุดส่วนตัวได้ประสานไปยังทีมข่าวอมรินทร์ทีวีที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ลุงพลมาร่วมแสดงเอ็มวีประกอบเพลง "คนเดียวในดวงใจ" ของ "ธันวา ราศีธนู" ที่วางบทพระเอกให้ลุงพลได้มาร่วมเล่น โดยที่ตนเพิ่งจะแจ้งไปยังครอบครัวลุงพลวันนี้ ส่วนทางโน้นจะตกลงหรือไม่ก็จะว่ากันอีกที โดยเอ็มวีดังกล่าวนั้นจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักในรูปแบบต่าง ๆ หากทางลุงพลตอบตกลง ทีมงานก็จะเตรียมขนกองถ่ายไปถ่ายยังหมู่บ้านกกกอก โดยเตรียมค่าตัวเป็นเงินส่วนตัวของตัวเองจำนวน 10,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนสูง เมื่อเปรียบเทียบกับค่าตัวของนักแสดงใหม่ที่อยู่ในเรต 2,000 - 7,000 บาท ใช้ระยะเวลาถ่ายทำ 1 วัน

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากงานเอ็มวีแล้ว ส่วนตัวยังมีงานเดินแบบแฟชั่นโชว์ช่วยเหลือสัตว์พิการและจรจัด ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6 กันยายน 2563 โดยทุกคนจะได้เห็นลุงพลในมาดใหม่แน่นอน พร้อมมีค่าตัวจำนวน 5,000 บาท มีค่าเดินทางมาจากต่างจังหวัดให้ ส่วนตัวก็เตรียมอุปกรณ์พร้อมยกกองไปถ่ายแบบลุงพล ในสไตล์ย้อนกลับไปเหมือนถ่ายชุดไทย ชุดสูทสากล ให้ประกบคู่กับป้าแตน อัดขยายรูปให้ติดฝาผนังบ้าน แม้จะเป็นงานที่อยากทำให้ แต่ส่วนตัวพร้อมจ่ายค่าตัวเป็นเงินจำนวน 3,000 -5,000 บาท

นางไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า หากทุกอย่างคลี่คลาย ตนก็ขอปรึกษากับป้าแต๋นก่อนว่า จะพร้อมให้ตนทำเรื่องพวกนี้หรือไม่ เพราะสิ่งสำคัญที่สุด คือ ครอบครัว หากเป็นเรื่องที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตนก็คงจะปรึกษากับป้าแต๋น หากป้าแต๋นเปิดใจก็พร้อม

ลุงพล อมยิ้มระบุว่า ไม่รู้ว่าป้าแต๋นจะยอมหรือไม่ ต้องรอให้ป้าแต๋นคิดก่อน แต่ป้าแต๋นเป็นคนใจดีอยู่แล้ว ซึ่งตนคงต้องใช้ลูกอ้อนบ้าง ป้าแต๋นจึงจะให้ ซึ่งหากตนไปทำงานในวงการจริง ตนคงต้องเอาป้าแต๋นไปด้วย เพราะเป็นกำลังใจที่อยู่ข้างตนตลอด ตนไม่ได้จะไปเสียคนอะไร ตนอายุไม่น้อยแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว จังหวะนี้ป้าแต๋นพูดแทรกว่า สมัยนี้หัวหงอกก็หลงแสงสี ทำลุงพลขำ และหยิบถั่วกิน ตนก็อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี หากจบแล้วสิ่งดี ๆ ก็คงเข้ามาในชีวิต

จากนั้นระหว่างทีมข่าวกำลังเก็บภาพหลังสัมภาษณ์ป้าแต๋นเสร็จ ปรากฏว่าลุงพลได้ถือไม้กวาด และเดินร้องเพลงเข้ามาในบ้าน โดยเดินหาป้าแต๋น เป็นเพลง “ขอคนรู้ใจ” ของไมค์ ภิรมย์พร บางท่อน

“กลับบ้านเย็นนี้ อยากมีคนซับเหงื่อให้
ถามว่าเหนื่อยไหม เตรียมน้ำเย็นเย็นคอยท่า
เอียงแก้มให้หอม ย้อมใจให้ลืมปัญหา
เปลี่ยนห้องที่เคยไร้ค่า ให้น่าอยู่และดูสดใส
 
เหนื่อยกายใจท้อ อยากมียิ้มรอตรงหน้า
สุขตอนหลับตา ตื่นมามีคนเคียงใกล้
อยากฟังคำหวาน เติมความเบิกบานให้ใจ
แค่นี้ก็คงทำให้ หัวใจฟื้นจากความล้า”

ป้าแต๋นได้เปิดกล่องถั่ว จากนั้นได้หยิบมอบให้ลุงพล โดยบอกให้กินถั่ว จากนั้นก็บอกว่า “ก็หาเรื่องทำตลอดเลยนะ” ก่อนหยิบน้ำดื่มที่ตัวเองกินแล้วมอบให้ลุงพล เมื่อร้องจบก็มีเสียงปรบมือของคนใจบุญที่สร้างบ้านให้ลุงพล

ป้าแต๋นพูดทิ้งท้าย ระบุว่า อยู่บ้านไม่ต้องเข้าไปในเมือง ไม่ต้องไปไหนไกล อยู่บ้าน เฝ้าบ้าน ป้าแต๋นหมายถึงว่า ไม่ต้องไปทำงานในวงการบันเทิง

ซินแสเข่ง หรือ อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย วิเคราะห์ถึงโหงวเฮ้ง หรือ “นรลักษณ์ศาสตร์” เบื้องต้นได้ทำนายดวงของน้องชมพู่ คือ น้องชมพู่อยู่ในวัย 3 ขวบ ตกดวงแตกแยก พลัดพรากตายจาก ทำลายธาตุดวงชะตาชีวิต ถ้ารู้ก่อนแล้วรีบแก้ไขจะทัน ซึ่งทางแก้ คือ ให้ทำสังฆทาน หรือจับแต่งงาน (เด็กดวงคลาย ๆ กัน) แก้เคล็ด หรือผูกข้อมือ จะทำให้พ้นเคราะห์ ไม่มีดวงตาย

โดยดวงของลุงพล กับดวงของน้องชมพู่ เกื้อหนุนกัน สมพงษ์กัน ซึ่งถ้าลุงพลผูกข้อไม้ข้อมือให้ หรือให้เป็นลูกบุญธรรมแก้เคล็ด ก็จะไม่ถึงตาย เพราะเป็นการแก้ดวงแล้ว แต่หากน้องยังไม่ตาย เพราะแก้ไขดวงได้ทัน ผลดวงจะเปลี่ยน ซึ่งทางกลับกัน แม่จะเป็นทุกข์ร้อน อยู่ไม่เป็นสุข เพราะดวงของน้อง กับดวงของแม่ขัดกัน ในช่วงปี 2563 เป็นต้นไป

นายอนามัย พ่อน้องชมพู่ หน้าผากแคบ เป็นคนเข้าถึงง่าย จะอยู่ภายใต้อำนาจคนใกล้ชิด จมูกเปิด มองเห็นรูจมูกเพียงนิดเดียว เป็นคนลังเล ริมฝีปากหนา ไม่มั่นใจในตนเอง คิ้วหนาเข้ม ไม่มั่นใจในตนเอง ดวงตาโรย ไม่มีกำลัง ไม่มั่นใจตนเอง เก็บความลับไม่ได้ ไฝที่โหนกแก้มข้างขวา ไฝก่อเหตุในลักษณะไม่ดี แนะนำให้เอาออก

นายไชย์พล หรือ ลุงพล ลุงน้องชมพู่ หน้าผากสมส่วน ดวงชะตามีมีความมั่นคง คิ้วหนาเข้ม มั่นคงในหน้าที่การงาน จมูกเปิด เป็นคนเปิดเผย ถ้าไม่พูดจะอึดอัด ริมฝีปากกระจับ รี มีความมั่นคง ตามีพลัง มีความมั่นใจ ใบหูใหญ่ เห็นเอ็นขึ้นชัด เป็นคนมีชื่อเสียง รูปหน้าทรงธาตุน้ำ สามารถปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ ไฝที่แก้มซ้าย มีโชคลาภ