เจอทางใหม่! อุ้มชมพู่แล้วหนีลงเขาโผล่ รร. "แม่-ลุง" เชื่อเป็นไปได้ซ่อนเด็กในถ้ำ (คลิป)

10 ส.ค. 63

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.63 นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกอะไรตน ตอนนี้ครบ 90 วัน อะไรจะเกิดก็คงต้องออกมาแล้ว คนที่มาให้กำลังใจตอนนี้ก็มีทุกหน่วยงานแล้ว มีทุกระดับ ทุกอาชีพ ตนก็มีความหวังว่าหลังจากวันนี้ไปน่าจะมีแต่เรื่องที่ดีเกิดขึ้นกับครอบครัว

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

534624

ขณะที่นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของชมพู่ กล่าวว่า ระยะเวลา 90 วันที่ผ่านมาก็เหมือนทุกวัน ทุกอย่างต้องรอเจ้าหน้าที่ถึงความชัดเจน ตนยังยืนยันเหมือนเดิม คือ ขอให้มีความขัดเจนกับครอบครัวตนด้วย เพราะตนก็ต้องการความสบายใจ รวมทั้งตัวแม่ของน้องชมพู่ด้วย วันนี้ไม่ได้พิเศษอะไรไปมากกว่าวันอื่น ๆ 

273075

กรณีตำรวจชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ นำโดย พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเเพทย์ที่ทำการชันสูตรศพน้องชมพู่คนเเรก คือ นายเเพทย์ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เดินทางขึ้นภูเหล็กไฟไปยังจุดพบศพ เพื่อวิเคราะห์สภาพพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์ คือ ตลับเมตร เเละเครื่องมือวัดความลาดชันขึ้นไปด้วย

989243

จากนั้นทีมข่าวได้ปีนลงไปสำรวจใต้ถ้ำ ซึ่งปีนลงค่อนข้างยากลำบาก เพราะทางลงคับเเคบ 70 เซนติเมตร สูงชัน 5 เมตร ก้อนหินลื่นเนื่องจากฝนตกต่อเนื่องมาหลายวัน เมื่อลงมาถึงด้านล่าง พบว่าปล่องถ้ำสามารถใช้พักอาศัยได้

ทีมข่าวใช้ตลับเมตรวัดขนาดถ้ำ ความสูง 1 เมตร ความกว้าง 2 เมตร ความยาว 15 เมตร หลังจากนั้นจะไม่สามารถคลานต่อได้ เพราะปล่องถ้ำเริ่มเเคบลง เหลือเพียง 50 เซนติเมตร

760147

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้จำลองการได้ยิน หากคนร้ายนำเด็กมาซ่อนไว้ในถ้ำดังกล่าวจริง เเล้วเด็กร้องขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ค้นหาจะได้ยินหรือไม่ โดยเริ่มการจำลองด้วยการให้ผู้สื่อข่าวปีนลงไปที่ความลึก 5 เมตร เพื่อไปอยู่ในถ้ำด้านล่าง เเล้วตะโกนข้อความช่วยเหลือว่า "ช่วยด้วย"

929320

จากนั้นให้ทีมงานอยู่ด้านบนคอยฟังเสียง ในระทางที่ใกล้ไกลต่างกัน โดยทิศทางที่ทดลอง มี 2 ทิศทาง คือทิศหน้าถ้ำ เเละทิศหลังถ้ำ จุดที่ 1 ทีมงานยืนบริเวณปากถ้ำด้านบน อยู่ห่างจากปากถ้ำ 5 เมตร ปรากฏว่าได้ยินเสียงเบา จับใจความได้ ส่วนผู้สื่อข่าวที่อยู่ด้านล่าง ได้ยินเสียงทีมงานเบา ๆ จับใจความได้

331237

จุดที่ 2 ถัดไปทางด้านหน้าของถ้ำ อยู่ห่างจากปากถ้ำ 10 เมตร ได้ยินเสียงเบากว่าจุดเเรก พอจับใจความได้ ส่วนผู้สื่อข่าวที่อยู่ด้านล่าง ได้ยินเสียงเบา เเต่จับใจความไม่ได้

920699

จุดที่ 3 อยู่ห่างจากปากถ้ำ 20 เมตร ทีมงานได้ยินเเว่ว ๆ จับใจความไม่ได้ ส่วนผู้สื่อข่าวที่อยู่ด้านล่าง ไม่ได้ยินเสียง

535553

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายนภัสสร ตะวันคำ เจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติภูผายล ถึงเรื่องเส้นทางที่พาทีมข่าวเดินจำลองขึ้นมายังถ้ำน้ำลอด เปิดเผยว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเลี่ยงจากเขา ชาวบ้านจึงไม่ค่อยนิยมขึ้น ส่วนความชันตอนขึ้นก็ไม่ได้เเตกต่างกับเส้นทางปกติ

เจ้าหน้าที่เชื่อว่า หากเด็กถูกอุ้มมาที่ถ้ำน้ำลอดจริง คนร้ายน่าจะนำเด็กลงไปซ่อนภายในถ้ำด้านล่าง เพราะลับตาคน ประกอบกับความลึก 5 เมตร เด็กไม่สามารถขึ้นหรือลงเองได้ ต้องมีคนรับส่งหรือนำขึ้นลง เเต่ถ้าหากทิ้งไว้ด้านบนอาจมีคนเห็น เพราะขณะนั้นป่าโล่งเตียน เนื่องจากเพิ่งเกิดไฟป่า ถ้าหากเด็กถูกซ่อนในถ้ำ เเล้วร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ในรัศมีโดยรอบตั้งเเต่ 30 เมตรเป็นต้นไป จะไม่ได้ยินเสียง เพราะถ้ำเป็นที่อับ เสียงจะเล็ดลอดออกมาเฉพาะจุดที่มีรู ซึ่งถ้ำน้ำลอดมีลักษณะทึบ ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่ จึงเล็ดลอดออกทางหน้าถ้ำ

ส่วนเส้นทางที่คนร้ายใช้หนี ไม่สามารถตอบได้ เพราะขณะนั้นพื้นที่โล่งเตียน สามารถลงได้รอบทิศทาง เมื่อถามถึงเส้นทางหลังโรงเรียนกกกอก เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า เส้นทางดังกล่าว ผู้ที่นิยมใช้คือชาวบ้านต่างพื้นที่ที่มาหาของป่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าเขตชุมชน หากเสื้อถูกทิ้งที่พื้นธรรมดา ในพื้นที่มีเเดดเเละฝนอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเปลี่ยสภาพได้ เเต่หากถูกซ่อนอยู่ในถ้ำ หรือใต้โขดหินที่น้ำหรือเเดดไปไม่ถึง ก็จะยังคงสภาพอยู่ได้

370107

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายคล้าย เงินนาม พรานประจำหมู่บ้านกกกอก กล่าวถึงสาเหตุที่วิเคราะห์ว่าคนร้ายน่าจะนำเด็กไปพักหรือซ่อนไว้ที่ถ้ำน้ำลอด โดยระยะการมองเห็น หากเป็นช่วงที่ภูเขาโล่งเตียน ถ้ายืนอยู่จุดที่สูงกว่าถ้ำน้ำลอด จะสามารถมองเห็นถ้ำได้ในระยะไม่เกิน 30 เมตร เเต่ขณะนี้หญ้าขึ้นรก บดบังทัศนวิสัย

ส่วนเส้นทางตรงเเท๊งน้ำที่ทีมข่าวเดินขึ้นวันนี้ เป็นเส้นตรงที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้ เพราะเป็นทางเลี่ยงภูเขา เเละหญ้าขึ้นรก ซึ่งตอนที่ค้นหาน้องชมพู่ ตอนนั้นยังไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กถูกอุ้ม จึงไม่มีใครไปหา ตนก็ช่วยตามหาหลายวัน เเต่ไม่เคยผ่านถ้ำน้ำลอดเลย

493683

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้จำลองเเบกกระสอบ น้ำหนัก 12 กิโลกรัม จากไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง หลังบ้านน้องชมพู่ไปยังถ้ำน้ำลอด โดยขึ้นทางตรงเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านไม่นิยมขึ้น ซึ่งจุดสตาร์ทอยู่กลางไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง ห่างจากบ้านชมพู่ 100 เมตร ขึ้นภูทางตรง บริเวณเเท๊งน้ำของหมู่บ้าน พร้อมทั้งจับเวลาการเดิน โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติภูผายล คือ นายนภัสสร ตะวันคำ เป็นผู้นำทางให้

โดยตั้งเเต่กลางไร่มันจนถึงตีนภู ทางเดินยังราบเรียบ ผู้สื่อข่าวยังเเบกเดินได้สบาย เมื่อเดินต่อระยะทาง 400 เมตร ทางเป็นเนินสูงชัน 30 องศา สลับโขดหิน มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ผู้สื่อข่าวเกิดอาการหอบ เดินได้ช้าลง เนื่องจากสภาพอากาศวันนี้ร้อนอบอ้าว จึงต้องหยุดพัก 5 นาที

215110

จากนั้นเดินต่อขึ้นไปอีก 50 เมตร ทางสูงชัน 40 องศา เมื่อเดินต่อไปอีก 250 เมตร ก็ถึงพักที่ 1 ทางมีความชัน 50 องศา โขดหินมากขึ้น ผู้สื่อข่าวเกิดอาการหอบ ปวดบ่าเเละปวดเอว จึงนั่งพัก 5 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 400 เมตร ก็ถึงถ้ำน้ำลอด สภาพส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ ไม่สูงชัน ผู้สื่อข่าวสามารถเดินได้ต่อเนื่องจากพักที่ 1 จนถึงถ้ำ

สรุปการจำลองเดินขึ้น ระยะทางจากจุดสตาร์ทไปถ้ำน้ำลอด 1,100 เมตร ทีมข่าวใช้เวลาเดิน 15 นาที มีการพัก 2 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 25 นาที

163978

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้จับเวลาขาลง โดยกึ่งเดินสลับวิ่ง เส้นทางด้านหลังโรงเรียนกกกอก สภาพพื้นที่มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ทางค่อนข้างสูงชันกว่า ง่ายสำหรับการลง เเต่ยากสำหรับการขึ้น ระยะทางจากถ้ำน้ำลอดถึงโรงเรียนกกกอก 1 กิโลเมตร ทีมข่าวใช้เวลาเดิน 8 นาที

อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนพฤษภาคม ที่น้องชมพู่หายตัวไป ขณะนั้นเส้นทางหลังโรงเรียนค่อนข้างเตียนโล่ง เนื่องจากเพิ่งเกิดไฟป่า เเต่ปัจจุบันเป็นฤดูฝน หญ้าจะขึ้นรก ไม่สามามารถวิ่งต่อเนื่องได้ เมื่อเจอพื้นที่รกจะต้องเปลี่ยนเป็นการเดิน

724396

โดยหลักฐานที่เจ้าหน้าที่พบเจอใกล้กับ โรงเรียนกกกอก จ.มุกดาหาร ในวันที่ 5 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ได้แก่ ถุงขนม กล่องนมถั่วเหลือง และกล่องนมเปรี้ยว 

456739

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายไพรัช เชื้อคนเเข็ง หรือพ่อน้องอาชิ ยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ ซึ่งพ่อน้องอาชิได้เปิดเผยไทม์ไลน์ วันที่ 11 พ.ค.63 ว่าตนตื่นนอนตอนเช้า ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ออกจากบ้านเวลา 06.00 น. ไปให้อาหารไก่ในสวนยาง แล้วก็กลับมากินข้าวที่บ้าน จากนั้นเวลา 07.30 น. ขับรถกระบะไปยืมกระติกน้ำมันที่บ้านน้องชมพู่

จากนั้นตนขับรถไปที่อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร เพื่อซื้อน้ำมันและสังกะสี รวมถึงตัดผม หลังจากซื้อน้ำมันเเละสังกะสีเสร็จเเล้ว ก็เดินทางกลับบ้าน เวลาประมาณ 09.30 - 10.00 น. จากนั้นเวลา 10.30 น. นำสังกะสีไปทำหลังคาเล้าไก่ที่สวนยาง จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงกว่า ๆ ภรรยา (เเม่น้องอาชิ) ได้มาเเจ้งข่าวว่าน้องชมพู่หาย ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกตามหา

จากนั้นวันที่ 12 พ.ค.63 ตนช่วยตามหาตั้งเเต่ช่วงเช้า โดยขี่รถจักรยานยนต์หาตามเถียงนาชาวบ้าน จากนั้นช่วงบ่ายก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปเส้นทางเดิม ไปจอดใกล้ ๆ จุดพบเเหวน เเล้วเดินต่อไปถึงตีนภูกะโล้น เเล้วก็กลับ

พ่อน้องอาชิ ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ เพราะตนกับครอบครัวชมพู่รักใคร่เเละพึ่งพาอาศัยกันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหากัน อีกทั้งในช่วงที่พบรถเเบ็กโฮ ตำรวจก็เคยมาสอบปากคำตนเเล้ว 4 ครั้ง มีการสอบถามเรื่องไทม์ไลน์ ตรวจสอบโทรศัพท์ ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลไปตามที่ให้สัมภาษณ์อมรินทร์ทีวี

982264

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า กรณีมีคนตั้งสมมติฐานว่า น้องชมพู่โดนอุ้มไปทิ้งที่ถ้ำน้ำลอด และจัดฉากย้ายศพไฟให้คนเจอ "อะไรก็เป็นได้หมด เพราะไม่ใครรู้เหตุการณ์จริง ๆ"

120533

นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า ตนคิดว่าหากคนเดินขึ้นเขาทั่วไป ไม่ตั้งใจเดินตรงไปจุดนั้นก็จะไม่เจอ เพราะถ้ำน้ำลอดตนก็ไม่เคยเห็นว่าอยู่ตรงไหน หากเรามองไปจากที่อยู่พื้นข้างล่างก็จะมองไปไม่เห็นถ้ำ เพราะถ้ำส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ตามทางเดินประจำ ต้องเดินออกนอกเส้นทาง หากจะมองเห็นก็แค่โขดหินใหญ่ ๆ สามารถมองเห็นได้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าใช่ถ้ำหรือไม่ หากไม่เข้าไปในถ้ำจะไม่มีทางรู้ว่าเป็นถ้ำ

554186630825

อย่างไรก็ตาม เมื่อสรุปความคิดเห็นจากแหล่งข่าวทั้งหมด ต่อคำถามที่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่คนร้ายจะอุ้มเด็กมาซ่อนไว้ที่ถ้ำน้ำลอดดังกล่าว แม่น้องชมพู่ บอกว่า "อาจเป็นไปได้" ด้านลุงพลขอไม่ออกความคิดเห็น ส่วนป้าแต๋น บอกว่า "ไม่มั่นใจเพราะไม่เคยเห็นถ้ำ" นายนภัสสร บอกว่า "อาจเป็นไปได้" และ นายคล้าย บอกว่า "เป็นไปได้" 

157016

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปหาหมอเข้ม หมอธรรมตาทิพย์ กรณีภาพหินคล้ายรูปหน้าคน ซึ่งหมอเข้ม เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ดูคิดว่ารูปดังกล่าวเหมือนหน้าคน หรืออาจจะเหมือนลิง ซึ่งตนมองว่าอาจจะไม่ใช่วิญญาณของน้องชมพู่ ดูเหมือนหินธรรมดาทั่วไปตามธรรมชาติ

cg_17

หลังจากนั้นหมอเข้ม ได้หลับตาลงครู่หนึ่งและสั่งให้กุมาร 2 องค์ไปดู เป็นกุมารขาวและกุมารดำ ซึ่งบอกกับทีมข่าวว่า เป็นเจ้าที่เจ้าทางที่แสดงภาพให้เห็นแบบนั้น ซึ่งการที่เจ้าที่ออกมาให้เห็นแบบนี้แปลว่า หมู่บ้านจะร้อนกว่านี้ ร้อนไปอีกสักระยะ ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน และกลับมาเป็นเหมือนเดิมยาก

898953

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายได้ปะทะกันแล้ว ต่างคนมีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนและชนกันแล้ว ถ้าเป็นแก้วก็คือแก้วแตกและยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส