กรณีต้นมะพร้าวล้มทับคนงานเสียชีวิต บริเวณเหวลึกใกล้โรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนศรีสุนทร ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงประสานทีมกู้ชีพ อบต.สาคู และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยเป็นป่ารกและเป็นเหวลึกอยู่ริมถนนสายดังกล่าว จุดที่พบศพลึกจากถนนลงไปราว 15 เมตร พบร่างนายเอกพงษ์ หล่อนสิ่ว อายุ 37 ปี ชาวอ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกแรงกระแทกด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณศีรษะ จนกะโหลกแตกผิดรูป เลือดอาบใบหน้า ตามร่างกายมีกระดูกหักบางส่วน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ถูกต้นมะพร้าวขนาดใหญ่ทับร่างอยู่ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 นาที
จากนั้นหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันดึงต้นมะพร้าวที่ทับร่างนายเอกพงษ์ออก เพื่อนำศพขึ้นจากบริเวณดังกล่าว โดยการผูกกับเชือกแล้วดึงขึ้นไปยังถนนนำส่งรพ.ถลาง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการตาย
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเอกพงษ์และเพื่อนคนงานได้รับจ้างตัดต้นมะพร้าวบริเวณดังกล่าว ซึ่งก่อนตัดได้ใช้มีดและของมีคมฟันที่ลำต้นไว้ส่วนหนึ่ง จากนั้นได้ใช้เชือกผูกกับลำต้น เพื่อดึงให้โค่นแต่พลาดท่า เมื่อดึงเชือกต้นมะพร้าวกลับล้มมาทางที่นายเอกพงษ์ยืนอยู่ ทำให้ทับร่างเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณเกิดเหตุ เพื่อพบกับผู้เห็นเหตุการณ์กรณีอุบัติเหตุตัดโค่นต้นมะพร้าวล้มทับมีผู้เสียชีวิต นายตุ๋ย เพื่อนร่วมงาน เล่าว่า ความจริงการตัดต้นมะพร้าวต้นนี้ไม่ใช่งานของเรา บอกน้องแล้วน้องไม่ฟัง เพราะงานจริง ๆ คือรับจ้างตัดแต่งทางมะพร้าวเท่านั้น เราทำกันมานานแล้ว น้องผู้ตายมาหาตนที่บ้านบอกว่า ช่วงนี้มีงานอะไรทำบ้าง เพราะว่าโรงแรมที่ผู้ตายทำอยู่นั้นหยุด ยังไม่ได้เปิด จึงต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงครอบครัว มีลูกอายุ 17 ปี และ 9 ปี ครอบครัวฐานะอยากจน ตอนนี้ไม่มีเงินจัดงานศพ
นางนรินทร์ ดวงพายัพ อายุ 36 ปี กล่าวว่า สามีเป็นคนใจดี สนุกสนานร่าเริง เป็นคนขยัน ทุก ๆ เช้าจะปลุกตนให้ตื่น วันนี้ก็ปกติก่อนไปทำงานก็เรียกตน แล้วก็ออกไปทำงาน ทราบข่าวจากภรรยาของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน โทรมาบอกว่าสามีเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ถ้ามีผู้ใจดีพอจะมีงานให้ทำในจังหวัดภูเก็ตเพื่อเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนหลังสามีจากไปแล้วตนก็ยินดี
