อึ้ง! ชื่อ "ป๋ากบ" วิคตอเรีย โผล่เข้าทะเบียนบ้านคนอื่นนับ 10 ปี แถม สำนักงานเขตไม่ยอมให้คัดออก (คลิป)

17 ม.ค. 61
จากกรณีเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สนธิกำลังฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบสถานบริการ "วิคตอเรียซีเคร็ท" พร้อมจับกุม นายบุญทรัพย์ อมรรัตนสิริ หรือ "ป๋ากบ" อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก ในฐานความผิดข้อหาค้าประเวณี โดยพบหลักฐานบัญชีรายชื่อตำรวจเข้าใช้บริการ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินคดีว่า อยู่ระหว่างขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 8 คน โดยหนึ่งในนั้น คือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ ถูกตั้งข้อหารวมทั้งสิ้นกว่า 10 ข้อหา ทั้งข้อหาความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง, ค้าประเวณี, และสถานบริการ
น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหา
นอกจากนี้จากการตรวจสอบ พบว่า น.ส.ศศิธร มีการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ กว่า 10 บริษัทในย่านอินทามระ และดินแดง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบ เก็บรวบรวมพยานหลักฐานใช้ประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังยืนยันว่า นายตำรวจ และเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ ที่มีรายชื่ออยู่ในโพยมีเพียงตำแหน่ง ไม่มีชื่อตามที่กล่าวถึง ยากต่อการออกหมายจับและดำเนินคดี ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านแห่งหนึ่งในซอยนวลจิต เขตวัฒนา ซึ่งถูกระบุว่า เป็นที่อยู่ของ "ป๋ากบ" พบ น.ส.ปาริชาติ รอดวิเศษ เจ้าของบ้าน ให้การปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น หรือรู้จักกับ ป๋ากบ มาก่อน แต่ยอมรับว่ามีชื่อ ป๋ากบ อยู่ในทะเบียนบ้าน โดยในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.61) น.ส.ปาริชาติ บอกว่าจะเดินทางไปคัดชื่อ ป๋ากบ ออกจากทะเบียนบ้านที่สำนักงานเขตวัฒนาอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แม่ของตนในฐานะเจ้าบ้านได้นำทะเบียนบ้านไปติดต่อเขต แล้วเจ้าหน้าที่ทำสมุดเล่มใหม่ให้ 2 เล่ม โดยเล่มแรกเป็นรายชื่อคนในครอบครัวทั้งหมด 13 คน แต่เล่ม 2 เป็นชื่อ ป๋ากบ เพียงคนเดียว ซึ่งแม่ของตนก็งงว่าชื่อดังกล่าวเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านได้อย่างไร เพราะไม่ได้เซ็นต์รับรองเข้ามา จึงพยายามติดต่อขอคัดชื่อออกไป แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่สามารถคัดออกแบบลอยๆ ได้ จากนั้น ทางบ้านได้พยายามติดต่อขอคัดชื่อออกอีกหลายครั้ง กระทั่งมาทราบข่าวว่า ชื่อดังกล่าวคือผู้ต้องหาค้ามนุษย์ รู้สึกเป็นกังวลถึงขั้นถกเถียงทะเลาะกันในครอบครัวว่า ใครเป็นคนนำชื่อบุคคลนี้เข้ามา กระทั่งทราบว่า พี่สาวเคยทำงานเป็นแคชเชียร์กลางคืน เคยได้ยินชื่อป๋ากบในวงการ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
ดีเอสไอ สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตรวจสอบ "วิคตอเรียซีเคร็ท"
วันนี้ (16 ม.ค.61)  “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น.ได้เชิญ นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผอ.ฝ่ายสืบสวน องค์การต่อต้านการค้ามนุษย์// นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฎิรูปตำรวจ //  ร.ต.อ.จอมเดช  ตรีเมฆ สาขาวิชาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุตธรรม วิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต มาพูดคุยถึงกรณีดังกล่าว นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผอ.ฝ่ายสืบสวน องค์การต่อต้านการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ประเด็นเกิดจากมีเด็ก 12 ปี มาขายบริการในสถานบริการแห่งนี้ ซึ่งทางดีเอสไอสืบทราบมาว่า ป๋ากบ เป็นคนเชียร์แขก ก่อนเข้าจับกุม เบื้องต้น เด็กยอมรับว่าเต็มใจ ถูกเปิดบริสุทธิ์ที่นี่แล้วส่งต่อไปยังมาเลเซีย รู้สึกทนไม่ไหวจึงร้องมายังมูลนิธิฯ โดยสถานประกอบการมีส่วนรู้เห็น นำเด็กต่ำกว่า 18 ปี เข้ามา มีการตั้งกติกาให้เด็กรับแขกวันละ 3 คน มีการเก็บค่าเปิดบริสุทธิ์ครั้งแรก อย่างกรณี อาบอบนวดนาตาลี เก็บค่าเปิดบริสุทธิ์ครั้งแรก 1 แสนบาท ครั้งที่สอง 7-8 หมื่นบาท
เอกสารใบบันทึกรายรับ-รายจ่าย ของสถานประกอบการ
สำหรับ เอกสารต่างๆ ใบบันทึกรายรับ-รายจ่าย ของทางวิคตอเรียซีเคร็ทนั้น ยังต้องมีการขยายผลนำไปสู่การจับกุม รวมถึงโพยรายชื่อตำรวจที่พบ ทำให้เชื่อว่ามีการเข้าใช้บริการจริงตามวันเวลาที่ระบุ จึงอยากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทำการปราบปราม อย่าให้เรื่องเงียบกลายเป็นปัญหาสังคม อย่าให้เป็นเช่นเดียวกับ คดีนาตาลี หลังออกหมายจับไปนาน 2 ปี ถึงขณะนี้ยังสาวไม่ถึงตัวการ ด้าน นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฎิรูปตำรวจ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าตำรวจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเกรงว่าพยานหลักฐานจะถูกทำลายโดยผู้มีอิทธิพล ทางออกที่ดีคือ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลต้องจริงจังจริงใจในการแก้ปัญหา ถ้ากล้าเปิดสถานประกอบการแบบนี้แปลว่า ต้องมีการจ่ายเงิน การใช้คำสั่งเด้งจึงไม่ได้ผล ขณะที่ ร.ต.อ.จอมเดช  ตรีเมฆ สาขาวิชาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม วิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต กล่าวว่า ได้แฝงตัวเข้าไปสืบข้อมูลตามสถานประกอบการต่างๆ เคยคุยกับเด็กชาวจีน มาจาก 12 ปันนา บอกว่า ไม่ทราบมาก่อน คิดว่าประเทศไทยให้บริการแบบถูกกฎหมาย เพราะเห็นมีทั้ง ตำรวจ ทหาร ในเครื่องแบบมาใช้บริการ ทั้งนี้จากงานวิจัยทราบว่า มีการเก็บค่าเปิดซิงจริง และมีการจ่ายส่วยให้กับหน่วยงานต่างๆ ยิ่งมีคำสั่ง คสช.ออกมายิ่งต้องจ่ายส่วยหนักขึ้นหลายเท่า โดย อาบอบนวด ก็เหมือนขบวนการยาเสพติด ถ้ารู้เส้นทางก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ อยากให้มีบรรทัดฐานในการจัดการสังคม
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ
ล่าสุด พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ทางอธิบดีดีเอสไอได้อนุมัติรับคดีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับพนักงานของรัฐ ตามกฎหมายค้ามนุษย์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อทราบเรื่อง ก็ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานทำตามกฎหมาย รวมถึงออกคำสั่งโยกย้าย ตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ