พ่อเครียดลูกจ่อขึ้นศาลคดีฆ่าแม่ เผยพิรุธ ตร.ไม่ตรวจจิต หวั่นโดนโทษหนักถึงประหาร (คลิป)

5 ส.ค. 63

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 ส.ค.63 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสายัณห์ ศรีพรม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 6 ต.ท่าดินดำ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือลูกชายที่ก่อเหตุแทงแม่ตัวเองเสียชีวิต โดยเชื่อว่าเกิดจากอาการทางประสาทที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีธัญญา หลังเกิดเหตุตำรวจควบคุมตัวส่งฟ้องศาล โดยในสำนวนไม่มีการบ่งบอกว่าลูกชายมีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ หรือเป็นบ้า

619128

นายสายัณห์ พ่อผู้สูญเสียภรรยาและลูกต้องมาติดคุก เล่าว่า ตนมีบ้าน 3 หลัง ตนอยู่ 1 หลัง ภรรยา 1 หลัง ลูกชายอีก 1 หลัง ปลูกอยู่ใกล้กัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค.63 เวลา 19.00 น. โดยลูกชายคือนายก้องหล้า ศรีพรม อายุ 31 ปี ได้เดินทางไปบ้านนางรัชนีกร ขุนพิทักษ์ อายุ 58 ปี ภรรยาที่เลิกรากันไป 2 ปี และเป็นมารดาของนายก้องหล้า โดยไปขอนอนค้างที่บ้านอ้างกับแม่ว่าตนจะทำร้าย

467732634171

กระทั่งเวลาผ่านไปไม่นาน ตนได้ยินเสียงร้องของอดีตภรรยาด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากบ้านห่างกันเพียง 50 เมตร จึงรับวิ่งออกไปดูพบภรรยายืนพิงเสาหน้าบ้าน เอามือกุมหน้าอกขวา ตนรีบเข้าไปประคองร่างก่อนร้องให้คนช่วย และนำส่ง รพ.ชัยบาดาล แต่อดีตภรรยาสิ้นใจก่อนถึงมือหมอ ขณะที่ลูกชายเองหลังก่อเหตุเดินแก้ผ้าโทง ๆ ออกไปหน้าหมู่บ้าน และถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยพบอาวุธมีดที่ใช่ก่อเหตุถูกทิ้งไว้ข้างบ้านผู้ตาย

cg_10

ทั้งนี้ตนได้ถามลูกชายว่า ทำไมต้องฆ่าแม่ ลูกชายบอกว่า "แม่ขู่ผม ผมเลยต้องฆ่า" อดีตที่ผ่านมาระหว่างรักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา ลูกชายมักพูดจาเพ้อต่าง ๆ นานา บอกร่างฤๅษีตาไฟมาเข้าร่างตัวเอง บางครั้งก็ไปทำลายศาลพระภูมิ บางทีก็ไปหักเศียรพระมาเล่น คืนเกิดเหตุ โดยสภาพตอนนั้นตนรู้เลยว่าลูกชายมีอาการทางประสาทกำเริบ ต้องรักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญามาตั้งแต่ปี 58 และต้องพบแพทย์รับยาตามนัดตลอดเวลา ลูกชายเมื่อดื่มเหล้าอาการทางประสาทจะกำเริบ จนตนไม่ให้เงินติดตัวและบอกร้านขายเหล้าไม่ขายให้ลูกชาย ก่อนเกิดเหตุร้ายต้องพาไปพบแพทย์ตามนัดในวันที่ 7 เม.ย.63 แต่ทางโรงพยาบาลชัยบาดาลไม่ยอมส่งตัวไปรักษาที่ศรีธัญญา อ้างว่าเดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้เพราะช่วงโควิด-19 รพ.ชัยบาดาลฝากเพียงแค่ยามาให้บรรเทาอาการเท่านั้น

339131

"หากลูกผมได้รับการส่งตัวไปรักษาอาการ คงไม่กำเริบไปก่อเหตุฆ่าบุพการีตัวเองหรอก ทุกครั้งที่มีอาการ เขาจะระแวงว่ามีคนมาทำร้าย และมักคิดว่าตัวเองมีร่างปู่ฤๅษีตาไฟ เที่ยวพูดจาเพ้อเจ้อทั้งวันจนชาวบ้านรู้กันดี" ตนเคยให้การกับตำรวจไปแล้วว่าลูกชายมีอาการทางจิต แต่ทางตำรวจกับไม่แนบสำนวนคำให้การหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงว่าลูกชายมีอาการทางประสาทไปให้อัยการและศาล จึงอยากมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม เพื่อให้ลูกชายได้รับการบรรเทาโทษ เนื่องจากศาลได้นัดสืบพยานในวันที่ 17 ก.ย.63 ที่จะถึงนี้

480191

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจมาก เพราะเป็นเหตุที่ลูกแทงแม่ตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นองค์ฤๅษีตาไฟ หลังจากแทงแม่เสร็จก็เดินแก้ผ้า คดีนี้คงสอบเพิ่มไม่ได้ เพราะขึ้นศาลไปแล้ว ฝากตำรวจถ้าญาติบอกว่าบ้า ช่วยสอบด้วย ส่วนด้านคดีฆ่าบุพการีมีโทษประหารชีวิตสถานเดียว ถ้าพิสูจน์ได้ว่าขณะกระทำความผิด สติไม่สมประกอบ ไม่มีสติอยู่กับตัว และมีแพทย์ยืนยันในด้านกฎหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ถ้าได้รับโทษจะได้รับน้อยกว่าคนปกติ แล้วแต่ดุลพินิจของศาล

289831

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 4 บ้านวังตะเคียน ต.ท่าดินดำ อ.ชัยบาดาล จากการสอบถาม นางสมพิตร พงอิน หรือ เอี้ยง น้าสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันที่ 7 พ.ค.63 เวลา 3.00 น. นายก้องไปหาญาติ ที่อยู่บ้านใกล้ ๆ กัน บอกว่า พ่อจะฆ่า แต่ญาติไม่เปิดประตูเพราะทุกคนรู้สึกกลัว

250404

จากนั้นวันที่ 9 พ.ค.63 วันที่เกิดเหตุ นายก้องมีอาการหลอน ตาลอยทั้งวัน และนั่งเอามือกุมหัว แต่ตนก็ยังได้ คุยกันเรื่อยเปื่อย นอกจากนี้นายก้องยังมาบ่นเครียดเรื่องเงิน เพราะนายก้องจะขอเงินไปบวช แต่แม่ไม่ยอมให้ กระทั่ง 18.00 น. นายก้องกลับมาที่บ้าน และมาก่อเหตุดังกล่าว

146960

ทั้งนี้ ช่วงเดือนมี.ค.63 ที่ผ่านมา นายก้องได้ติดคุกเรื่องเสพยาบ้า และเพิ่งจะออกมา โดยก่อนเกิดเหตุ นายก้อง ยังมีอาการขาดยา และช่วงนั้นมักจะดื่มเหล้า ทำให้กินยาไปก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้นายก้องมักจะชอบพูดเพ้อเจ้อ ทำนองว่า ตัวเองมีองค์ฤๅษีตาไฟ และเคยถ่ายรูปองค์ฤๅษีตาไฟลงเฟซบุ๊ก และชอบพูดทำนองว่า ฤๅษีตาไฟจะให้โชคลาภ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจ และอยากจะขอความเป็นธรรม เพราะตนไม่ได้รู้กฎหมาย และเท่าที่ตนทราบ นายก้องจะถูกตัดสินโทษประหาร ทั้งที่มีอาการทางจิตดังกล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส