เหยื่อแฉ ผู้หวังดีคนดัง แหกตาเป็นนายหน้าขายแมนชั่นฟาดเงิน 1.3 ล้าน - ษิทราชี้ติดคุกหัวโต (คลิป)

16 ม.ค. 61
จากกรณีที่ทางอมรินทร์ทีวี ได้เคยมีการนำเสนอเรื่องราวของผู้ร้องทุกข์ ที่ถูกผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลอาสา หลอกโกงเงินไปหลายราย และยังมีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จากพฤติกรรมการหลอกลวงได้เข้าร้องเรียนกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และอมรินทร์ทีวี ว่าเธอเองถูกหลอกให้โอนเงินจำนวนรวมกว่าหนึ่งล้านบาท อ้างนำไปทำแผนโปรโมทการขายแมนชั่นของเธอให้ชาวต่างชาติ
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับ คุณเอ (นามสมมติ)
วันนี้ (15 ม.ค.) คุณเอ (นามสมมติ)​ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อปี 2557 เธอประกาศขายแมนชั่นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 58 ล้านบาท เนื่องจากตัวเธอเองพักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพเป็นหลัก ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางไปดูแลแมนชั่น หลังจากนั้น ได้รู้จักกับบุคคลอาสา ผ่านทางนายหน้าที่ตนเคยรู้จัก บุคคลอาสาคนดังกล่าวบอกกับเธอว่า จะขอเข้ามาเป็นนายหน้าในการขายแมนชั่นให้ ตนเองก็ไว้ใจ เพราะบุคคลอาสาพูดจาหว่านล้อมดีมาก จึงตัดสินใจมอบหมายให้บุคคลอาสาเป็นนายหน้าขายแมนชั่นให้
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พูดคุยกับ คุณเอ (นามสมมติ)
ต่อมา ได้มีการนัดพบเพื่อพูดคุยเรื่องรายละเอียดกัน บุคคลอาสาได้นัดให้ตนไปพบที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านมหาชัย เมื่อมาถึงจุดนัดพบบุคคลอาสา ได้ยื่นใบสัญญามาให้เซ็น เพื่อมอบอำนาจแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ขายแมนชั่น แต่ไม่มีเอกสารที่คัดลอกไว้คืนกลับมาให้ตน ตนจึงทำได้เพียงถ่ายรูปเก็บเอาไว้ แล้วนำไปปริ้นซ์ด้วยตัวเอง หลังจากนั้น ไม่นานบุคคลอาสาได้ติดต่อกลับมาหาตนอีกครั้ง โดยบอกว่า ทางทีมงานของเขา ได้รับการติดต่อจากชาวต่างชาติ ว่าต้องการจะซื้อแมนชั่นของเธอในราคา 150 ล้านบาท แต่เธอต้องยอมจ่ายเงิน ค่าทำแผนโปรโมทแมนชั่น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แมนชั่น ขณะเดียวกันยอมรับว่า สงสัย และสอบถามบุคคลอาสาไปว่า แมนชั่นของเธอราคาไม่น่าจะถึง 150 ล้านบาท หากซื้อขายกัน จะมีปัญหาภายหน้าหรือไม่ ซึ่งบุคคลอาสายืนยันว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน และหากมีปัญหาเขาก็มีทีมทนายความ พร้อมเข้าช่วยเหลือเธอ เธอจึงตัดสินใจโอนเงินเข้าบัญชีให้บุคคลอาสา จำนวน 5 แสนบาท
คุณเอ ผู้เสียหาย
หลังจากนั้น ได้มีการโทรศัพท์เข้ามา เพื่อพูดจาโน้มน้าวให้เธอโอนเงินไปให้อยู่หลายครั้ง โดยอ้างว่าต้องนำไปใช้โปรโมทแผนการขายแมนชั่น กระทั่งครั้งสุดท้าย บุคคลอาสาได้โทรศัพท์มาขอให้เธอโอนเงินให้จำนวน 3 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าเดินทางของ บุคคลอาสาในการดำเนินเรื่องกับสำนักงานที่ดิน แต่เธอก็ได้ตอบปฏิเสธไป เนื่องจาก ที่ตัวเธอเองนั้นมีเงินเหลืออยู่เพียงแค่ 2 หมื่นบาทเท่านั้น และมองว่าเคยโอนเงินไปให้เป็นจำนวนกว่า 1,380,000 บาท ทำให้เธอเริ่มสงสัยว่า เธอเองกำลังโดนหลอก จากนั้นบุคคลอาสาจึงบอกกับเธอว่า จะไม่ดำเนินการเรื่องขายแมนชั่นให้อีกแล้ว อ้างว่าเธอไม่สนับสนุนเรื่องเงินอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อบุคคลอาสาได้อีกเลย เบื้องต้น คุณเอ ได้เข้าแจ้งความไว้ สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลอาสาคนดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมแนะนำให้เธอจ้างทนายความ เพื่อฟ้องร้องด้านคดีความต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ