"ชูวิทย์" แฉเหตุยิงกันตาย 4 ศพในบ่อนเฮียตี้ เพราะขัดแย้งเรื่องทวงหนี้

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งโต๊ะแฉเหตุยิงกันตาย 4 ศพในบ่อน เพราะขัดแย้งเรื่องทวงหนี้ เผยมีนายตำรวจใหญ่กำลังเป็นดาวรุ่งบ่อนออนไลน์

จากกรณี เมื่อเวลา 4 ทุ่มของวันที่ 3 ส.ค.63 ที่ผ่านมา มีเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ถ.พระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน เป็นหญิง 2 คน และ ชาย 2 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นตำรวจระดับสารวัตร นั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ยิงสนั่นคาบ่อนย่านพระราม 3 ดับ 4-6 ศพ เป็นตร. นักพนัน 2
- 'บิ๊กตู่' ฮึ่มยิงกันในบ่อนพระราม 3 ขู่โยก ตร.ท้องที่ละเลยปฏิบัติงาน
- ทบ.ยัน ไม่มีทหารเกี่ยวข้อง-เสียชีวิต เหตุยิงกันในบ่อนพระราม 3
- "บิ๊กป้อม" เผย ยังไม่ได้รับรายงานปมยิงกันในบ่อนพระราม 3 รอสอบสวน
- ผบช.น.เผยที่เกิดเหตุยิงกันในบ่อนพระราม 3 เจอโต๊ะพนันตัวเดียว ไม่ฟันธงเป็นบ่อน

ล่าสุด ที่โรงแรมเดวิส สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ตั้งโต๊ะแฉเรื่องบ่อน เผยบ่อนดังกล่าวเป็นบ่อนของ "เฮียตี้" เป็นผู้กว้างขวางในวงการ บ่อนนี้แบ่งออกเป็น 3 โซน ซึ่งโซนที่เกิดเหตุเป็นโซนวีไอพี โดยตำรวจที่เสียชีวิตนั้น วันเกิดเหตุได้มาที่บ่อนแล้วเจอกับเจ้าหนี้จนเกิดการทวงเงินกันขึ้น ก่อนจะมีปากเสียงและทะเลาะวิวาทชักปืนยิงต่อสู้กันจนมีผู้เสียชีวิต 4 รายดังกล่าว สาเหตุมีเพียงแค่นี้ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่หลังเกิดเหตุศพยังอยู่ แต่โต๊ะเหลือตัวเดียว ซึ่งทุกคนก็เข้าใจกันดีว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร

นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า บ่อนใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ไม่เคยย้ายที่ แม้จะถูกจับกุม ไม่เหมือนบ่อนในต่างจังหวัดที่อาจจะย้ายที่เล่นไปเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่า "บ่อนวิ่ง" โดยบ่อนใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ นั้น อยู่ในย่านบางกะปิ พญาไท ปิ่นเกล้า คลองตัน ซึ่งแต่ละที่จะไม่มีการข้ามถิ่นมาหากิน จากข้อมูลของตน บ่อนดาวรุ่งตอนนี้เป็นบ่อนออนไลน์ โดยมีเจ้าของคือตำรวจชื่อ ซ. เป็นเครือข่ายใหญ่ อำนาจสูง ซึ่งมีธุรกิจสีเทามากมาย เช่น อาบอบนวด บ่อน ฯลฯ มีการตั้งเซิฟเวอร์ที่ต่างประเทศ

นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขอแนะนำให้ตำรวจยอมรับว่าสถานที่แห่งนี้คือบ่อน เรื่องนี้ขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้แสดงฝีมือในการกวาดล้างจับกุมก่อนจะเกษียณ ส่วนคำถามที่ว่าหลังจากนี้จะมีการจับกุม "เฮียตี้" ได้หรือไม่นั้น นายชูวิทย์เผยว่า ชื่อตึก และอื่นๆ นั้นใช้ชื่อคนอื่นสวมแทน ทำให้อาจจะเอาผิดยาก