จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเสียงและรูปภาพสลิปเงินที่โอนผ่านแอปพลิเคชัน และระบุข้อความว่า “ผมไม่แน่ใจว่าจะบอกว่าโดนตำรวจจับ หรือโดนกรรโชกทรัพย์ดี” พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์มาจากย่านพัฒนาการ และลัดเข้าซอยรามคำแหง 24 กรุงเทพฯ เพื่อที่จะกลับบ้าน ระหว่างทางเจอด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถูกวัดระดับแอลกอฮอล์ได้ 31 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จากนั้น ตำรวจได้ยึดกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับกล่าวอ้างว่าต้องถูกกักตัว 48 ชั่วโมง และปรับ 20,000 บาท ก่อนจะทำทีกล่าวให้จ่ายเงิน 3,000 บาท เพื่อที่จะได้ปล่อยตัวไป
วันที่ 3 ส.ค. 63 นายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 34 ปี เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. เวลา 01.00 น. ตนกลับมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ และกำลังจะเดินทางกลับบ้านผ่านซอยรามคำแหง 24 พบด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตำรวจสอบถามว่าดื่มมาไหม ตนจึงยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 แก้ว ก่อนวัดระดับแอลกอฮอล์ วัดได้ 31 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ซึ่งตนเห็นว่ามีตัวเลขขึ้นก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยถูกวัดมาก่อน จึงสอบถามว่า "มีความผิดไหม โดนโทษอะไรบ้าง" ตำรวจบอกให้ตนไปคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคนที่ยืนมองตนอยู่ในมุมมืด แต่งกายชุดตำรวจ และใส่เสื้อกั๊กของตำรวจ
จากนั้น ตำรวจคนดังกล่าวได้พาตนไปคุยในพุ่มไม้ บอกว่า "ใจเย็นพี่ ไม่มีอะไร" ก่อนจะชวนให้ตนสูบบุหรี่ พร้อมกับขอค้นตัว ซึ่งตนยินยอมให้ค้น ส่วนโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าเงิน ตำรวจได้นำไปถือในลักษณะยืนไขว้หลัง ตนได้ถามย้ำอีกครั้งว่า ตนมีความผิดอะไรไหม เพราะว่าตนไม่เคยโดนเรียกตรวจมาก่อน เจ้าหน้าที่ตอบว่า "มี ต้องไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ เสียค่าปรับ 5,000-20,000 บาท และถูกกักตัว 48 ชั่วโมง" ตนจึงถามว่าหมายถึงติดคุก 2 วันใช่ไหม เพราะพรุ่งนี้ตนต้องทำงาน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ยื่นข้อเสนอทำนองว่า "มีอะไรให้ช่วยไหม" ตนจึงถามกลับว่าช่วยอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่า "ขอ 3,000 บาท แล้วเรื่องจบตรงนี้"
ขณะนั้นตนไม่มีเงิน และในกระเป๋ามีเงินเพียง 400 บาท จึงขอให้เจ้าหน้าที่รับเงินส่วนนี้ไปและตนขอให้เพื่อนโอนเงินมาให้ก่อน จากนั้น เวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เรียกเจ้าหน้าที่อีกคนให้พาตนไปกดเงิน พามากดเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ซอยรามคำแหง 22 และจอดรถห่างจากจุดที่กดเงินประมาณ 100 เมตร ตนได้ขอโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ต้องใช้แอปพลิเคชันในการถอนเงิน เพื่อนำโทรศัพท์ไปแอบถ่ายรูปเงินที่กดออกมา
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่บอกให้ตนม้วนเงินใส่กำมือ และโอบเอวของเจ้าหน้าที่ไว้ ก่อนจะรับเงินจากมือของตน แล้วนำเงินไปใส่ไว้ในช่องหน้ารถจักรยานยนต์ กระทั่งกลับมาถึงด่านตรวจ ก็ปล่อยตัวตนกลับมาโดยที่ไม่ได้เขียนใบสั่ง และสาเหตุที่ตนยินยอมจ่ายเงิน เนื่องจากตนกลัวว่าถ้าไม่ยอม อาจจะถูกยัดเยียดสิ่งที่ไม่ดี และถูกยัดข้อหา ตอนนี้ก็กลัวว่าจะถูกตั้งข้อหาติดสินบทเจ้าพนักงาน
ตนมองว่ากฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ตนไม่ละอายที่กระทำผิด แต่รู้สึกละอายที่นำกฏหมายไปวางไว้ในมือของคนผิด สุดท้ายตนไม่ได้หวังให้ตำรวจมารับผิดชอบหรือคืนเงิน แต่ตนอยากจะให้รับผิดชอบต่อสังคม
ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.หัวหมาก ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และต้องทำการตรวจสอบบุคคลที่โพสต์เรื่องราว รวมถึงการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ก่อน หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะต้องเรียกมาสอบสวนทั้งสองฝ่าย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น หากเรื่องราวเกิดขึ้นจริง ถือว่ามีความผิดทั้งสองฝ่าย เพราะหากเจ้าของโพสต์จ่ายเงิน ถือว่ามีความผิดในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน
