"แคทรียา อิงลิช" เปิดใจครั้งแรกเรื่องรัก ทุกครั้งที่มีต้องใช้คำว่า “อดทน”  

เป็นรายการแรก และรายการเดียว ที่สาวสุดฮอตที่ยังโสด แคท แคทรียา อิงลิช ยอมที่จะมาเปิดใจนั่งเล่าเรื่องราวทุกความรักที่ผ่านมาของชีวิตเป็นครั้งแรกใน Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 แบบหมดเปลือก ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าทุกความรักที่ผ่านมาของตัวเองนั้นต้องใช้คำว่า “อดทน” มาตลอด

 
ถาม เห็นบอกว่าจนทุกวันนี้ก็ยังคงรู้สึกผิดกับความรักครั้งนี้
แคทรียา อิงลิช :  ใช่เพราะว่า เป็นคนที่คบแล้วจะเรียกว่าดีที่สุด จนถึงทุกวันนี้คือเขาเป็นคนที่ดีที่สุด คบนานมาก 15 ปีค่ะ ที่คบกัน เป็นครั้งแรกที่บอกในรายการนี้เลยนะคะ เขาเหมือนยอมทิ้งชีวิตเพื่อมาดูแลเราเลย
 
ถาม เจอกันได้ยังไงกับคนนี้
แคทรียา อิงลิช :  เรียนด้วยกันค่ะ เขทย้ายมาอยู่ที่นี่ เพราะเขาเป็นคนต่างชาติเขาย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะแฟน แต่ปรากฏว่าพอย้ายมาอยู่แฟนนอกใจ เขาเลยไหนๆก็มาแล้วก็เลยเรียนต่อไป แล้วก็ทำให้เราได้มาเจอกัน แต่ตอนนั้นไม่เคยจีบกัน เขาเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย แล้วแคทเป็นคนแบบชอบนั่งหน้าห้องจดโน๊ตละเอียดมาก พอหลังเลิกเรียนเขาก็จะมาขอโน๊ตที่เราจด แล้วเป็นอย่างนั้นตลอด 5 ปีจนเรียนจบ ไม่รู้ว่าแบบไหนก็ไม่รู้อยู่ดีๆก็มาคลิกกันคบกันจนเพื่อนๆ ที่อยู่มหาวิทยาลัยด้วยกันงงว่าเธอมาเป็นแฟนกันได้ยังไง เพราะเป็นเพื่อนกันมาตลอดไม่มีแววจะมาเป็นเพื่อนกันเลย เหมือนว่าหลังจากเรียนจบเราได้มาปาร์ตี้ด้วยกัน เราได้เห็นอีกหลายๆมุมของเขา คือ เป็นพ่อบ้านมากเลย เขาดูแลแคทดีมาก คือ ใส่ใจมากทำอาหารให้ทาน ป่วยพาไปโรงพยาบาล
 
ถาม ที่บอกว่าเขาทิ้งชีวิตเพื่อเรา เขาทิ้งชีวิตยังไงเอ่ย ??
แคทรียา อิงลิช : คือ เขามีงานที่จะไปทำได้ แต่เขาไม่ไปเพราะไม่งั้นเขาก็ต้องย้ายกลับไปประเทศของเขา เขาเลยไม่ไป ทิ้งทุกอย่างเพื่อมาดูแลแคท แล้วแคทก็ให้เขาเป็นผู้จัดการไปพักหนึ่งด้วย อย่างตอนที่แคทต้องลดน้ำหนัก เขาก็จัดปิ่นโตให้เราเลยทุกวัน เขาก็จะถาม เป็นยังไงบ้างวันนี้เหนื่อยไหม ใส่ใจมาก
 
ถาม ทุกอย่างก็ดูดีนะ เหมือนเป็นผู้ชายที่เราก็อยากได้ เพราะเขาก็ดูแลเอาใจใส่เราดี แล้วเกิดอะไรขึ้นกับความรักครั้งนี้
แคทรียา อิงลิช : พอนานๆเข้ากลายเป็นว่าความเป็นแฟนเริ่มไม่ค่อยมี มันเหมือนแบบฉันเป็น ผู้จัดการเธอบงการชีวิตของเราทุกอย่าง เริ่มสอนการแสดง เราก็แบบเธอสอนในสิ่งที่ฉันรู้อยู่แล้ว เธอไม่ได้เป็นนักแสดงเธอมาสอนฉันได้ยังไง เริ่มแล้วเขาไม่ฟังด้วย ฉันรู้ว่าฉันรู้จริงๆเรื่องแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ฟังคือยังไง คำพูดของเขาคือ ต้องเป็นพูดนำแล้วเราคือ ต้องทำตามเขาทุกอย่าง เราพยายามคุยกับเขาแล้ว แต่ก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดีเขาก็ยังยืนยันในสิ่งที่เขามั่นใจ เลยทำให้เกิดความรู้สึกว่ามันเริ่ม มีรอยร้าวในความสัมพันธ์นั้น เริ่มทะเลาะกันบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องแยกทางกัน
 
ถาม ตอนนั้นมีเปิดใจคุยกันกับคนอื่นไหม ??
แคทรียา อิงลิช : มี จังหวะนั้นเราก็ยังไม่ได้เลิกกับเขาด้วย ซึ่งเราผิดเองด้วยเขาเสียใจมาก
 
ถาม แล้วเอาจริงๆคือ ทุกอย่างที่จบลงกับคนนี้ที่คบกันมา 15 ปี เพราะเรามีใจให้กับคนอื่นด้วยไหม ??
แคทรียา อิงลิช : ด้วยค่ะ แต่เราก็ไม่ได้บอกเขานะคะ แต่เพราะเราจูนกันไม่ได้แล้ว ชีวิตของเขาตอนนั้นคือ พังเลยค่ะ เขาสติแตกเลย ไปอยู่ต่างประเทศแล้วเขาก็บอกเราว่า เธอรู้ไหมว่าฉันพังขนาดไหน แล้วเขาก็เล่าให้เราฟังนะคะว่าเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ต้องอดทนกับอะไรบ้าง ทำให้เรารู้สึกผิดมากๆกับความรักในครั้งนั้นที่เราได้ทำลงไป แต่จนถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังเป็นห่วงแคทเหมือนเดิมเขาก็ยังติดต่อแคท แต่ในสถานะเพื่อน คือ พูดได้เลยว่าคนคนนี้จะอยู่ในชีวิตแคทจนถึงในวันที่เราตายเลยค่ะ
 
 
 
ถาม ส่วนความรักที่คนอื่นก็รู้
แคทรียา อิงลิช : ใช่ค่ะ 5 ปีที่คบกัน
 
ถาม ตอนนั้นคือยุคที่เราบอกว่าไม่กล้าเปิด แต่ทุกคนก็รู้
แคทรียา อิงลิช : คนก็รู้แล้วคือ การรับรู้ของทุกคนก็เป็นไปในทางที่บวกด้วยนะ คนเชียร์ด้วยค่ะ
 
ถาม แล้วทำไมถึงต้องหยุดลง
แคทรียา อิงลิช : แคทค่อนข้างที่จะถือเรื่อง ความเจ้าชู้ แล้วกลายเป็นว่าเราจับได้หลายครั้ง คือ เป็นคนที่อดทนมาก ในทุกๆความสัมพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นคือ แคทจะแบบไม่เป็นไร ไม่แน่ใจ ใช่หรือไม่ใช่ เรายังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอที่จะเลิกกับเธอ แต่คือมีรายชื่อผู้หญิงยาวมาก หลักฐานมีด้วยรูปก็มีเราก็อยู่ในความอดทนจนถึงที่สุด ตอนนั้นคือ อกหักเลยค่ะ ร้องไห้ หนักมากเพราะครอบครัวเราทั้งคู่คือ สนิทกันมากและก็เสียใจกันทั้งสองครอบครัวเลย
 
ถาม ตอนนั้นเราคิดว่าไปไกลจนถึงแต่งงานเลยไหม ??
แคทรียา อิงลิช : ใช่ค่ะ แต่ก็คือแบบพอเราโตขึ้นๆความคิดเริ่มไปคนละทางละ อาจจะด้วยตัวเราเองด้วยมีความคิดที่โตขึ้น มันไม่ใช่แค่ฉันรักเธอ เธอรักฉันจบ ความรักคือสีชมพูแล้ว มันเริ่มจะกลายเป็นความรักที่หม่นๆนิดๆ หลายๆอย่างที่ไม่ใช่ด้วย ตอนนั้นที่อกหักเราก็ร้องไห้อยู่ 2-3 วันจบ เพราะแคทเป็นคนที่ตัดแล้วตัดเลย
 
ถาม แต่ก่อนจะตัดคือเราต้องเห็นกับตาตัวเอง ??
แคทรียา อิงลิช : ต้องสุดๆเลย หลักฐานที่เรามีทุกอย่างมีครบหมดแต่ยังไม่ยอมรับความจริง เรายังมีความรู้สึกว่าไม่ .. เพราะเรารู้สึกว่า ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ คนนั้นต้องกลับมา เราก็อดทนๆๆๆ ด้วยความหวังและความรักที่เรามีให้เขา พอหลายๆปี ขึ้นมาเราก็รู้สึกสงสารตัวเอง เราร้องไห้ไว้เยอะมากแล้ว มันถึงเวลาที่เราจะต้องเอาชีวิตของเรากลับมาเป็นของเรา
 
ถาม แคทเหมือนเป็นตัวแทนของผู้หญิงหลายๆคนที่หวังว่าคนรักคนเดิมของเราจะกลับมา แล้วดันเป็นกับความรักทุกครั้งด้วย
แคทรียา อิงลิช : ใช่ค่ะ ทุกครั้งเลย คนที่คบกับเราใหม่ๆใส่ใจมาก ดูแลเทคแคร์ทุกอย่าง แบบรักเราเหลือเกิน จนเรารู้สึกว่าเราวิเศษมาก แต่พอนานๆเข้าสิ่งนั้นก็ค่อยๆลดน้อยลง เราก็เริ่มนอยด์ว่าเราไม่ดีพอ เธอถึงไม่ดีกับฉันเหมือนเมื่อก่อน ฉันไม่ดีตรงไหน เธอถึงต้องมีคนอื่น เธอถึงต้องสบายใจกับคนอื่น คำนี้เกิดประจำเลย แล้วเพราะความไม่เสมอต้นเสมอปลาย เริ่มไม่เหมือนเดิม อาจจะเป็นนิสัยเขาที่เป็นแบบนั้น แต่เราจะไม่ได้มองเจาที่เป็นแบบนั้นก่อนนะ แต่เราจะมองตัวของเราก่อน
 
ถาม ความรักครั้งแรกทำให้ไม่คุยกันเลยอีกเลย 15 ปี
แคทรียา อิงลิช : ไม่คุยเลย 15 ปี ตัดเลยค่ะ ไม่ได้โกรธแต่ไม่อยากคุย แล้วคือไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาก็พยายามที่จะติดต่อตลอดเลยโทรหาเพื่อนเราเพราะแคทเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เลยตอนนั้น
 

 
ถาม ในวังวนของชีวิตคนหนึ่งที่เจอแบบนี้ซ้ำซากๆมา 4-5 ปี อะไรก็ตามแต่ เราเคยตั้งสติแล้วมองไหมค่ะ ว่าเราจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งเราก็รู้สึกว่าอยากจะมีความสุขกับใครสักคนหนึ่ง เราเคยมองไหมว่าจะสิ้นสุดลงตรงไหน หรือ สิ่งที่เราอยากได้มันคืออะไร
แคทรียา อิงลิช : ตอนนี้ก็อยู่คนเดียว มีช่องว่างให้กับตัวเองให้คิดอะไรเยอะมาก
 
ถาม แล้วคิดได้ไหม
แคทรียา อิงลิช : พยายาม คือ มันเหมือนเวลาที่เรามีเวลาให้กับตัวเองมีความรู้สึกว่า ฉันก็อยู่ของฉันคนเดียวได้ ไปทำงานคนเดี่ยวได้ มีเพื่อน ก็มีความสุขในกองถ่าย แต่ก็แบบบางครั้งกลับมาคิดเหมือนกันว่า ใช่ ฉันคือ แคทรียา อิงลิช แล้วทำไมเราทำแบบนี้กับตัวเอง เธอมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้เยอะ ถ้ายังไม่เจอคนที่ใช่ ดีกับเรา ให้เกียรติเรา ก็อยู่คนเดียวดีกว่าไหม
 
ถาม เห็นบอกว่าพอมีปัญหาก็จะกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่
แคทรียา อิงลิช : ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่จะไปหาคุณพ่อมากกว่า คุณพ่อคุณแม่เขาจะปลอบคนละแบบกันค่ะ คุณพ่อเขาจะเข้าใจมากๆ คุณแม่จะมาแนวดุหน่อย
 

 
ถาม วันที่สูญเสียคุณพ่อ ??
แคทรียา อิงลิช : คุณแม่แคทจะพูดอยู่เสมอว่า หาคนเหมือนพ่อสมัยนี้ยาก (เริ่มเสียงสั่น) เวลามีปัญหาคนที่แคทวิ่งหาคนพ่อ (แคทร้องไห้)
 
ถาม ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ??
แคทรียา อิงลิช : คุณพ่อเป็นมะเร็งสมองแล้วคือ เร็วพอสมควร คุณหมอบอกว่า 6 เดือน ก่อนผ่าครั้งแรก คุณพ่อ อยู่ได้ 1 ปี เวลาผ่านไปเร็วมาก แล้ววันที่คุณพ่อเสียคือแบบแคท เปลี่ยนจากคนที่ร่าเริงมาก คือเรารู้เลยว่าเรานิ่งขึ้นเยอะมาก มีความรู้สึกว่า ชีวิตเราสั้น เหลือเกิน เราไม่รู้พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราจะเสียคนที่เรารักไป หรือเราจะไป หรือเปล่าไม่รู้มันเลย มันทำให้เรามีความรู้สึกว่าอาจจะตรงนี้ทำให้แคทยอมอดทน เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะได้ทำไหมกับทุกๆคน ไม่เป็นไรฉันยอม เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ฉันจะได้อยู่ต่อ หรือทำได้ต่อหรือเปล่า
 
ถาม แคทก็อยู่ดูแลพ่อเต็มที่ ?
แคทรียา อิงลิช : เต็มที่เลยค่ะ เป็นช่วงเวลาที่แคทไม่ได้ทำงานด้วย โชคดีมาก ตอนที่รู้ว่าป่วย คุณพ่อ เขาก็โอเค แล้วไงต่อ คือเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก พอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ คุณพ่อถามคุณหมอว่าตอนไปจะเจ็บไหม คุณหมอบอกว่าไม่ (ร้องไห้)
แคทรียา อิงลิช : คุณหมอบอกคุณพ่อว่าแค่หลับไปหลับไปไม่รู้กี่วัน แต่หลับไปแล้วยูก็จะไม่ตื่น ซึ่งมันก็เป็นจริงคุณหลับไป 10 วัน คุณพ่อไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะว่าคุณพ่อไม่เจ็บหลับสบายไม่ทรมานเลย โชคดีมากๆที่ทุกคนอยู่ได้ดูคุณพ่อ

 
ถาม เห็นบอกว่าจะพาคุณพ่อไปอังกฤษ ??
แคทรียา อิงลิช : ใช่ค่ะ แต่ไม่ได้ไปเพราะคุณหมอบอกว่าเดินทางไม่ได้ แคทเลยโทรไปบอกญาติที่โน้นบอกว่าแพลนที่จะเดินทางไปคือไปไม่ได้แล้ว ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาบินมา คุณพ่อไม่รู้ แล้วพอคุณพ่อได้เห็นเห็นญาติที่เขาบินมาหาจากอังกฤษ คือ เป็นอะไรที่สุดๆของคุณพ่อแล้ว เพราะเขาบินมาหาถึงที่เลย คุณพ่อแบบตกใจ ร้องไห้ด้วยความดีใจ ก็เลยขอคุณพ่อว่าขอพาไปเที่ยว พาไปพัทยา ได้ไปถ่ายรูปสามมิติ คุณพ่อร่าเริงมาก คุณพ่อขี้เล่นขนาดเขาป่วยแต่เขาก็ยังร่าเริง แคทรู้สึกเลยว่าเราได้สิ่งนั้นมาจากคุณพ่อเต็มๆ