ถือเป็นประเด็นที่สังคมออนไลน์จับตามอง หลังจาก นายพลาม พรจำปา นักวิ่งจากแม่สาย - เบตง เพื่อระดมทุนบริจาคช่วยทหารที่ประสบอุบัติเหตุในภาคใต้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเหน็บแนม "ตูน บอดี้สแลม" ว่าทำตัวเป็นพระเอกคนเดียว และไม่ใช่คนแรกที่วิ่งเบตง-แม่สาย
ด้านนายอิทธิพล สมุทรทอง ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมวิ่งของก้าวคนละก้าวที่วิ่งประกบ "ตูน บอดี้สแลม" ตลอด 2,215 กิโลเมตร เปิดเผยกับทีมข่าวผ่านวิดีโอคอลว่า ส่วนตัวอยากให้คนเข้าใจวัตถุประสงค์ของกิจกรรมที่ผ่านมาว่า การวิ่งก้าวคนละก้าว เป็นการวิ่งเพื่อระดมเงินบริจาคช่วย 11 โรงพยาบาล, ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์, ชวนคนมาร่วมกันทำโครงการนี้ด้วยกัน และเพื่อตัวของ "ตูน บอดี้สแลม" ที่จะได้วิ่งจากเบตง ถึง แม่สาย ใช้การวิ่งเป็นเครื่องมือให้บรรลุเป้าหมายนี้
ส่วนการที่ นายพลาม ออกมาพูดว่า เคยมีพิธีกรบนเวทีพูดว่า "ตูน บอดี้สแลม" คือคนแรกที่วิ่งลักษณะนี้ ส่วนตัวขอชี้แจงว่า การวิ่งของตูน เป็นการวิ่งที่มีการจดบีนทึกสถิติทุกขั้นตอนอย่างเป็นทางการ เป็นไปตามมาตรฐาน ที่มีการบันทึกไว้ ทาง "บันทึกไทย" มีเจ้าหน้าที่ควบคุมทุกขั้นตอน นั่นหมายความว่า เป็นการวิ่งที่มีการจดบันทึกเป็นคนแรกเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด
นายอิทธิพล บอกว่า ตนรู้จักกับ นายพลาม มา 3-4 ปี แล้ว ทีมงานทราบมาก่อนหน้านี้ว่า เคยมีคนวิ่งลักษณะนี้มาก่อน แต่อาจจะไม่ได้มีการจดบันทึกสถิติ โดยทาง "บันทึกไทย" เป็นผู้ระบุว่า การวิ่งที่มีการจดบันทึกลักษณะของวิ่งแบบ "ตูน บอดี้สแลม" นับว่าเป็นคนแรก "ตูน บอดี้สแลม" ยังถามตนด้วยซ้ำว่า มีคนเคยวิ่งลักษณะนี้มาก่อนด้วยใช่หรือไม่ ตนได้แต่บอกไปว่า "มี แต่ตามบันทึกไทยไม่มี ซึ่งไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญอะไร"
ส่วนกรณีที่ นายพลาม อ้างว่า มีการ์ด หรือทีมงานของ ก้าวคนละก้าว เข้าไปกันไม่ให้พบ "ตูน บอดี้สแลม" นายอิทธิพล ยืนยันว่า ไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงการวิ่งในเซทสุดท้าย ในช่วง 9 กิโลเมตร จะเป็นการวิ่งเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ ไม่มีการรับบริจาคเงินจากประชาชน 2 ข้างทาง ดังนั้นจะเป็นการวิ่งระยะยาว โดยไม่มีการหยุด
รวมถึงใน 1 กิโลเมตรสุดท้าย จะมีเพียงรั้วกั้น ให้เฉพาะทีมงานวิ่ง ก้าวคนละก้าว เท่านั้น ที่เข้ามาร่วมวิ่งได้ ซึ่งตนเป็นคนที่อยู่ใกล้ "ตูน บอดี้สแลม" มากที่สุด แต่ไม่พบมีการกีดกัน ไม่ให้คนเจอนักร้องชื่อดังแต่อย่างใด ที่สำคัญในฐานะที่รู้จักกับ นายพลาม ตนไม่เคยเห็น หรือพบ นายพลาม ในงานดังกล่าว
สุดท้ายเรื่องที่ นายพลาม จะมีการจัดวิ่งการกุศล ตนขอแสดงความยินดีด้วย พร้อมยังต้องขอบคุณ นายพลาม ที่ตั้งใจจะทำเรื่องยิ่งใหญ่เช่นนี้ และไม่ได้คิดว่า เป็นการแข่งกันอยู่แล้ว อะไรที่ดีก็พร้อมจะช่วย รวมถึงอยากบอกว่า อย่าลืมชวนตนมาวิ่งด้วย