จากกรณีที่ครูบอย อายุ 33 ปี ครูอัตราจ้าง สอนพละและสุขศึกษาในโรงเรียน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แชตหานักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 12 ปี ให้ไปส่งการบ้านภายในบ้านพักครูที่ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนและข่มขืน จนแม่ของเด็กหญิงแจ้งตำรวจแล้วนั้น เหตุเกิดวันที่ 24 มิ.ย. 63 และแม่รู้วันที่ 26 มิ.ย. 63 เนื่องจากลูกสาวปวดท้อง
โดยครูบอย ยอมรับสารภาพ และกราบขอโทษต่อสิ่งที่ทำ และได้รับการประกันตัวออกจากศาลจังหวัดนางรองไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2562 ครูบอยเคยลวนลามเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 มาก่อน ด้วยการฉุดไปหอมแก้ม
ทั้งนี้ ในแชตการสนทนาระหว่างครูบอย อายุ 33 ปี กับ เด็กหญิงชั้น ม.1 ปรากฎชื่อ "ครูแหม่ม" ว่าเห็นครูแหม่มเห็นพฤติกรรมของครูบอย แต่ครูแหม่มไม่บอกกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นเพียงการกล่าวอ้างนั้น
โดยไทม์ไลน์วันที่ 24 มิ.ย. 63 เด็กม.1 ถูกครูบอยชักชวนไปที่บ้านพักครู แล้วถูกกระทำอนาจาร ก่อนจะแชตข้อความคุยกันบอกให้เด็กกินยาคุมฉุกเฉิน พร้อมมีข้อความข่มขู่ จากนั้นวันที่ 25 มิ.ย. 63 แม่ของเด็กเห็นลูกมีอาการผิดปกติไป จนกระทั่งมาพบแชตที่ลูกสาวคุยกับครูบอย จึงพาไปแจ้งความที่ สภ.นางรอง ในวันที่ 26 มิ.ย. 63
ล่าสุดวันที่ 20 ก.ค.63 ครูแหม่ม เปิดเผยว่า ตนเพิ่งได้รับการบรรจุให้มาเป็นครูที่โรงเรียนได้ประมาณ 5 เดือน จึงไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่าครูบอยมีพฤติกรรมชอบลวนลามและข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงจริงหรือไม่ ตนยังรู้สึกงงอยู่ว่าทำไมครูบอยถึงพาดพิงชื่อของคนในแชตสนทนากับเด็ก เนื่องจากตนไม่เห็นว่าครูบอยกำลังทำอะไรเด็กนักเรียนชั้น ม.1 ทั้งนี้ ตนยังคงศรัทธาในอาชีพครู ครูแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ขณะที่วันนี้ตัวแทนชาวบ้าน และพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนจาก 5 หมู่บ้านในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คนได้เดินทางมารวมตัวกันภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อประท้วงขับไล่ ผอ. และครูชำนาญการอีก 2 คน เนื่องจากไม่พอใจที่ ผอ.และครู ได้ใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวครูบอย
ทั้งนี้ไม่พอใจที่ ผอ.ส่งตัวแทนครูไปเจรจากับผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายเพื่อให้ยุติเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือปกป้องคนผิด โดยไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้ปกครองและเด็กที่ถูกกระทำ
นางชนาภา อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหลานสาวของตนเองก็เคยมาเล่าให้ฟังว่าเคยถูกครูบอยเรียกเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์ แล้วพยายามลวนลามด้วยการหอมแก้มและกอดจูบ แต่ก็มีคนช่วยเหลือ จึงไม่ได้ถูกลงโทษ แต่ในใจก็อยากให้ครูคนนี้ลาออก เพราะกลัวจะมากระทำกับหลานสาวและนักเรียนคนอื่นอีก กระทั่งล่าสุดครูบอยก่อเหตุกับเด็กอีก
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ครูบอยเคยก่อเหตุขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง แต่เป็นเพียงการหอมแก้ม ซึ่งไม่ถือเป็นการกระทำชำเรา โดยเหตุการณ์ในครั้งก่อน ทางโรงเรียนก็ได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนแล้ว ซึ่งตนไม่ทราบว่าทำไมครูบอยถึงกล้าที่จะก่อเหตุซ้ำอีก ทั้งนี้ ขณะนี้ครูบอยได้ลาออกจากโรงเรียนไปแล้ว แต่ทางเขตพื้นที่การศึกษาก็ต้องดำเนินเรื่องเอาผิดตามขั้นตอนต่อไป
ตนขอชี้แจงว่า ตนไม่ได้เป็นผู้ประกันตัวและไม่เคยให้ท้ายครูบอย โดยผู้ประกันตัวครูบอยเป็นคุณครูผู้หญิงอาวุโส 2 ท่าน ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับผู้ที่เข้าไปเจรจากับแม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.1 ยืนยันว่าไม่มีการข่มขู่ใด ๆ เพียงแต่เข้าไปเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น
