คลังเตือนธุรกิจที่พัก “เราเที่ยวด้วยกัน” อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา ชี้ได้ไม่คุ้มเสีย

20 ก.ค. 63

คลังชวนผู้ประกอบธุรกิจที่พัก “เราเที่ยวด้วยกัน” ร่วมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว ไม่ใช้โอกาสขึ้นราคา ชี้ได้ไม่คุ้มเสีย

จากกรณีที่ ครม. อนุมัติงบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคมภาคการท่องเที่ยวจากการระบาดของโควิด-19 จัดทำโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ซึ่งเป็นรวมโครงการ "เราไปเที่ยวกัน" กับโครงการ "เที่ยวปันสุข" โดยรัฐจะสนับสนุนเงินในการท่องเที่ยวส่วนหนึ่งให้กับประชาชนได้แก่ ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่ากินเที่ยว ซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางดราม่าเว็บหน่วง ล้วงข้อมูลส่วนตัว และโรงแรมราคาพุ่ง 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เราเที่ยวด้วยกัน"
- #เราเที่ยวด้วยกัน เปิดลงทะเบียนวันแรก โซเชียลโวยขึ้นเทรนด์ รัฐฯ ล้วงข้อมูลส่วนตัว
เปิดแล้ว! ลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" จำกัดแค่ 5 ล้านสิทธิ
เช็กเลย! เราเที่ยวด้วยกันเปิดรายชื่อ "โรงแรม - ร้านอาหาร" ที่ร่วมโครงการ

เตรียมลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com คนมีคู่ได้สิทธิเพิ่ม!
เช็กเงื่อนไข "เที่ยวปันสุข" อายุเท่าไรถึงมีสิทธิลงทะเบียน
ก่อนลงทะเบียน "เที่ยวปันสุข" เช็กขั้นตอนโหลดแอปฯ "เป๋าตัง" รอรับเงินส่วนลด 600 บาท

ล่าสุดทางด้าน นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (โครงการฯ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วนร้อยละ 40 ของค่าที่พัก สูงสุด 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน สนับสนุนค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว 600 บาทต่อห้องต่อคืน และสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสายการบินในสัดส่วนร้อยละ 40 ของค่าบัตรโดยสาร สูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง

ในภาพรวมโครงการฯ มีผลตอบรับตามเป้าหมาย ผู้ประกอบธุรกิจที่พักสนใจเข้าร่วมแล้ว 6 พันราย โดยหลังจาก ที่ได้เปิดให้ประชาชนจองที่พักภายใต้โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนสามารถวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการจะเริ่มมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจในช่วงที่ขาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศที่มีสัญญาณบวกมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19

ดังนั้น เพื่อรักษาแรงส่งต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจไทย จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจที่พักที่เข้าร่วมโครงการฯ ส่วนน้อยบางราย ซึ่งอาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ ขอให้เว้นจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางดังกล่าว เนื่องจากผลประโยชน์ในระยะสั้นอาจได้ไม่คุ้มเสียทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมีการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางและมีเทคโนโลยีช่วยในการเปรียบเทียบราคาและคุณภาพการบริการจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถเลือกรับบริการจากผู้ประกอบการที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และพิจารณามาตรการที่เหมาะสมมาดูแลต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ