จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า สิทธิชัย อ.อ๊อฟ ได้ทำการเผยแพร่ภาพสดหรือไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่หมู่บ้านอ้อมน้อย ย่านพุทธมณฑลสาย5 โดยขณะกำลังไลฟ์สดอยู่ ได้มีคู่กรณีเข้ามาแสดงความคิดเห็นชักชวนให้มีเรื่องกัน ก่อนที่คู่กรณีจะยกพวกกว่า30คนเข้ามาบุกบ้านของผู้โพสต์จนข้าวของได้รับความเสียหาย
วันนี้ (4ม.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมายังหน่วยบริการประชาชนเก้าแสน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดนครปฐม และพบกับนายสิทธิชัย ฤทธิ์สมบูรณ์ หรือ อ๊อฟ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก จากนั้นเพื่อนของคู่กรณีได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต้องการที่จะกระทืบเพื่อนของตน ตนไม่ยอมและเกิดความรู้สึกโมโห จึงต่อว่ากลับไป หลังหยุดไลฟ์สดได้ทักข้อความไปต่อว่าตอบโต้คู่กรณี จากนั้นได้เดินทางกลับบ้านพักของตนเอง
เวลาผ่านไปสักครู่ ได้มีวัยรุ่นชายประมาณ 2 คน นำระเบิดปิงปองมาปาที่บริเวณรั้วหน้าบ้านของตนเอง จากนั้นตนและรุ่นน้องอีก1คนได้ปาขวดเบียร์ใส่จากบริเวณบ้านในชั้น 2 เวลาเดียวกันคู่กรณีได้เรียกเพื่อนกว่า 20 คนพร้อมอาวุธ บุกทำลายข้าวของบริเวณบ้านเสียหายเป็นจำนวนมาก อาทิ รถจักรยานยนต์ กระจกบ้านแตก รั้วบ้านถูกอาวุธฟัน กระถางต้นไม้แตกหัก และอ่างล้างจาน พังเสียหาย ซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุมีคนในครอบครัวอยู่ร่วมกันกว่า 6 คน
และวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตนและคู่กรณีเข้ามาไกล่เกลี่ยกัน และต่างฝ่ายไม่ติดใจเอาความกันได้ ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ฝั่งของคู่กรณีจะเป็นผู้รับผิดชอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ได้ความคิด ว่าการใจร้อนเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมา พ่อแม่ก็เดือดร้อน และตัวเราก็ลำบากเพราะไม่รู้ว่าจะโดนทำร้ายอีกเมื่อไหร่ และคงไม่คิดจะกลับมาเป็นเพื่อนกับคู่กรณีอีกแล้ว
ด้านนายวัชรินทร์ น่วมอนงค์ หรือต้า และ นายอิทธิพล นิรันดร หรือ อิท คู่กรณีของนายอ๊อฟ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ นายอ๊อปเป็นคนทักมาหาตน เพราะเพื่อนของตนไปท้าทายในไลฟ์สดเฟซบุ๊กนายอ๊อฟ พร้อมกับพูดจาท้าทายตน และข่มขู่ว่ามีอาวุธปืน ด้วยความโมโห ตนจึงนำระเบิดปิงปองไปปาที่หน้าบ้านของนายอ๊อฟ
ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ก่อเหตุ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องเพราะรุ่นน้องนายอ๊อฟมาท้าต่อยกัน แต่นายอ๊อฟออกตัวแทนให้ จนเป็นเหตุให้มีเรื่องกัน ส่วนครั้งนี้ตนรู้สึกโมโหเพราะนายอ๊อฟด่าเพื่อนตนด้วยถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง ส่วนเพื่อนกว่า30คนนั้น เป็นกลุ่มของเพื่อนตนเองเพียง10คน นอกนั้นเป็นเพื่อนในระแวกเดียวกันจากท้ายหมู่บ้าน ที่เข้ามาร่วมก่อเหตุจนบ้านของนายอ๊อฟเสียหาย
นายต้า ยอมรับ ว่าหลังเกิดเรื่อง ตนเองก็รู้สึกผิด เพราะก็เคยเป็นคนรู้จักกันมาก่อน และตอนนี้ก็คงไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ส่วนตัวขอให้ต่างคนต่างอยู่ ไม่ไปยั่วโมโหกันอีก และตนจะคอยห้ามปรามเพื่อนไม่ให้ก่อเหตุอีก หากเจอกันก็จะยิ้มให้ อีกทั้งคิดว่าต่อไปจะมีสติให้มากกว่านี้
และในวันนี้ นายธานินทร์ น่วมอนงค์ พ่อของนายต้าได้เดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยด้วยเช่นกัน นายธานินทร์ ระบุว่า ในวันนั้นตนได้เข้าไปห้ามปรามไม่ให้ลูกชายและเพื่อนของลูกไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท แต่ไม่สามารถระงับเหตุได้ ขณะที่เพื่อนของลูกชายที่มาจากท้ายหมู่บ้านกว่า20คนเข้ามาร่วมก่อเหตุด้วย จึงส่งผลให้บ้านหลังดังกล่าวเสียหาย
นายธานินทร์ เล่าว่า ปกติแล้วลูกชายเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ และค่อนข้างติดเพื่อน ยอมรับว่าลูกเป็นคนใจร้อนมาก แต่ตนก็คอยสอนลูกตลอด และในวันเกิดเรื่อง ตนก็ทราบว่าเพื่อนลูกกระทำเกินกว่าเหตุจริง จึงขอเจรจากับครอบครัวของคู่กรณีตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว แต่อีกฝ่ายยังติดใจเอาความจึงต้องมาตกลงเจรจากันที่ สภ.กระทุ่มแบน และได้ชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณีทั้งหมดเป็นเงินกว่า15,000บาท และต่อไปจะคอยบอกคอยสอนห้ามปรามสิ่งที่ไม่ดีกับลูก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน เผยว่า เบื้องต้นในวันนี้เป็นเพียงการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อไม่ให้ทั้งคู่ก่อเหตุดังกล่าวอีก โดยทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความกัน ซึ่งผู้ก่อเหตุยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายในจำนวนเงิน 15,000 บาทให้กับบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากนี้อีก2สัปดาห์ จะเรียกให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่อีกครั้ง