เมื่อวันที่ 14 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพร้อมกับ นายไชย์พล วิภา และนางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงกับป้าน้องชมพู่ น้องโอมและน้องน้ำมนต์ ลูกของลุงพล เดินทางมาที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นการติดต่อมาของเข้าอาวาสวัด เพื่อต้องการให้ลุงพลมาทำพิธีอโหสิกรรม
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
เมื่อเดินทางมาถึง ได้รับการต้อนรับจากศิษยานุศิษย์ของวัด ซึ่งมีการผูกฝ้ายข้อมือให้ลุงพล และป้าแต๋น รวมทั้งลูก ๆ อีก 2 คน จังหวะหนึ่งลุงพลมีอาการตาแดง แล้วก็ใช้มือปาดน้ำตา เนื่องจากประทับใจการต้อนรับของชาวบ้าน จากนั้นได้นำบายศรี บูชารูปปั่น “พญาเพชรภัทรนาคราช” เพื่อถอนคำสาบานทั้งในอดีตชาติ และชาตินี้ เพื่อให้หมดเคราะห์ จากนั้นเดินต่อมาที่รูปปั้น “พญาศรีสัตตะ” เพื่อนำบายศรีอีก 1 คู่ มากราบขอพร ให้กับครอบครัวพบเจอแต่สิ่งที่ดี ที่ต้องการ
จากนั้นได้ไปพบกับ พระอาจารย์พล เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ซึ่งมีการพูดคุยกับลุงพล ป้าแต๋น และครอบครัว ครั้งนี้ลุงพลนำน้ำดื่ม ไม้กวาด มาถวายวัดด้วย เมื่อมาถึงมีการกราบพระ และพระอาจารย์พล มีการทักทาย และพูดถึงว่าอาตมานิมิตเกิดขึ้นช่วงทำบุญวัดเมื่อต้นเดือน ก.ค.63 อาตมาไหว้ขอพรต่อหน้าองค์อมรินทร์กลางวัด ซึ่งมีการจุดธูป ปรากฎว่าเกิดเหตุนิมิตตัวลุงพลขึ้น
หลังจากนั้นก็ยังกลับมาฝัน เกี่ยวกับหมู่บ้านกกกอก ว่าขณะนี้หมู่บ้านกำลังร้อน “หมู่บ้านมีการเอาขอนไม้ตะเคียนขึ้นมา 2 ต้นใช่หรือไม่ บ้านชมพู่อยู่ใกล้กับศาลหลักบ้านจริงหรือไม่” ซึ่งถูกต้องทั้ง 2 ประโยค ต่อมาท่านได้พูดเป็นปริศนาธรรมว่า “ผีเฮือนพาเข้า ผีเหล้าพากิน” คล้ายจะบอกอะไรถึงค้นร้ายที่กระทำที่เกิดขึ้นกับชมพู่ แต่บอกว่าอาตมาไม่สามารถบอกอะไรได้มากกว่านี้
จากนั้นได้ให้พร ระบุทำนองว่า คนดีอยู่ที่ไหนก็ต้องดี และช่วงเวลาทุกข์เช่นนี้ จะเข้าใจความเป็นคนมากขึ้น โดยไม่รู้ว่าคนอื่นจะเข้าใจไหม หากไม่ได้มายืนในจุดที่ลุงพลยืน จากนั้นพระอาจารย์พล ได้นำกระดานไวท์บอร์ด มาเขียนดวงชะตา โดยระบุชะตาของ ลุงพล (อายุ 43 ปี ย่าง 44 ปี ) ป้าแต๋น (อายุ 41 ปี ย่าง 42 ปี) และพูดถึงชะตาของแม่ชมพู่ (อายุ 39 ปี ย่าง 40 ปี) โดยมีการวาดเป็นทิศ 8 ทิศ เรียงเป็นสัตว์ 8 ตัว คือ ครุฑ , แมว , ราชสีห์ , เสือ , นาค , หนู , ช้าง และวัว
ดวงป้าแต๋นนับแล้วตกที่ วัว ลักษณะไร้หลัง หาทิศทางไม่เจอ ซึ่งชะตากรรมไม่ต่างจากลุงพล แต่ลุงพลแย่กว่า คือดวงตกที่ หนู ซึ่งเป็นสัตว์เล็กสุดในรอบชะตา และเลขดวงตก ศูนย์ ทั้งคู่ ทำให้ทำดีไม่ขึ้น แต่ลุงพลกำลังจะพ้นในเดือน ส.ค.63 เพราะเป็นเดือนเกิด แต่แม่ชมพู่ กำลังวิ่งเผชิญเข้าชะตาหนู ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น และจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่แก้
หลังจากเขียนชะตาแล้ว พระอาจารย์พล ได้อธิบายเปรียบเปรย ระบุว่า ชะตาของลุงพลกับป้าแต๋นตก ศูนย์ทั้งคู่ ดังนั้นศูนย์ยังไม่มีค่า ต้องแก้จนกว่าจะมีตัวเลขอื่นมาอยู่ข้างหน้า เพื่อทำให้ศูนย์มีค่า ซึ่งพระอาจารย์เขียนเลขยกตัวอย่างคือ “3 1 9” อยู่หน้า “0 0”
หลังจากเสร็จการดูชะตา ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้กับลูกลุงพลทั้ง 2 คน คนละ 10,000 บาท พร้อมนำซองเงินที่ญาติโยมทราบข่าว อยากจะช่วยเหลือมอบให้กับลุงพล จากนั้นได้เดินลงมาที่องค์ช้างเอรวัณ มีการนำบายศรี 1 คู่ จุดบูชาพระอินทร์ทรงช้างเอรวัณ ก่อนจะไปที่พระธาตุ
เมื่อไปถึงพระธาตุ ซึ่งให้ลุงพล ป้าแต๋น อธิษฐานบายศรีในพระมหาธาตุเจดีย์แก้วมงคล ต่อหน้าปู่ชัยแก้ว เทพเทวดาที่รักษาสถานที่แห่งนี้ ปักธูป 9 ดอก ก่อนเดินขึ้นพระธาตุ เพื่อเวียนขวา 3 รอบ ซ้าย 3 รอบ พร้อมสวดบทอิติปิโส เพื่อพลิกสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี สิ่งที่ดีให้ดีขึ้นไป
จากนั้นเดินทางไปที่บ่อน้ำมนต์ มีการจุดธูปไหว้ อธิษฐานขอน้ำมนต์เพื่อไปอาบ โดยลุงพลเป็นผู้อาบน้ำมนต์เพียงคนเดียว พระอาจารย์พล มีการสวดทำน้ำมนต์ และอาบให้ลุงพล ซึ่งเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระอาจารย์พล เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า กรณีนิมิตที่เห็น อาตมาเห็นเมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ขณะจุดธูปขอพรอยู่หน้าองค์ช้างเอรวัณ ซึ่งก่อนหน้านั้นมีลูกศิษย์อยากจะให้ไปช่วยเรื่องคดีน้องชมพู่ แต่อาตมามองว่าการเดินทางไปจะไปดี จึงตั้งจิตอธิษฐานถึงผู้ที่บริสุทธิ์ ที่จะสามารถช่วยบ้านกกกอกได้
ปรากฎว่าเมื่ออาตมาอธิษฐาน ระหว่างควันธูปพวยพุ่ง อาตมามองเห็นที่หน้าพระธาตุฯ หลังช้าง ซึ่งมีพญานาคอยู่หน้าทางเข้า ปรากฏเป็นชายชุดขาวขึ้น จากนั้นไม่นานก็เห็นชายรายดังกล่าวหันหน้ากลับมา และเป็นใบหน้าลุงพล ซึ่งทำให้อาตมาคิดขึ้นมาว่า ต้องให้ลุงพลเป็นผู้อันเชิญเทพ เทวดาไปกับบายศรี เพื่อนำกลับไปไหว้ศาลหลักบ้าน และตรวจุดแม่ตะเคียน
จากนั้นก็พยายามให้ศิษย์ติดต่อลุงพลหลายวัน จนกระทั่งติดต่อได้ และลุงพลก็มีโอกาสเดินทางมาจริง ๆ โดยพิธีที่ทำให้วันนี้เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์อโหสิกรรม จะทำให้ชีวิตตอนนี้ดีขึ้น ส่วนชะตาชีวิตตอนนี้ใกล้จะผ่านพ้นเรื่องไม่ดีไปแล้ว ซึ่งหากลุงพลไม่เจอเรื่องที่เจออยู่ เชื่อว่าจะต้องประสบอุบัติเหตุ หรือเจอเรื่องร้าย ๆ อย่างอื่น แต่หลังจากเดือนเกิด เดือนส.ค. เรื่องทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ป้าแต๋นก็เช่นกัน แต่ไม่หนักเท่าของลุงพล
นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่มาวัดวันนี้ เจ้าอาวาสโทรศัพท์หาตนให้มาทำพิธีอโหสิกรรม ซึ่งท่านติดต่อมาหาตน เผื่อว่าอะไรจะดีขึ้น ส่วนตัวก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่อะไรทำได้ตนก็ทำ ส่วนที่พระท่านพูดเรื่อง ผีบ้าน ผีเรือน ตนคิดว่าเป็นปริศนาธรรม ที่คงหมายถึงสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นในบ้าน
ส่วนเรื่องตะเคียน ตนไม่รู้ว่าท่านทราบได้อย่างไร ซึ่งพระท่านไม่ได้ไปที่บ้านกกกอก ประมาณ 5-7 ปี แต่ตะเคียนเอาขึ้นมา 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็อาจจะได้ข่าวบ้างว่ามีการทำพิธี แต่ตนไม่แน่ใจ
ส่วนวันนี้ตนก็รู้สึกดี ที่พระท่านแนะนำให้ทำอะไร ซึ่งชะตาชีวิตตนที่ผ่านมา ทำอะไร ขยันเท่าไรก็เท่าเดิม ก็อาจจะตรงกับที่พระท่านบอก วันนี้ก็ขอพรให้มีชีวิตที่ดีในทุกด้าน และได้อันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ไปไหว้ที่ศาลหลักบ้าน หลังจากนี้พร้อมอโหสิกรรม ให้เจ้ากรรมนายเวรและทุกคน ตนพร้อมปล่อยวาง ไม่คิดมาก
ขณะที่สมพร หลาบโพธิ์ ป้าน้องชมพู่ กล่าวว่า การมาวัดครั้งนี้เป็นการติดต่อมาจากท่านเจ้าอาวาส โดยมีการโทรคุยเมื่อวานนี้ ตนก็ไม่เคยมา แต่ท่านต้องการอยากให้มาเพื่อมอบทุนการศึกษา และทำพิธีอโหสิกรรม ซึ่งก็ไม่ทราบรายละเอียดมาก เมื่อมาที่วัดแล้วยอมรับว่าทำแล้วก็สบายใจ รู้สึกโล่ง ทำแล้วก็รู้สึกดี ซึ่งพระท่านก็บอกว่าการที่ได้ช่วยเหลือคนที่ตกอยู่ในความลำบาก ก็ถือเป็นการทำบุญอีกแบบหนึ่ง จึงอยากมอบทุนให้กับลูก
ส่วนเรื่องที่พระท่านเห็นนิมิตว่า หมู่บ้านมีเรื่องยกตะเคียน ตนก็แปลกใจ เพราะข่าวแทบจะไม่ออกไปเลยว่ามีการยกต้นตะเคียนของหมู่บ้าน จึงไม่ทราบว่าท่านรู้ได้อย่างไร ส่วนเรื่องคำพูดของท่านว่า “ผีเฮือนพาเข้า ผีเหล้าพากิน” ไม่แน่ใจจะหมายถึงคนร้ายอย่างไร แต่ท่านก็บอกว่าลุงพลอาจถึงคราวเคราะห์ ตนก็เชื่อและทำตาม เพราะคิดว่าจะเบาบางลง ทุกวันนี้อบอุ่นมากที่มีกำลังใจมากขนาดนี้
