ได้ยินจริง! เสียงชาย 2 คนคุยกันก้องข้างศพชมพู่ พยานคาดเสียงสะท้อนจากตีนเขา (คลิป)

15 ก.ค. 63

กรณีนางลิ้นจี่ (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า มีคนในหมู่บ้านกกกอกลือกันว่า ในวันที่ชาวบ้านเจอศพของน้องชมพู่ จุดที่พบรองเท้าของน้องชมพู่ มีชาย 2 คนยืนอยู่ใกล้ระยะประมาณ 4 เมตร และป้าตุน คนที่เห็นรองเท้าของน้องชมพู่ได้ยินเสียงคล้ายกับชายปริศนา 2 คนยืนคุยกันอยู่จึงตกใจ ซึ่งชาวบ้านหลายคนเห็นแต่ไม่กล้าพูด

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

427060366740

ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ นางตุนมา พรหมงอย หรือ ยายตุ่น ชาวบ้านที่พบรองเท้าน้องชมพู่

โดยยายตุ่น ให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นที่ตนก้มเก็บรองเท้าน้องชมพู่ในวันที่ 14 พ.ค.63 แล้วตนไปเห็นบุคคลปริศนา 2 คน นั่งพูดคุยกันอยู่จุดที่เจอศพน้องชมพู่นั้น ตนขอยืนยันว่าตนไม่เคยไปพูดเรื่องนี้ให้ชาวบ้านกกกอกฟัง และตนก็ไม่เคยทราบข้อมูลนี้มาก่อนด้วย ที่บ้านกกกอกตนเคยไปแค่ตอนที่พาไปชี้จุดพบเจอรองเท้าเด็ก และตอนที่ตนไปเอาไฟฉายส่องกบ ที่ตนลืมไว้เท่านั้น

276711606034

นางตุน เล่าย้อนกลับไปอีกว่า ก่อนที่ตนจะเจอรองเท้าเด็ก ขณะที่กำลังหาของป่าอยู่นั้น ตนก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันเป็นภาษาภูไทยว่า “ไปสิเหลอ ๆ” หมายความว่า จะไปไหน และมีเสียงคล้าย ๆ เด็กร้องไห้ ฮือ ๆ ๆ

249631

จากนั้นนางตุ่น จึงมองหาต้นเสียง โดยการปีนหินขึ้นไป แล้วทำท่าส่องลงมาที่ตีนเขา เพื่อดูว่าใครคุยกัน ระหว่างที่ส่องหาต้นเสียงนั้น นางตุ่นก็ได้เสียหลักล้มลงจากก้อนหิน กระทั่งไปเจอรองเท้าวางอยู่ 1 คู่ จากนั้นจึงหยิบรองเท้าขึ้นมาดู และคิดในใจว่า "รองเท้าใครนะ ทำไมมาทิ้งไว้ตรงนี้" ระหว่างนั้นก็มีเสียงเด็กร้องขึ้นมา แต่เป็นเสียงที่มาจากระยะไกล ไม่ได้อยู่ใกล้จุดที่เจอรองเท้า

ทั้งนี้ยายตุ่น ฝากถึงชาวบ้านที่ออกมาให้ข้อมูลว่า ตนเจอคนพูดคุยกันใกล้จุดเจอศพ ตนขอยืนยันว่าตนไม่เจอบุคคลปริศนา 2 คนตามที่ข่าวนำเสนอ และตนอยากให้เลิกล้มพฤติกรรมดังกล่าว อะไรที่ไม่ใช่ความจริง จะทำให้ตนเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม สำหรับลักษณะพื้นที่จุดอื่น ๆ บนเขา ก่อนที่ตนจะเดินไปเจอรองเท้านั้น ก็มีลักษณะหญ้าเหมือนเป็นทางเดินคนปกติ มีทั้งหญ้าเขียว และหญ้าที่ตายแล้ว ส่วนกิ่งไม้ก็เป็นกิ่งไม้ที่หักจากลำต้นตามธรรมชาติเท่านั้น

126664

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายสาม สามีของยายตุ่น ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 14 พ.ค.63 ที่ยายตุ่นไปเจอรองเท้านั้น ตนก็ไม่ได้ขึ้นไปหาของป่าด้วย ตนนอนรออยู่ที่รถจักรยานยนต์ที่โรงเรียนบ้านกกกอก บริเวณตีนเขาภูเหล็กไฟ และเมื่อนางตุ่น ลงมาจากเขา ตนก็ยังไม่ทราบข่าว มาทราบตอนที่ตนกับนางตุ่นกลับถึงบ้านแล้ว

เมื่อนางตุ่นเล่าเรื่องรองเท้าให้ตนฟัง ก็รีบประสานไปทางครอบครัวน้องชมพู่ ที่บ้านกกกอก กระทั่งได้ขึ้นไปค้นหารองเท้า ตามจุดที่ยายตุ่นเจอเบาะแส ตอนที่ขึ้นไปใกล้จะถึงจุดเจอรองเท้า ตนเดินนำหน้าเป็นคนแรก ลุงพลเดินเป็นคนที่ 2 และนายสมบัติเดินเป็นคนที่ 3 

กระทั่งไปถึงบริเวณใกล้เจอศพ มีคนบอกว่าเจองู พวกตนจึงเดินแยกออกคนละทาง จนนายสมบัติไปเจอศพเป็นคนแรก และลุงพลก็รีบเข้าไปเอากำปั้นทุบดิน ปล่อยโฮ แสดงความเสียใจเมื่อเจอศพหลาน และลุงพลก็ได้พูดขึ้นมาว่า คนร้ายอาจหมดอาหารให้น้องกิน ซึ่งตนก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจากสภาพศพ ลุงพลอาจเห็นว่าเด็กอาจหิวก็เป็นไปได้ ตนก็คิดว่าลุงพลน่าจะไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ เพราะตนคิดว่าแสดงออกเพราะรักหลาน

497578

นายไชย์ วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า กรณียายตุ่นที่ให้ข้อมูลว่ามีเสียงคนตะโกนนั้น ตนก็เคยได้ยินว่ายายตุ่นพูดถึง แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่คนร้าย เพราะยายตุ่นบอกว่าเสียงอยู่ไกล จึงไม่คิดว่าจะเป็นคนร้าย ส่วนคำให้การของน้องสะดิ้งที่กลับไปกลับมา ตนก็ไม่กังวลจะกระทบกับตน เพราะตนเชื่อว่าตำรวจทำงานรอบคอบ และตนก็หวังว่าทุกอย่างจะออกมาดีที่สุด

597415

ส่วนกรณีเรื่องสะดิ้ง ตนไม่ได้มีความกังวลเรื่องคำให้การ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยความเป็นกลางอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในหมู่บ้านไม่มีคนชื่ออำพล มีเพียงตนเท่านั้นที่ชื่อ ไชย์พล และตนยืนยันว่าจะบวชเหมือนเดิม แต่เพราะยังมีห่วง ต้องดูแลครอบครัว ก็ตั้งใจว่าจะบวชแค่ 1 พรรษา

944410

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้สรุปการสัมภาษณ์ของแหล่งข่าว ได้แก่ ลุงพล ป้าแต๋น นางตุ่น นายนริน และนายคล้าย ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่าไม่สงสัยในประเด็นมีเสียงชาย 2 คน ที่อยู่ใกล้ศพน้องชมพู่ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส