จากกรณี คืนวันที่ 13 ก.ค. 63 ร.ต.อ.สายยนต์ ทองทา รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ บริเวณปากซอย 12/1 ด้านหลังหมู่บ้าน ม.13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธมีดแทงด้านซ้าย ของ ด.ช.ภูมิพัฒน์ อายุ 14 ปี และชิงกระเป๋าเงินไป โดยมีเงินในกระเป๋า 100 บาท
จากนั้น ได้ไปก่อเหตุที่หน้าหมู่บ้าน บริเวณใต้สะพานลอย วินรถแท็กซี่ ริมถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ใช้รถจักรยานยนต์และใช้อาวุธมีด ฟันมือของ นายนิพล อายุ 52 ปี ทำงานเทศบาลเมืองบางบัวทองได้รับบาดเจ็บ ชิงกระเป๋าสะพายก่อนหลบหนีไป
โดยนายนิพลมีบาดแผลที่ข้อมือซ้าย จากการที่คนร้ายใช้อาวุธมีดฟันข้อมือซ้ายจนเส้นเอ็นขาด ส่วนทรัพย์สินที่ได้เป็นเงินสด 2,000-3,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารทางราชการ
ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค.63 ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้านบัวทองธานี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบถามนางมณี อายุ 79 ปี เพื่อนบ้านของเด็กอายุ 14 ปี เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลา 2.00 น. ตนกำลังนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน เหมือนกำลังไล่ตีกันอยู่บริเวณหน้าปากซอย แต่ตนไม่ได้ออกมาดู เพราะรู้สึกกลัว
จากนั้นไม่นานก็ได้ยินรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับผู้หญิงร้องเสียงดัง เหมือนจะเป็นเสียงแม่ของเด็ก อายุ 14 ปี
หลังจากเกิดเหตุ ตนทราบจากพ่อของเด็กคนเจ็บว่าเจ้าตัวเดินมาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย และกำลังจะเดินกลับบ้าน ปากซอยค่อนข้างจะเปลี่ยว คนร้ายอาศัยจังหวะนั้นเข้าแทงจนไส้ไหลเพื่อชิงทรัพย์ ส่วนตัวรู้สึกกลัว และไม่กล้าออกไปช่วงกลางคืน
ด้านย่าของ ด.ช.ภูมิพัฒน์ อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า เวลา 2.00 น. หลายชายกำลังจะเดินกลับบ้าน แต่ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยของ โดยคนร้ายตัวผอมได้เข้ามายื้อแย่งของแต่เอาไม่อยู่ เพราะหลานชายของตนตัวใหญ่ จากนั้นคนร้ายอีกคนที่ตัวอ้วนกว่าได้ลงจากรถเข้ามาช่วย ทำให้หลานถูกแทงเข้าที่หน้าท้อง ก่อนจะหลับหนีไป
หลานชายจึงตั้งสติ และวิ่งไปหาพนักงานที่ร้านสะดวกซื้อ พร้อมกับขอให้พนักงานโทรหาพ่อของตัวเอง เบื้องต้น หลานชายถูกขโมย กระเป๋าเงิน ส่วนโทรศัพท์มือถือ หลานชายของตนไม่ยอมให้ และคนร้ายทั้ง 2 คน ใส่หมวกกันน็อก 1 คน ใส่หน้ากากอนามัย 1 คน ซึ่งขณะนี้หลานชายยังรอดูอาการอยู่ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ตนได้แต่ยืนร้องไห้อยู่หน้าห้องและทำอะไรไม่ถูก
นายประกฤติ เหล็กดี อายุ 53 ปี พี่เขยของนายนิพล ผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ นายนิพลออกมารอรถที่หน้าปากซอย เพื่อที่จะรอนั่งรถไปทำงาน มีชายคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาฟันสายสะพายกระเป๋า แต่นายนิพลพยายามยื้อแย่ง ทำให้โดนฟันเข้าที่มือข้างซ้ายล้มลงกับพื้น
หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จ อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว และเริ่มจะกินข้าวได้ ค่ารักษาใช้ประกันสังคมของทางเทศบาล ส่วนอาการบาดเจ็บ ถูกฟันบริเวณฝ่ามือข้างซ้าย ทำให้เอ็นขาด ต้องใส่เฝือก และถูกแทงหลังตรงกลับช่วงปลายนมข้างซ้าย ไม่ทราบว่าเย็บกี่เข็ม
นายนิพล อายุ 52 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ เวลา 2.00 น. ตนกำลังรอเพื่อนมารับไปทำงาน คนร้ายได้ขับรถผ่านหน้า และย้อนกลับมาหาตน เข้ามาประชิดตัว พูดขู่ว่า "เอาเงินมา ๆฎ ก่อนจะแย่งกระเป๋าสะพายของตน ตนพยายามแย่งคืน แต่คนร้ายได้ใช้มีดสปาต้ากระหน่ำฟันเข้าที่มือซ้ายของตน จังหวะที่ตนเสียหลักล้ม คนร้ายแทงเข้าที่ด้านหลังตน ก่อนจะหลบหนีไป
เบื้องต้น ตนถูกฟันมือช้างซ้าย บริเวณหลังมือเอ็นขาด ต้องร้อยเอ็นใหม่ และด้านหลังมีแผลถูกแทงข้างหลังทะลุปอด ภายในกระเป๋าที่ถูกขโมยไปมีโทรศัพท์มือถือ เงินสด 3,000-4,000 บาท เอกสารส่วนตัว บัตรประจำตัวประชาชน เสื้อพนักงาน และกระเป๋า
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิดอีกมุมที่มีชายก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน นายบอย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เล่าว่า ตนถูกคนร้ายเป็นชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 คน มาก่อเหตุรุมทำร้ายตนกับนายบี น้องชาย อายุ 14 ปี เหตุเกิดบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษกขาเข้า มุ่งหน้าอำเภอบางใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง แล้ว
โดยที่เกิดเหตุอยู่บนทางเท้า ตรงข้ามกับทางเข้าวัดลาดปลาดุก คนร้ายใช้อาวุธมีดฟันเข้าไปที่ยางล้อรถจักรยานยนต์ และใช้กรวยฟาดเข้ามาที่ศีรษะ โดยใช้เวลารุมทำร้ายกว่า 3 นาที จนกระทั่ง รปภ. เข้ามาห้าม กลุ่มคนร้ายจึงหยุด และข่มขู่เอาโทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถไป
ตนกับน้องเพิ่งจะออกจากร้านเกม กำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน มีวัยรุ่นชาย 3 คนมาแล้วชูนิ้วกลาง เอามีดชี้หน้าตน 2 คน ตอนนั้นไม่รู้ว่าทำอะไรให้ไม่พอใจหรือไม่ แต่ก็ขอโทษไปก่อน เมื่อถึงจุดกลับรถใต้สะพานถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ตนเร่งความเร็วเพื่อจะหลบหนี แต่วัยรุ่นชายทั้ง 3 คน ขี่ตามมาแล้วเบียดรถตนเข้าข้างทาง จนโดนทำร้ายตามคลิป
