พ่อเด็กป.2 กระทืบครูฉุนด่าลูกดริฟต์รถ ATV ย่าเด็กป้องคนดีทั้งบ้าน ซัดครูหาเรื่อง (คลิป)

13 ก.ค. 63

กรณีครูหนุ่มรายหนึ่ง เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังถูกผู้ปกครองเด็กทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากตักเตือนเด็กนักเรียนชั้น ป.2 ไม่ให้ขับรถเอทีวีในโรงเรียน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุ และพื้นที่ที่ปูด้วยหินจะเป็นหลุม ขณะนี้เกรงว่าจะถูกทำร้ายซ้ำอีก เพราะถูกพ่อเด็กยกพวกมาทำร้ายต้องเย็บ 10 กว่าเข็ม อีกทั้งคู่กรณีไม่มาขอโทษ

262114

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ได้พูดคุยกับนายปีแสง (นามสมมติ) อายุ 33 ปี คุณครูสอนวิชาศิลปะ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังถูกนายสร (นามมติ) อายุ 26 ปี ผู้ปกครองนักเรียนชายชั้น ป.2 ต่อยเข้าบริเวณใบหน้าด้านหน้าฝั่งขวา ทำให้กระเด็น และหน้าผากด้านขวาไปกระแทกกับโต๊ะพับเหล็กจุดคัดกรองนักเรียน ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าผากด้านขวาแตก เย็บ 10 เข็ม และบริเวณโหนกแก้มช้ำ มุมปากขวาแตก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา เวลา 18.30 น.

613058

ส่วนสาเหตุที่ทำร้าย นายสร ไม่พอใจที่คุณครูปีแสงไปตักเตือนลูกชายไม่ให้ขับรถเอทีวีขนาดจิ๋ว 49 ซีซี ในพื้นที่ภายในหน้าประตูของโรงเรียน ซึ่งเด็กได้ขับรถด้วยความเร็ว ทำให้เสียงดัง แถมยังทำให้หินที่นำปูพื้นมันเป็นหลุม และกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ

530881

โดยนายปีแสง (นามสมมติ) อายุ 32 ปี คุณครูสอนวิชาศิลปะ เล่าว่า เหตุเกิดในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่าน ขณะนั้นตนกำลังเฝ้าเวรยามในช่วงเวลากลางคืน แต่ช่วงเวลา 18.30 น. เด็กชายต้น (นามสมมติ) ได้มาขับรถเอทีวีประดิษฐ์เองมาขับเล่นที่บริเวณภายในหน้าประตูของโรงเรียน ซึ่งขับด้วยความเร็วและดริฟรถทำให้เสียงรถส่งเสียงดัง ตนได้ไปบอกกล่าวเด็กชายต้นว่าให้ขับรถเบาลง และให้ระมัดระวัง เพราะจะเกิดอันตราย โดยได้ตักเตือน 2 ครั้ง ขณะที่เด็กขับขี่รถไม่มีผู้ปกครองมาดูแล หากเด็กอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง ตนก็คงจะไม่กระทำหรือตักเตือน หลังจากตักเตือนเด็กชายต้นได้ไปฟ้องนายสรว่าถูกตนด่า

cg_4

หลังจากนั้นสักพัก นายสร ได้เดินมาบริเวณโดม โดยไม่สวมเสื้อมาตะโกนโวยวาย "ทำไมขับไม่ได้ เป็นอะไร มีปัญหาอะไร ทำไมขับไม่ได้" ตนได้นั่งทำงานอยู่ แต่ได้โผล่หน้าออกมาดู โดยนายสรเรียกตนออกไปหา ซึ่งตนได้เดินออกไปจากชั้นเรียนไปหา ได้อธิบายกับนายสรว่า เด็กขับรถเร็ว และทำให้หินที่ปูพื้นเป็นหลุมเป็นบ่อ แล้วนายสรก็บอกว่า เป็นหลุมและเสียงดังแล้วจะทำไม ตนได้ขอโทษนายสร เพื่อให้อารมณ์นายสรดีขึ้น พร้อมกับบอกว่าขับได้เลย แต่ขับเบาหน่อย ซึ่งนายสรมีเพื่อนมาด้วย 3 คน แต่ไม่ได้ลงจากรถจักรยานยนต์ คนที่ทำร้ายมีเพียงนายสร ตนไม่ได้ต่อสู้ เพราะนายสรตัวใหญ่สูง 185 ซม. โชคดีที่เพื่อนได้เข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นนายสรได้เดินออกไปไร้คำขอโทษ

892064

ตนยอมรับว่าเด็กชายต้น ขับรถเอทีวีเก่ง แต่ก็กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ และปกติแล้วเด็กชายต้นก็จะชอบมาขับรถอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะขับบริเวณในโดม ก็ทำให้พื้นเกิดรอยล้อรถ ขณะนี้ยอมรับว่าขวัญเสีย กลัวว่านายสร จะกลับมาทำร้ายอีก ถึงแม้ว่าจะได้ไปแจ้งความมาแล้วก็ตาม โดยหลังจากที่ไปโรงพยาบาลมา ได้รีบไปแจ้งความที่สภ.บางบ่อ หลังจากผ่านมาแล้ว 13 วัน ทางเจ้าหน้าที่รอให้ได้ใบรับรองแพทย์ก่อน ถึงจะสามารถต้องข้อหล่าวหาได้

875150

ตอนนี้อยากให้นายสรมาขอโทษ หากมาขอโทษ พร้อมที่จะให้อภัยอยู่แล้ว ส่วนตัวแล้วไม่รู้จักกับนายสรว่าลักษณะนิสัยเป็นเช่นไร ถึงแม้ว่าเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ 4 ปีแล้ว และส่วนเด็กชายต้น ก็มาเรียนปกติ ไม่กล้าสบตาตน แต่ตนก็ไม่มีอคติกับเด็กชายต้น ทั้งนี้ตนกลัวว่าจะเกิดอันตราย จึงได้คุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อขอย้ายโรงเรียนไปสอนนักเรียนที่อื่น และทำเรื่องขอย้ายไปแล้ว

965766

หลังจากที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านในละแวกนั้น ทีมข่าวได้ไปบ้านของนายสร ซึ่งไม่พบนายสร โดยนางประเทือง พลอยเพชร อายุ 74 ปี ยายของนายสร อ้างว่า นายสรไม่อยู่บ้านไปส่งรถให้กับลูกค้า ไม่รู้จะหลับมาเมื่อไร สำหรับเรื่องที่นายสรไปต่อยคุณครูนั้นตนไม่ทราบ เพราะปกติแล้วนายสรไม่ได้มาคุยหรือเล่าอะไรให้ฟัง ลักษณะนิสัยของหลานชายเป็นคนดี เลี้ยงดูตน ซ้อมรถอยู่หลังบ้าน มีเพื่อนมาก ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ไปทำร้ายร่างกายกัน ส่วนน้องต้นก็ลักษณะนิสัยปกติดี อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเรื่องแล้วหากนายสร กลับบ้านมาตนจะสอบถามและให้ไปขอโทษครู

ทีมข่าวได้รอนายสร แต่ทางญาติบอกว่าไม่ต้องรอ เพราะนายสรอาจกลับบ้านดึกประมาณ 20.00 น. หากรอก็คงจะไม่เจอ หลังจากนั้นก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ แต่ทางญาติของนายสรปฏิเสธ และได้ขับรถไป

ทีมข่าวได้ติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเบื้องต้น ต้องรอใบรับรองแพทย์ แล้วพิจารณาว่าจะตั้งข้อกล่าวหาอะไรได้บ้าง หากช่วงนี้ทางคุณครูรู้สึกไม่ปลอดภัย ให้รีบมาแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งคนคอยไปดูแล และเฝ้าระวังให้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส