คนเจอรองเท้าชมพู่ชี้พิรุธหญ้ามีรอยคนนั่ง แจงไร้ฮ.บินหาวันเด็กหาย (คลิป)

กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่ขณะนี้ชาวเน็ตตั้งคำถามถึง นายนรินทร์ หรือ น้าแต ที่ไลฟ์สดว่าพบเจอรองเท้า ขวดน้ำ และได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้ขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟกับทีมพบศพ จึงถูกตั้งคำถามว่าทราบข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไร 

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

โดยในไลฟ์สดน้าแต ระบุว่า "น้องน่าจะไปนะครับ แต่ว่าอันที่จริงก็มีคนพา มีคนพาเขาไป ก็จุดเกิดเหตุห่างจาก ห่างจากบ้านน้องก็ประมาณเกือบ เกือบ 5 กิโล ขึ้นเขานะครับ อยู่อีกฟากหนึ่งของภูเขานะครับ ที่นี้ก็มันจะมีเฮลิคอปเตอร์ ได้ยินข่าวว่ามีบินอยู่ ก็คนที่นำพาขึ้นไปได้ยินเสียง ขอบคุณชาวบ้านและที่อยู่ใกล้หมู่บ้านมาให้กำลังใจ"

อีกทั้งยังมีคลิปไลฟ์สด วันที่ 14 พ.ค. เวลา 18.23 น. โดยมีเสียงบางช่วงดังนี้ 

น้าแต : ก็พามาดูรองเท้าว่าตรงกันไหม ว่าตรงกันไหมนะครับ
แม่ชมพู่ : ให้ดูรูปรองเท้าค่ะ
น้าแต : ให้ดูรูปรองเท้าว่าตรงกันไหม
แม่ชมพู่ : แต่ว่ารองเท้าตากับยายไม่ได้เอาลงมาด้วย ไม่ได้เอามาจากเขา
น้าแต : ปรากฏว่ารองเท้าที่แม่ได้ถ่ายไว้ในโทรศัพท์กับรองเท้าที่ผัวเมียที่ไปเจอบนภูเขาตรงกันนะครับ แล้วก็จะมีขวดน้ำ มีขวดน้ำมี น้องได้หักกิ่งไม้เล่นนะครับ หักกิ่งไม้เล่น รองเท้าที่เห็นก็เป็นรองเท้าที่ถอดไว้เป็นคู่นะครับ 2 คู่ 2 ข้างเรียงกัน เพราะว่าน้องจะมีพฤติกรรมก็คือ ถอดรองเท้า ถอดรองเท้าชิดกันอยู่ตลอด เป็นคู่ตลอด ไม่เตะรองเท้านะครับ

นายสมบัติ อวนวัง ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ขึ้นไปเจอศพน้องชมพู่ ช่วงที่เจอเป็นช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณ 19.00 น. เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่ทุกคนใส่ไฟส่องกบไว้ที่หัวหมดแล้ว ขณะที่ตนและชาวบ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้เจอศพของน้องชมพู่ สภาพเปลือยกาย นอนหงาย กำมือ ที่แข้งขามีรอยขีดข่วน ตนก็เห็นแค่นี้ ไม่ได้ดูนาน

กรณีที่น้าแตบอกว่า คนร้ายอาจจะได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์นั้น ตนจำได้ว่าในวันที่เจอศพเด็ก ไม่มีเฮลิคอปเตอร์มาบิน มีเพียงเจ้าหน้าที่นำโดรนขนาดใหญ่บินหา จำนวน 2 ลำ ซึ่งโดรนบินก็มีเสียง แต่เสียงก็ไม่ดังเท่าเฮลิคอปเตอร์ และใช้โดรนบินช่วงบ่ายถึงเย็นเท่านั้น และไม่ได้บินใกล้จุดที่พบศพน้องชมพู่

อย่างไรก็ตาม ส่วนในวันที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. มายังพื้นที่ เฮลิคอปเตอร์ก็บินลงที่โรงเรียนกกตูม ไม่ได้บินหาน้องชมพู่

ทีมข่าวทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ นางตุนมา พรหมงอย หรือ ตุ่น ชาวบ้านที่พบรองเท้าชมพู่ โดยทีมข่าวได้นำคลิปวีดีโอไลฟ์สดให้นางตุนดู ซึ่งเป็นไลฟ์สดที่น้าแต ได้เคยออกมาไลฟ์สดว่า วันที่เจอศพน้องชมพู่ มีเฮลิคอปเตอร์บินบริเวณจุดที่เจอรองเท้า และเจอศพน้องชมพู่ จึงทำให้คนร้ายตกใจและหลบหนีได้

นางตุ่น กล่าวว่า ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตอนที่ตนเดินทางไปจุดที่เจอรองเท้า พร้อมกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่นั้น ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีเฮลิคอปเตอร์บินเหนือฟ้าแต่อย่างใด และก็ไม่มีเหตุการณ์คนร้ายตกใจวิ่งหนีเสียงเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย กลับกันพอเจอศพน้องชมพู่ มีแต่ชาวบ้านวิ่งขึ้นเขา เพราะตอนนั้นมีแต่คนอยากเห็นศพน้องชมพู่

เมื่อย้อนกลับไปวันที่ 14 พ.ค.63 เสียงที่ตนได้ยิน ก็จะมีแต่เสียงคล้ายเสียงผึ้งบิน คงเป็นเสียงโดรน ซึ่งตนได้ยินอยู่ตีนเขา ตรงสวนยางตอนที่กำลังเดินทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟไปกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่อยู่บนเขาตนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ตนท้าให้ไปถามชาวบ้านและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ว่าไม่มีเสียงเฮลิคอปเตอร์จริง ๆ ตนก็ไม่รู้ว่านายนรินทร์ เอาข้อมูลนี้มาจากไหน ซึ่งตนก็ไม่เคยเล่าเรื่องเฮลิคอปเตอร์ให้เขาฟัง แต่ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักเขาเลย และก็มั่นใจว่าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทุกคน ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์สักคน ที่นายแตออกมาไลฟ์สดแล้วพูดถึงเรื่องคนร้ายหนีเสียงเฮลิคอปเตอร์ ตนก็คาดว่าน่าจะเป็นบ้า

นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า เรื่องเฮลิคอปเตอร์ ตนไม่รู้ ไม่ได้ยิน ไม่รู้ข้อมูบนี้มาก่อน แต่ปกติจะมีเฮลิคอปเตอร์ของป่าไม้บินลาดตะเวณบ้าง แต่วันที่ 14 พ.ค.63 ยืนยันว่าไม่เห็น ไม่มีเฮลิคอปเตอร์ จึงไม่แน่ใจเรื่องนี้ ซึ่งหากน้าแตมีการพูด ตนเองไม่เคยดู เพราะขณะนั้นตนสนใจแต่ตามหาน้องชมพู่ ซึ่งเรื่องนี้พูดได้แค่ว่า “เกินคาดเดา” ส่วนตัวไม่อยากออกความเห็นว่าจะสงสัยหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามข้อมูลจากพยานทั้งหมด ปรากฏว่าสามารถได้ดังนี้ โดยไม่มีใครได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ดังที่นายแต กล่าวอ้างในไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแต่อย่างใด  

นางตุนมา พรหมงอย หรือ ตุ่น ชาวบ้านที่พบรองเท้าชมพู่ เปิดเผยว่า วันที่ 14 พ.ค.63 ขณะที่ตนไปบอกเบาะแสรองเท้ากับพ่อแม่น้องชมพู่ ตนก็บอกแค่ว่าเจอรองเท้าวางกระจัดกระจายกัน และส่วนประเด็นที่ว่า ตนเห็นรอยหักกิ่งไม้ใบไม้นั้น ตนก็ยืนยันว่าเห็นแค่รอยใบไม้ล้มเป็นแนวระนาบ คล้ายกับคนนั่ง หรือมองอีกมุมก็คล้ายกับรอยคนเหยียบหญ้าก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม นางตุนมา ยังตั้งข้อสงสัยอีกว่า ก่อนที่ตนจะไปเจอรองเท้า น่าจะมีชาวบ้านไปเจอรองเท้าหรือเจอศพน้องชมพู่ก่อนหรือไม่ แต่ตนก็ไม่ได้ปรักปรำใคร เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของตนเท่านั้น