เปิดนาทีตาย "ทราย หนองฝ้าย" ระเบิดบึ้มใส่มือ อริแจงมาดักยิงดันตายเองรอมอบตัว (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 11 ก.ค.63 พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พฤหัส สังข์ประเสริฐ ผกก.สภ.เลาขวัญ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เข้าประชุมที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ห้วยกระเจา เพื่อตรวจสำนวนการสอบสวนและสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อคลี่คลายคดีทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธปืนยิงและมีผู้เสียชีวิตจากระเบิดแสวงเครื่อง เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

สำหรับนายนพดล หรือ “ทราย หนองฝ้าย” ผู้เสียชีวิตนั้น มีประวัติเมื่อวันที่ 8 ม.ค.59 เคยถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เลาขวัญ นำกำลังบุกเข้าไปจับกุมตัวได้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 ต.เลาขวัญ เจ้าหน้าที่ยึดของกลางได้ประกอบด้วยยาบ้า จำนวน 111 เม็ด ยาไอซ์ หนัก 0.7 กรัม อาวุธปืนลูกซองพกสั่นแบบไทยประดิษฐ์ขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 12 จำนวน 3 นัด ขณะนั้นนายนพดล ยอมรับสารภาพว่า เปิดโรงแรมเอาไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดโดยเฉพาะ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 12 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณซอยข้างร้านสะดวกซื้อ บ้านหนองฝ้าย หมู่ 1 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบมีรอบคาบเลือดของผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว ส่วนเศษชิ้นส่วนหลักฐานต่าง ๆ ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไปตรวจสอบแล้ว 

นายโอ๋ เพื่อนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองนั่งดื่มสุรากับนายแบงค์ อยู่ที่บ้าน นายนพดลได้เข้ามาหาตนที่บ้าน บอกว่าให้ออกไปเป็นเพื่อนเนื่องจากนัดเคลียร์กับกลุ่มคู่กรณี ที่เคยมีปัญหากันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ตนเห็นเพื่อนขอให้ไปเป็นเพื่อน จึงขับรถกระบะออกไปกัน 3 คน โดยที่ตนและนายแบงค์ ก็ไม่รู้จักกลุ่มคู่กรณีมาก่อน เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุบริเวณซอยข้างร้านสะดวกซื้อ บ้านหนองฝ้าย หมู่ 1 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ยังไม่ทันจะได้จอดรถ ก็พบว่ากลุ่มของคู่กรณี ได้มาดักรอแล้วใช้อาวุธปืน ยิงใส่รถของตนหลายนัดจนรถเสียหลัก ก่อนจะมีรถกระบะของทางคู่กรณีไม่รู้มาจากไหน วิ่งเข้ามาพุ่งชนรถของตนช่วงกลางลำจนรถหยุดนิ่ง

จังหวะนั้น ตนกับนายแบงค์ ที่ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณเท้าขวา รีบวิ่งลงจากรถ เพื่อหนีเอาชีวิตรอด แต่หันหลังกลับมาก็ไม่เห็นนายนพดล วิ่งลงตามมา คาดว่าน่าจะเจ็บจากการถูกรถชน ทำให้นายนพดล ถูกกลุ่มคู่กรณีทั้ง 4 คน ลากลงจากรถไปรุมกระทืบ แต่ขณะที่จะถูกลากลงรถ นายนพดล ได้กำระเบิดปิงปองที่เตรียมมาเอาไว้ในมือด้วย ขณะโดนกระทืบระเบิดน่าจะลั่น จึงทำถูกแรงระเบิดอัดร่างจนเสียชีวิต ก่อนคู่กรณีจะหลบหนีไป

อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบรายละเอียดอะไรแน่ชัด เนื่องจากตนก็ยังไม่รู้จักทางกลุ่มคู่กรณีที่ก่อเหตุเลย ตนเพียงแค่มาเป็นเพื่อนนายนพดลเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดของปมเหตุ น่าจะมีเพียงนายนพดล ที่รู้ว่าเกิดจากอะไร

หลังเกิดเหตุ ตนรู้สึกเสียใจมากที่นายนพดลต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีกทั้งคิดว่าคู่กรณีทำเกินกว่าเหตุเกิน ตนก็อยากขอเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินคดีเอาผิดทางฝั่งคู่กรณีให้ถึงที่สุด

หลังจากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยัง บ้านของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ในต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางนก (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี แม่ของนายกัน เปิดเผยว่า ตนมาทราบข่าวหลังเกิดเหตุ ลูกชายคนเล็กได้มาบอกว่าลูกชายคนโตไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับทางคู่กรณี ซึ่งตนก็ยังไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นมีคนเสียชีวิต

กระทั่งเวลา 06.00 น.ของวันที่ 11 ก.ค.63 ลูกชายโทรศัพท์มาหาตนเองครั้งที่ 1 บอกว่า "แม่หนูขอโทษ ถ้าหนูไม่ยิง หนูก็ต้องตาย เพราะคู่กรณีมีระเบิด" ก่อนจะตัดสายไป ก่อนจะโทรมาหาตนเองอีกครั้ง ช่วง 21.00 น. หลังจากตำรวจเรียกตนไปสอบปากคำ

โดยลูกชายโทรมาบอกตนเองว่า "เดี๋ยวจะกลับมามอบตัวกับตำรวจ โดยให้พ่อแม่ช่วยพาไป แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ถ้าพร้อมจะติดต่อกลับมาเอง" ก่อนวางสายและปิดเครื่องไป จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ลูกชายก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตนเองอีกเลย ตนจึงไม่สามารถตอบได้ว่าลูกชายหนีไปอยู่ที่ไหน

หลังจากเกิดเรื่องตน คนในครอบครัว รู้สึกตกใจ สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ที่ลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เนื่องจากปกติแล้วลูกชายจะเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด โลกส่วนตัวสูง ไม่เคยบอกเรื่องส่วนตัวให้คนในครอบครัวฟัง ขณะนี้ตนจึงยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นมีความเป็นมาอย่างไร หลังจากนี้ก็ต้องรอลูกชายติดต่อกลับมา หากเจอตัวตนก็จะถามว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ถึงทำให้ต้องทะเลาะวิวาทกันรุนแรงขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม ในฐานะแม่ก็อยากจะขอโทษกับทางครอบครัวฝั่งคู่กรณีที่เสียชีวิต ซึ่งตนเสียใจ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หากตนมีโอกาสได้พูดกับลูกชายตน อยากจะบอกว่า "อยากให้ลูกชายมามอบตัวกับตำรวจ และให้ปากคำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีความเป็นมาอย่างไร" ตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เลาขวัญ ระบุว่า จากการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พบระเบิดแสวงเครื่อง (ระเบิดปิงปอง) ตกอยู่ที่บริเวณที่วางเท้าฝั่งคนขับ จำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่ EOD ได้ทำการเก็บกู้ และนำไปไว้ในที่ปลอดภัยเพื่อรอการทำลายแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าตรวจพบ รอยกระสุนถูกยิงเข้าที่บริเวณหลังประตูฝั่งคนขับ จำนวน 1 รู และมีร่องรอยการถูกชนด้วย และยังพบกระบะอีกคัน ทะเบียน บล 1631 สุพรรณบุรี จอดอยู่