สาวแฉถูกหนุ่มการบิน ขับรถเหยียบจนเอ็นช้ำ ยังแถเปล่าชน ฉะไร้น้ำใจความเป็นคน (คลิป)

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Ploylalin Saengaroon" โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะตนเองกำลังถกเถียงกับชายวัยกลางคน ลักษณะคล้ายคนเมา เพราะชายรายดังกล่าว ขับรถชนเพื่อนตนแล้วหนี พร้อมข้อความ ระบุว่า “ฝากแชร์ด้วยนะคะ โดนชนแล้วหนี ตามตัวไม่เจอแล้ว ตอนเพื่อนไปเจออ้างว่าเป็นผู้จัดการการบินไทย ไม่นี้ไม่ทราบจริงเท็จอย่างไร และบอกว่าจะไม่รับผิดชอบ คือไม่ต้องมารับผิดชอบค่ารักษาก็ได้ แต่ช่วยลงมาดูหน่อย ผิดแล้วไม่มีสำนึก มาเบ่งใหญ่โต นี่บินการบินไทยตลอดเสียความรู้สึกมากที่องค์กร มีผู้จัดการสูงวัยทำตัวแบบนี้”

ล่าสุด วันนี้ (28 ธ.ค.) น.ส.พลอยลลินน์ ขุนหอม อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยเท้าด้านซ้ายใส่เฝือกอ่อน เนื่องจากเส้นเอ็นช้ำ น.ส.พลอยลลินน์ เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (27 ธ.ค.) เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะตนกำลังเดินข้ามถนน ประชาสงเคราะห์ ย่านห้วยขวาง มีรถยนต์ขับมาเหยียบที่เท้าซ้ายตน ขณะที่กำลังจะก้าวขาข้ามถนน ทำให้ตนหยุดเดินและหันไปมอง ขณะนั้น รถยนต์คันดังกล่าวได้จอดนิ่ง ตนคิดว่าคนขับน่าจะรับรู้ว่าขับรถชน ตนจึงได้ดึงเท้าตัวเองออกมาจากล้อรถ ก่อนเดินไปพักที่ริมฟุทปาธ แต่เมื่อหันกลับไป พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหนีไปแล้ว

ผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ขับตามหลัง อาสาขับรถไปตามรถคันที่ก่อเหตุ เนื่องจากพบว่า รถคันก่อเหตุได้ขับรถส่ายไปมาตั้งแต่ช่วงสุทธิสาร โดยลักษณะการขับรถคล้ายคนขับมีอาการเมา จากนั้นตนจึงโทรศัพท์ไปบอกเพื่อน ซึ่งเพื่อนได้ขับรถตามรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อไปตามตัวผู้ก่อเหตุ ก่อนจะได้พูดคุยกันตามคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ออกไป

ทั้งนี้ น.ส.พลอยลลินน์ เชื่อว่า หากมีสติ คนขับรถจะต้องเห็นว่าขับชนตน โดยหลังเกิดเหตุ คู่กรณีไม่เคยติดต่อมา แต่การออกมาในครั้งนี้ เพื่อให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาล และอยากให้อีกฝ่าย แสดงน้ำใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ด้านนายวุฒิชัย ใหม่แก้ว เพื่อนผู้เสียหายเล่าว่า ตนได้ตามไปพบกับชายผู้ก่อเหตุที่จอดรถเอนเบาะนอน อยู่ใกล้กับแยกห้วยขวาง เมื่อตนเดินเข้าไปหา มีผู้หญิงคนหนึ่ง คาดว่า น่าจะเป็นภรรยาเดินเข้ามาพอดี ชายรายดังกล่าวได้ออกมาพูดคุยกับตนข้างรถ ซึ่งตนได้แจ้งกับอีกฝ่ายไปว่า ขับรถชนเพื่อนตนได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้ก่อเหตุปฏิเสธ อ้างว่า ไม่ได้ชน แล้วพูดจาวกวนไปมา คล้ายคนเมา บางช่วงได้ทำท่าทีอวดอ้างว่า รู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กำกับการ จนสุดท้าย อีกฝ่ายอ้างให้ไปนำตัวเพื่อนที่ถูกรถชนมาพบ ตอนนั้นตนไม่มีทางเลือก จึงไปตามเพื่อน แต่เมื่อกลับมาถึงจุดจอดรถ ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป เหลือเพียงรถที่จอดทิ้งไว้ ตนจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทสายการบินชื่อดัง เพราะลูกน้องชายของผู้ก่อเหตุได้บอก และพบว่าหน้ารถคันเกิดเหตุมีการติดสติ๊กเกอร์ของบริษัทชื่อดังอีกด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง กล่าวว่า เบื้องต้นทราบชื่อ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า ขับรถชนผู้อื่นแล้ว และเตรียมออกหมายเรียก ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถคันก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องบังคับล้อ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา ผู้ดูแลผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์มาสอบถาม พร้อมระบุว่า ผู้ก่อเหตุจะเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังปีใหม่ ทั้งนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง ซ.รัชดา 11 จุดที่ผู้ก่อเหตุจอดรถทิ้งไว้ พบว่า กระจกรถด้านหน้า มีสติ๊กเกอร์ของบริษัทการบินไทยติดอยู่ ระบุฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น คาดว่าน่าจะเป็นบัตรผ่านเข้าพื้นที่สนามบิน ขณะเดียวกัน ฝ่ายภาพลักษณ์ และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว บุคคลดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัท การบินไทยฯ ขณะนี้พนักงานติดต่อบริษัท การบินไทยฯ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้ต้องตรวจสอบตามกระบวนการต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เร่งให้พนักงานคนดังกล่าว รีบดำเนินการในเรื่องที่ถูกกล่าวหาโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในด้านจริยธรรมซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดนอกเวลาการทำงานของพนักงาน จึงขอให้รอผลซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริงของการดำเนินการตามกระบวนการ และขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป