ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความพร้อมรูปถ่าย ชายถูกของมีคนฟันเข้าที่หน้า โดยระบุใจความว่า "สอบถามผู้รู้หน่อยครับ เวลา 6 โมงกว่า ลุงคนนี้แกได้เข้าไปขโมยบุหรี่ในร้าน แต่ลุงเป็นคนรู้จักกับคนในร้าน คือผัวเจ้าของร้านผัวเจ้าของร้านแกจับได้แกเอามีดฟันหน้าลุง แล้วแบบนี้จะทำยังไงได้บ้างครับ จะเอาผิดคน เอามีดฟันหน้าลุงแกได้หรือเปล่า ... ทางร้านได้แจ้งความจับลุงเรื่องขโมยบุหรี่ 1 ซอยแล้ว ถ้าลุงแจ้งข้อหาพยายามฆ่าจะได้ไหมครับ..."
ล่าสุดวันที่ 9 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ร้านขายของชำใน ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี พบกับ น.ส.ปัทมา ทำอิฐ หรือ เจ้ดา อายุ 51 ปี ภรรยาของช่างหนู อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุใช้มีดฟัน นายสมชาย ตาน้ำเที่ยง อายุ 51 ปี
น.ส.ปัทมา เล่าว่า นายสมชายเป็นคนรู้จักกับสามี ก่อนหน้านี้ให้สามีไปรับมาที่ อ.พานทอง เพราะจะมาหางานทำ สามีของตนเองจึงไปรับมาเพื่อจะทำงาน เป็นช่างรถยนต์ด้วยกันที่อู่แห่งหนึ่ง กระทั่งคืนวันที่ 6 ก.ค. 63 นายสมชายมาที่บ้าน และควักเงินซื้อเหล้ากิน กระทั่งเช้ามืดวันเกิดเหตุ วันที่ 7 ก.ค. นายสมชายกับสามีตนกลับจากไปยิงปลา จะเอามาทำกับข้าว นายสมชายมาถึงร้านก็บอกกับสามีตนว่าไม่มีเงิน เงินหมด แต่อยากกินเหล้า ขอเชื่อเหล้า 1 กัก มีเงินแล้วจะจ่ายให้ สามีตนก็บอกกับนายสมชายว่าอย่าลืมเอาค่าเหล้ามาให้ แล้วก็กินกันตามปกติ
จากนั้น นายสมชายบอกกับสามีตนอีกว่า "ไอ้น้อง ทำข้าวต้มปลาให้พี่กินหน่อย" สามีตนหันไปทำปลาที่อ่างล้างจาน ส่วนตนก็หันไปกดน้ำร้อนชงกาแฟกิน จังหวะนั้นนายสมชายเห็นว่าไม่มีใครอยู่บริเวณลิ้นชักเก็บเงิน จึงแอบไปเปิดขโมยบุหรี่ สามีเห็นตอนปิดลิ้นชักพอดี จึงเค้นถามว่าทำอะไร นายสมชายถึงจะยอมรับ
สามีบอกไปว่า "ทำไมถึงทำแบบนี้ อุตส่าห์ไปเอามาเพื่อจะทำงาน แต่กลับมาขโมยบุหรี่" แล้วก็ไล่ให้นายสมชายออกจากบ้าน บอกว่า "มึงไปเลยไป ถ้ามาทำแบบนี้กับกู มึงไปเลยไป"
จังหวะนั้น นายสมชายวิ่งไปหลังบ้าน ลักษณะไม่พอใจ สามีกับตนก็วิ่งตามไป นายสมชายหยิบจอบที่อยู่บนโต๊ะม้านั่งหลังบ้านทำท่าจะฟันสามีตน สามีจึงรีบแย่งจอบมา จากนั้น นายสมชายก็รีบไปหยิบมีดทำครัวที่วางบนโต๊ะจุดเดียวกับที่วางจอบ จะมาฟันสามีตน สามีตนจึงเข้ายื้อแย่งมีดและฟันโดนหน้านายสมชาย 1 ครั้งจนเป็นแผล ก่อนจะเสียหลักล้มลมไปใส่กระถางต้นไม้ทั้งคู่ ยืนยันว่าเป็นการป้องกันตัว
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ตนเดินทางไปเยี่ยมนายสมชาย เจ้าตัวยอมรับว่าทำผิดไป และขอโทษ หลังถูกฟันยังมานอนนึกดูว่า ไม่น่าทำแบบนี้เลย ยืนยันว่าฝ่ายตนไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายก่อน
นายสมชาย ตาน้ำเที่ยง อายุ 51 ปี ผู้บาดเจ็บ มีแผลที่โหนกแก้มฝั่งซ้าย หลังหูฝั่งซ้าย เย็บ 18 เข็ม ส่วนที่แขนข้อมือซ้ายหัก เปิดใจเล่าว่า ตนยอมรับว่าไปหยิบบุหรี่ในลิ้นชักจริง ตอนนั้นบุหรี่หมด เงินก็หมด กะว่ารับเงินค่าแรงที่อู่ซ่อมรถมาจะให้เงิน และที่ไม่บอกตอนนั้นเพราะกลัวนายหนูจะทะเลาะกับภรรยา จึงปากหนักไม่พูดว่าหยิบบุหรี่มา โดยที่นายหนูและภรรยาไม่เห็น กะว่าไปเคลียร์กันภายหลัง แต่ยังไม่ทันได้บอก นายหนูหันมาเจอตนหยิบบุหรี่ก่อน
จากนั้น นายหนูโวยวายขึ้นมา ไล่ตนไป แต่ตนกำลังจะไปเอาเสื้อผ้าและโทรศัพท์ในบ้าน ยืนยันว่าที่ไปหลังบ้าน ไม่ได้ไปหยิบจอบมาฟัน แต่เป็นนายหนูเองที่ขนอาวุธทุกอย่างจากข้างบ้านจะมาทำร้ายตน ใช้ไม้แท่งมาฟาดที่หัวตน ตนยกแขนมาบังจนข้อมือหัก ส่วนภรรยานายหนูมาห้าม นายหนูก็ใช้มีดอีโต้ทำครัวมาฟันที่หน้าและหลังหูตน จนเป็นแผล และตนเลือกที่จะไม่สู้เอง "ตนยอมรับเรื่องขโมยบุหรี่ แต่ติดใจว่าทำไมต้องทำร้ายตนขนาดนี้ เหมือนจะฆ่าให้ตาย ทั้งที่คุ้นเคยกัน" และตนติดใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล ซื้อนมมาเยี่ยม ช่วยเงินแค่ 300 บาท ตนอยากให้เข้ารับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายกับเขาพยายามฆ่าตน
