เจ้าหน้าที่สนธิกำลังหลายหน่วยงาน เข้าตรวจสอบ-จับกุมผู้บุกรุก ผาหัวสิงห์บนภูทับเบิก

9 ก.ค. 63

วันที่ 9 ก.ค.63 ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก และชุดพยัคฆ์ไพรกรมป่าไม้ นำโดยพ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศปป.4 กอ.รมน. นายอัครชัย อาสุ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก และนายสมชาย ฉิมแย้ม หัวหน้าฐานปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษชุดพยัคฆ์ไพร ภาคเหนือชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เพชรบูรณ์ กอ.รมน.จังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า สนธิกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณผาหัวสิงห์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านน้ำเพียงดิ นต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ หลังมีผู้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนกรณีพบมีสิ่งปลูกสร้างใหม่ และมีเต้นท์ถาวรสร้างบดบังภูมิทัศน์ บริเวณผาหัวสิงห์บนภูทับเบิก

740535

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ เพื่อทำการก่อสร้างรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และลานกางเต้นท์ ซึ่งเป็นการบุกรุกขยายพื้นที่รายใหม่จำนวน 3 แปลง โดยแปลงแรกมีพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ ประกอบด้วยที่พักมุงสังกะสี 4 หลัง และลานกางเต๊นท์

985087

ส่วนแปลงที่ 2 อยู่ติดกับผาหัวสิงห์ เป็นบริเวณที่ก่อสร้างอาคารตึกขาว 2 ชั้น และลานกางเต็นท์ ที่ถูกนำมาวิจารณ์ในโลกโซเชียล มีพื้นที่ราว 3 ไร่เศษ มีอาคาร 2 ชั้น 1 หลัง ห้องน้ำ ห้องสุขา 1 หลัง และลานกางเต็นท์ ซึ่งพบว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิมที่ครอบครองเพียง 1 ไร่เศษ และแปลงที่ 3 มีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1 หลัง และห้องน้ำจำนวน 1 หลัง

404110

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบนายเงี่ยป๋อ แซ่ท่อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินเดิม ก่อนที่จะแบ่งมอบที่ดินให้กับบุตร เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้ขอบเขตที่ดินทำกินเดิม และเจ้าหน้าที่ได้พบผู้ครอบครองใหม่ให้นำตรวจสอบและให้เซ็นต์รับมอบหนังสือห้ามก่อสร้างอาคาร และห้ามใช้อาคาร โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศคำสั่งดังกล่าวที่อาคารสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 ราย ได้แก่

510566

1.นายกัวเน้ง แซ่ท่อ ครอบครองพื้นที่จำนวน 12 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากบิดา จากการตรวจสอบถึงแม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากที่บิดาทำกินเดิม จึงผิดเงื่อนไขตามมติครม. ซึ่งถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด คณะเจ้าหน้าที่จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐานก่อสร้างแผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และมาตรา 55 ฐานผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อนให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น 1 หลัง เต็นท์กระโจม 7 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์

2.นายวีระ พจน์รักษ์มณี ครอบครองพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากพ่อตา มีสิ่งปลูกสร้างบ้านกระโจม 4 หลัง อาคารสำนักงาน 1 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

3.ราษฎรบ้านวังบาล ไม่ทราบชื่อ เป็นเจ้าของภูลมหนาวผาหัวสิงห์แคมป์ปิ้ง ครอบครองพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ไม่พบเจ้าของ มีมีสิ่งปลูกสร้างบ้านกระโจม 1 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา 2 หลัง และลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

861976

ขณะที่ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปป.4) กอ.รมน. บอกว่า สำหรับพื้นที่ผาหัวสิงห์หมู่ 8 ต.บ้านเนิน ยังอยู่ภายใต้คำสั่งหน.คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค. 2559 ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถยึดรื้อถอนทำลายได้ โดยจะติดประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดต่อไป โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ในบริเวณดังกล่าวอย่างเฉียบขาดเ พื่อป้องกันและควบคุมมิให้มีการกระทำผิดกฎหมายในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถไปเที่ยวชมบรรยากาศถ่ายรูปกางเต็นท์ได้ตามปกติ แต่ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าหน้าที่ติดป้ายไว้โดยเด็ดขาด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส