เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆต้อนรับเช้าวันนี้ สำหรับเรื่องราวของนางแบบสาวสวยลูก อย่าง "โอซา แวง" กับว่าที่สามีนักธุรกิจหนุ่ม "จอน ลอร์" โดยทั้งสองได้ถือฤกษ์ดีของวันนี้ (8 กรกฎาคม 2563) จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตลาดกระบัง แบบง่ายๆสไตล์สาว-หนุ่มลูกครึ่ง โดยทาง "สาวโอชา แวง" ก็จัดเต็มด้วยชุดสีขาวคล้ายๆชุดเจ้า
ซึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านี้ทาง "สาวโอชา แวง" โดนแฟนหนุ่มนักธุรกิจทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานไปเมื่ออช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมมีเเพลนจะต้องไปจดทะเบียนสมรสที่สิงคโปร์ และเตรียมจัดงานเเต่งที่มัลดีฟส์ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่แพลนทุกอย่างต้องเลื่อนไปเพราะสถานการณ์โรคระบาด
โดยบรรยากาศในวันนี้ (8 กรกฎาคม 2563) ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกดีใจของทั้งคู่ที่ฉายแววออกมาทางสายตา ทั้งนี้หลังจากที่เสร็จสิ้นทางพิธีการแล้วทั้งคู่ได้ควงคู่กันออกมาให้สัมภาษณ์คู่ โดยทาง "โอชา แวง" ตะโกนร้องลั่นเฮ ด้วยความรู้สึกดีใจ พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้นและสบายใจมากถือเป็นหนึ่งวันดีๆของเรา แต่มีหนึ่งสิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องเศร้านั้นก็คงเป็นเรื่องที่ทางคุณพ่อคุณแม่ของตนและฝ่ายชายไม่สามารถเดินทางมาร่วมในครั้งนี้ได้ เนื่องจากท่านอยู่เมืองนอก
เผยสำหรับการจดทะเบียนสมรสวันนี้ ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนนามสกุลไปใช่ของฝ่ายชาย ยังคงเป็นนามสกุลเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือจากนางสาว เป็น "นาง" ทั้งนี้ในส่วนของเเพลนเรื่องงานแต่งนั้นจากเดิมตอนที่ยังไม่มีสถานการณ์โควิด-19 ตนได้ตั้งไว้ว่าจะไปจดทะเบียนสมรสที่สิงคโปร์ และไปจัดงานแต่งที่มัลดีฟส์ แต่ตอนนี้ส่วนตัวต้องเปลี่ยนแผนทุกอย่าง คือเริ่มต้นจดทะเบียนสมรสที่ไทยเพราะตอนนี้เราทั้งคู่ก็บินไปเมืองนอกไม่ได้ เลยคาดว่าหากสถานการณ์โรคระบาดหายจะเตรียมบินไปจัดงานแต่งแบบเล็กๆเฉพาะครอบครัว ประมาณ 20 คนที่สิงคโปร์ หลังจากนั้นก็กะว่าจะบินไปจัดงานเลี้ยงคอลเทลเล็กๆที่นิวยอร์ก ส่วนจะเป็นช่วงเวลาไหนนั้ ต้องรอดูสถานการณ์อีกที เผยเเม้สถานที่จะยังไม่ชัดเจนแต่มีสิ่งหนึ่งที่พร้อมมาตลอดนั้นก็คือเรื่องชุดที่เตรียมไว้แล้ว 2 ชุด ตัดไว้ตั้งนานแล้ว
ทั้งนี้ "สาวโอชา แวง" ยังเล่าถึงความรู้สึกที่ยอมตกลงปลงใจกับทางฝ่ายชาย โดยเจ้าตัวยอมรับว่า จริงๆที่สุดแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แค่ "when you know you know ถ้าคุณรู้แล้วก็รู้แล้ว" ไม่ยาก ไม่คิดมาก ไม่เครียดง่ายๆ เผยส่วนตัวรู้สึกว่ารักของเราทั้งคู่ที่คบกันมาเกือบ 1 ปี กับการตกลงปลงใจแต่งงานครั้งนี้ก็ถือว่าเร็ว แต่ก็ตามที่บอกหากเรารู้แล้วว่าใช่ก็คือใช่ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะหากคิดมากอาจจะไม่ดี อีกทั้งอายุเราเองก็เยอะ ทั้งนี้ในส่วนของเสน่ห์ที่ทำให้หลงรักฝ่ายชายนั้น เป็นเพราะเขาเองเป็นคนง่ายๆ ตลอดจนอยู่ด้วยกันแบบสบายๆ โดยที่เขาเองก็ไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวเราเลย คือเราเป็นยังไงเขาก็รักเราที่เป็นแบบนั้น และอีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบในตัวเขาคือเป็นคนที่รักคุณพ่อกับคุณแม่ของตน คือแบบสนิทกันมากโทรหาบ่อยมากเช่นกัน ถือว่าเขาชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเรา
ขณะที่ทาง "จอน ลอร์" เองก็เผยถึงความประทับใจที่มีต่อฝ่ายหญิงว่า "จุดเริ่มต้นมาจากคำว่าเพื่อน แล้วเขาเองก็ชอบเราในสไตล์แบบนั้น จนถึงทุกวันนี้ "ฉันชอบเธอที่เธอเป็นเธอ ทั้งบุคลิกนิสัย อีกทั้งเราก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้รู้สึกว่า มันพอดีกับเรา" ท้ายสุดในเรื่องของทายาทนั้น ส่วนตัวขอปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ตอนนี้ขอโฟกัสทีละสเต็ปๆไปก่อน ยังไม่ได้จัดงานเลี้ยงฉลองเลย เรื่องนั้นขอไว้ก่อน ทั้งนี้หากจะมีแพลนจริงก็คงปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติไม่ได้คาดหวังว่าจะมีเมื่อไหร่ ชีวิตไม่มีแพลน ติดก็คือติด หากไม่ติดก็เดินหน้าต่อไป
